ปชป.ซัด “ภูมิใจไทย” ยันไม่มีใครปัญญาอ่อนไปจัดฉากเด็กให้พี้กัญชา

04 ธ.ค. 2565 | 10:07 น.

โฆษกปชป. ป้อง "หมอบัญญัติ" ซัด “ภูมิใจไทย” ไม่มีใครปัญญาอ่อนไปจัดฉากเด็กให้พี้กัญชา เตือนอย่านิ่งดูดายสังคม

 

วันที่ 4 ธันวาคม 2565 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวถึงกรณีที่ นายอนุทิน ชาญวีระกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้ออกมากล่าวหา นพ.บัญญัติ เจตนจันทร์ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ ว่า มีการจัดฉากให้ ให้คนมาถ่ายรูปเด็กกำลังพี้กัญชา ที่ริมชายหาดพัทยา เพื่อต้องการให้มีประเด็นในทางการเมืองว่า คงไม่มีใครปัญญาอ่อนไปจัดฉาก ซื้อบ้องกัญชามาให้เด็กพี้กัน เพื่อเอามาเป็นประเด็นห่ำหั่นกันในทางการเมือง นักการเมืองที่ดีที่มีจิตสำนึก ไม่มีใครทำกันอย่างแน่นอน แค่คิดก็แย่มากแล้ว


“กรณีเด็กพี้กัญชา เรื่มต้นมาจากการนำเสนอข่าวมาจากสื่อมวลชน นพ.บัญญัติ ในฐานะ ส.ส.ที่ได้ติดตามเรื่องนี้ ก็ได้นำแถลงเพื่อหาทางในการแก้ปัญหาเรื่องนี้ ภูมิใจไทยต้องหาหลักฐานมาว่า นพ.บัญญัติ จัดฉากอย่างไรทำด้วยวิธีการไหน ให้เวลา 7 วัน ถ้า 7 วัน หาหลักฐานไม่ได้ คนพูดก็ต้องแสดงความรับผิดชอบเรื่องนี้”


โฆษก ปชป.ระบุว่า การกล่าวหาเช่นนี้ในทางการเมืองเสียหายมาก การกล่าวหา นพ.บัญญัติ ชัดเจนว่าเพื่อเป็นข้ออ้างข้อแก้ตัวให้กับนโยบายกัญชาเสรี ที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสังคมส่วนรวม ที่ปรากฏให้เห็นเป็นระยะๆ 


นายราเมศ กล่าวต่อว่า การที่อ้างว่า ถ้าอยากให้ปัญหาหมดไป พรรคประชาธิปัตย์ต้องผ่านร่างกฎหมายกัญชา คำพูดย้อนแย้งอยู่ในตัวทั้งสิ้น นาทีที่ผ่านมาบอกจัดฉาก นาทีต่อมารับว่ามีปัญหา ถ้าอยากแก้ก็กลับโยนมาที่พรรคประชาธิปัตย์ 


“ทั้งๆ ที่ มีหลายฝ่ายท้วงติง ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ก็ท้วงติงให้ร่างกฎหมายออกมารอบคอบรัดกุม ถึงพยายามบอกว่ากฎหมายที่ร่าง ยังไม่ได้มีการควบคุมการเข้าถึงของเด็กและเยาวชน ร่างกฎหมายยังไม่มีมาตราไหนที่จะมาควบคุมอย่างรอบคอบ ถ้าปล่อยให้ร่างกฎหมายผ่านไป เยาวชนคนไทยจะเป็นอย่างไรในอนาคต นี่คือความห่วงใย” 


โฆษกพรรคปชป. ย้ำว่า อยากให้นักการเมืองทุกคนได้ตระหนักในเรื่องนี้ การยอมรับปรับแก้เพื่อประโยชน์ส่วนรวม ไม่ใช่เรื่องน่าละอาย หากปล่อยให้ร่างกฎหมายผ่าน วันข้างหน้าเดินไปตรงไหน เห็นแต่เด็กและเยาวชนสูบกัญชา มีผลกระทบต่อการเรียนต่อสังคม คนที่ทำหน้าที่ออกกฎหมายจะละอายใจมาก 


“ยกเว้นนักการเมืองที่ไม่มีจิตสำนึก ก็จะหาข้ออ้างไปเรื่อย ถึงย้ำว่าเรื่องกัญชาเสรี นักการเมืองอย่านิ่งดูดายสังคมกันเลย” 

 

นายราเมศ กล่าวด้วยว่า ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ กับ พรรคภูมิใจไทย ในทางการเมืองต้องต่อสู้กันอยู่แล้ว พรรคภูมิใจไทยไม่ควรมาท้าทาย แต่หลักการต่อสู้ต้องอยู่ภายใต้ครรลองของระบบประชาธิปไตย ต่อสู้กันด้วยหลักสุจริต ต่อสู้กันด้วยนโยบายที่ดีที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม ท้ายที่สุดเชื่อว่าประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจ