การเมืองปี 66 เปลี่ยนไว จับตา บิ๊กตู่-ลุงป้อม เดินเกมส์วัดใจ

14 ธ.ค. 2565 | 23:10 น.

สุขุม นวลสกุล วิเคราะห์ การเมืองปี 66 เปลี่ยนไว ไม่นิ่ง บิ๊กตู่-ลุงป้อม เดินเกมส์วัดใจ ความทะเยอทะยาน จะอยู่เหนือความผูกพันหรือไม่ คนรุ่นใหม่ พร้อมแข่งขันบ้านใหญ่

ท่ามกลางสถานการณ์การเมือง ที่ยังมีความเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลง ยิ่งเข้าใกล้การเลือกตั้งมากยิ่งขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งได้เห็นความสั่นไหวทางการเมืองมากขึ้นเท่านั้น แม้ใกล้สิ้นปี 2565 แล้วก็ตาม ก็ยังไม่สามารถคาดการณ์ สถานการณ์การเมืองในปีหน้าได้ชัดเจนมากนัก ทีมข่าวฐานเศรษฐกิจ ได้สัมภาษณ์พิเศษ ดร.สุขุม นวลสกุล อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ ถึงสถานการณ์ทางการเมือง ในปี 2566 

 

“การเมืองวันนี้ยังไม่ลงตัว จะชัดเจนต่อเมื่อ ยุบสภา หรือหมดวาระกันจริงๆก่อน ซึ่งอาจถึงขั้น ตอนเช้าอยู่กับอีกพรรคหนึ่ง ตอนลงสมัครเป็นชื่ออีกพรรคหนึ่งก็ได้”อ.สุขุมกล่าว

เมื่อถามถึงสถานการณ์การเมือง ในปี 2566 อ.สุขุม กล่าวว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการเดินเกมส์ ของทั้งพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งไม่ชัวร์ว่านาทีสุดท้ายจะเป็นอย่างไร แต่ ณ เวลานี้ บิ๊กป้อมตั้งความหวังใส่ตัวเสียแล้ว

 

โดยไม่รู้ว่า สุดท้ายแล้ว ความผูกพันจะเหนือกว่าความทะเยอทะยานส่วนตัวหรือไม่ 
และเราก็ไม่รู้ว่า ใครคือคนที่มีอำนาจ หรือเป็นแบ็ค เหนือทั้ง 2คนนี้ ซึ่งอาจจะเป็นแบ็คในรูปแบบของแนวร่วมก็ได้ ซึ่งคาดการณ์ไม่ได้ว่า จะเอาอย่างไร

 

ดร.สุขุม วิเคราะห์ต่อว่า หากบิ๊กตู่ และบิ๊กป้อมแยกกันคงเฉาทั้งคู่ เพราะ คนที่มีพลังดึงดูดทางการเมือง คือบิ๊กตู่ แต่ในแง่เครือข่าย บิ๊กตู่สู้บิ๊กป้อมไม่ได้ ทั้งคู่คือส่วนขาดซึ่งกันและกัน หากแยกกันก็เหลือพลังแค่ครึ่งเดียว ทั้งคู่มีจุดแข็งคนละอย่าง ถ้ารวมกันจะน่ากลัว

 

แต่ต่อให้วันนี้แยกกัน ก็กลับมารวมกันได้อีก ซึ่งหากแยกกันไป ก็ไปแบบร่องแร่ง เหลือครึ่งเดียว คนยังแซวว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.)จะมีส.ส.ถึง 25เสียงหรือไม่ แต่ละชื่อที่ปรากฏว่าไปอยู่ พรรค รทสช.มักเป็นคนไม่ค่อยมีคะแนน จะมีแค่ คุณสุชาติ ชมกลิ่น ที่มีคะแนนไปด้วย นอกนั้นบ้านใหญ่อยู่กับบิ๊กป้อม 

ฉะนั้น ให้ทายการเมืองวันนี้ ยังนึกไม่ออกว่า ถ้า ส.ส. เล่นกันแบบนี้จะถึงขั้นยุบสภาหรือไม่ เพราะนายกฯเอง ที่ยืนยันไม่ยุบสภา แต่ส.ส.ทยอยกันลาออก ตรงนี้สะท้อนว่ามันเปลี่ยนเร็ว จะระบุเป็นไทม์ไลน์เลยไม่ได้

 

การเมืองอาทิตย์หน้าก็เปลี่ยนแล้ว จะถามถึงปีหน้าทั้งปีนั้น คนทายการเมือง เดือนมกราคมยังทายถูกอยู่ พอถึงเดือนกุมภาพันธ์อาจกลายเป็นผิดก็ได้ เพราะเปลี่ยนเร็ว เช่น นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ก็ยังย้ายไปอยู่พปชร. ได้ โดยไม่มีใครคิด แต่ละพรรคที่เห็นตั้งๆกันอยู่ เผลอๆอาจไปไม่ถึงวันเลือกตั้ง อย่างพรรคคุณสมคิด ตอนนี้ดูเคว้งคว้าง เพราะตั้งพรรคแล้วไม่ดึงดูดใจนายทุนเท่าที่ควร และก็มีหลายคนไม่ปฏิเสธข่าว เรื่องการมีค่าตัวในการเข้าสังกัดพรรคต่างๆ โดยเฉพาะตัวเก็ง 

 

“ยุคนี้นักการเมืองทุกคนรู้สึกว่าตัวเองโตขึ้น ส.ส.เกือบทุกคนคิดว่าตัวเองเป็นรัฐมนตรีได้ เป็นตัวเก็งได้ แต่ไม่มีโอกาสก็เพราะ รุ่นเก่าบังทางอยู่ต่างหาก”

ดร.สุขุมระบุว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับนักการเมืองยุคนี้คือ คนเล็กมีน้อย เหลือแต่คนใหญ่ๆทั้งนั้น นักการเมืองเติบใหญ่กันทุกคน ทุกคนเชื่อในศักยภาพของตัวเอง เชื่อมั่นในบารมีของตัวเอง ไม่เหมือนเมื่อก่อน ที่คนตัวใหญ่มีไม่มาก แต่ทุกวันนี้นักการเมืองมีความเชื่อมั่นในกลุ่มของสูงขึ้น อย่างเช่น คุณหญิงหน่อย เป็นต้น ซึ่งแบบนี้ไม่ได้เป็นในทุกยุค

ดร.สุขุม กล่าวถึงสภาพการเมืองไทยที่ผ่านมาว่า การเมืองประเทศไทยไม่มีผลัดใบ ทำให้คนอื่นๆทนไม่ไหว บ้านใหม่ไม่มีโอกาสได้เกิด มีแต่บ้านใหญ่

 

การที่นักการเมือง ย้ายพรรค หรือรวมตัวกันในปัจจุบัน เป็นเพราะพื้นที่มีจำกัด จังหวัดขยายตัวไม่ทันความต้องการของนักการเมืองที่จะเป็นส.ส. แต่ละพื้นที่แข่งกันหนักหน่วง ตอนนี้เป็นช่วงหาทางลงตัว เพราะเวลามันใกล้เข้ามาทุกที เป็นช่วงหาที่ทาง ที่มีพื้นที่ให้ได้เล่นการเมือง

 

"ความมั่นใจของนักการเมืองรุ่นใหม่ๆในยุคนี้ ที่พร้อมแข่งขันกับนักการเมืองรุ่นใหญ่ ส่วนหนึ่งเกิดจาก ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีเห็นได้จาก ปรากฏการณ์การเลือกตั้ง ในปี 2562 ที่พรรคอนาคตใหม่ ได้เก้าอี้ ส.ส.ไปเป็นจำนวนมาก ทั้งที่แทบไม่มีเวทีปราศรัยเลย ตรงนี้จึงสะท้อนภาพ และสร้างความมั่นใจให้นักการเมืองรุ่นใหม่ว่าสามารถหาคะแนนเสียงได้ตรงเป้ามากกว่านักการเมืองที่ low-tech"