นายกฯสั่งช่วยเหลือ ด้านมนุษยธรรม ตามที่ศรีลังการ้องขอ

18 ส.ค. 2565 | 08:24 น.

รองโฆษกรัฐบาล เปิดเผยว่า นายกฯ ได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไทยให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมตามที่ได้รับการร้องขอจากศรีลังกาตามความเหมาะสม

            วันที่ 18 ส.ค.65 นางสาว รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ทราบและติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองภายในประเทศศรีลังกา โดยเฉพาะวิกฤตเศรษฐกิจล่าสุด พร้อมสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือตามความเหมาะสมแก่ศรีลังกา

 

 จากเหตุการณ์ดังกล่าว สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโคลัมโบ ได้ประกาศทางเฟซบุ๊กเตือนชาวไทยในศรีลังกาให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังพื้นที่ชุมนุมประท้วงและติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด ซึ่งยังไม่มีการรายงานว่าคนไทยได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

นางสาว รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

รองโฆษกรัฐบาล กล่าวว่า ด้วยความสัมพันธ์อันใกล้ชิดระหว่างไทยกับศรีลังกา และเป็นการแสดงไมตรีจิตต่อศรีลังกาในช่วงที่ต้องเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจและประสบกับความยากลำบากในการจัดหายา และเวชภัณฑ์ รวมทั้ง สิ่งของจำเป็นซึ่งกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนศรีลังกา ไทยจึงได้ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมตามที่ได้รับการร้องขอตามความเหมาะสม

             

ในโอกาสนี้ กระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งขอความช่วยเหลือจากภาครัฐ ภาคประชาสังคม และภาคเอกชนที่ลงทุนในศรีลังกา ทำให้สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโคลัมโบ ได้โอนเงินบริจาค และจัดส่ง ยา และเวชภัณฑ์ บางส่วนแก่ศรีลังกาแล้ว ซึ่งโดยรวม ภาครัฐและเอกชนไทยได้มอบยาและเวชภัณฑ์ไปแล้วกว่า 235 รายการ และเงินให้ศรีลังการวมมูลค่ามากกว่า 4 ล้านบาทแล้ว
 

 ทั้งนี้ ทางกระทรวงการต่างประเทศได้จัดการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือถึงแนวทางให้ความช่วยเหลือแก่ศรีลังกา และช่องทางการรับบริจาคสิ่งของที่จำเป็นเพื่อความสะดวกในการประสานงาน และจะได้บริจาคให้กับศรีลังกาต่อไป

           

“เมื่อคำนึงถึงความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด ความเชื่อมโยงทางพุทธศาสนา และเป็นการแสดงไมตรีจิตในช่วงเผชิญวิกฤต จากสถานการณ์การเมือง ปัญหาเศรษฐกิจ และประสบกับความยากลำบาก ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนชาวศรีลังกาโดยตรง

 

รัฐบาลไทยพร้อมให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่มิตรประเทศตามความเหมาะสม โดยนายกฯ ขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่มีส่วนร่วมให้ความช่วยเหลือ และได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาติดตามความคืบหน้าตามสถานการณ์เป็นระยะ รวมทั้งขอให้การดำเนินการให้ความช่วยเหลือเป็นไปตามความต้องการ ความจำเป็น และความเหมาะสม” นางสาวรัชดาฯ กล่าว