"อนุชา" งัดเอกสารโต้ ปมเช่าศาสนสมบัติ ชี้โครงการเริ่มยุคปู ไม่ใช่ลุงตู่

21 ก.ค. 2565 | 16:16 น.

"อนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกฯ" งัดเอกสารโต้ฝ่ายค้าน โดนกล่าวหาทุจริตสำนักพุทธฯ ปมทำสัญญา เช่าศาสนสมบัติ ตลาดเฉลิมโลก ชี้ จุดเริ่มต้นเกิดในปี 57 ชี้ สมัยอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ไม่ใช่ประยุทธ์

วันที่ 21 ก.ค. ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ญัตติ "อภิปรายไม่ไว้วางใจ" รัฐมนตรีเป็นรายบุคคล โดยเวลา 21.00 น. นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีชี้แจงแทน 

"อนุชา" งัดเอกสารโต้ ปมเช่าศาสนสมบัติ ชี้โครงการเริ่มยุคปู ไม่ใช่ลุงตู่

ในกรณีที่นายนิยม เวชกามา ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจ กล่าวหา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ไม่ตรวจสอบให้มีการ เช่าศาสนสมบัติ "ตลาดเฉลิมโลก ประตูน้ำ"

 

โดยนายอนุชา ได้กล่าวพร้อมโชว์เอกสารในที่ประชุม พร้อมระบุว่า เรื่องท่านกล่าวหาที่เช่าศาสนสมบัติ กรณีตลาดเฉลิมโลก ประตูน้ำ เริ่มจาก ปี 2556 มีประกาศให้ยื่นซองปรับปรุง แล้วก็มีแจ้งให้มหาเถรสมาคม ปี 2557 รับทราบจนมีมติออกมา 

"อนุชา" งัดเอกสารโต้ ปมเช่าศาสนสมบัติ ชี้โครงการเริ่มยุคปู ไม่ใช่ลุงตู่

"ซึ่งคนยุคนี้ไม่เกี่ยวข้องเลย ไปเกี่ยวข้องคนยุคไหน ดังนั้นท่านอาจถูกหลอก มีคนเอาข้อมูลผิดมาให้ ท่านอาจเข้าใจผิด เกรงว่า ท่านจะก้าวล่วงไปกับบุคคลในอดีต เหนืออื่นใดบุคคล ได้เป็นกรรมการมหาเถรสมาคม และหนีออกนอกประเทศ ลงนามเป็นเลขาธิการในปี 2557 ไม่ทราบทุจริตมีมาในสมัยไหน ท่านอาจได้รับเอกสารมาผิด"


โดยก่อนหน้านี้ ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ของนายนิยม เวชกามา ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย นั้น กล่าวหาว่านายกรัฐมนตรี มีพฤติกรรมส่อไปในทางทุจริตต่อหน้าที่ ปล่อยปละละเลย มีส่วนรู้เห็นและสมคบคิดให้มีการทุจริตแสวงหาผลประโยชน์ภายในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา โดยเอื้อผลประโยชน์ให้พรรคพวกและบริวาร และไม่ดำเนินการตรวจสอบยับยั้ง จนทำให้เกิดความเสียหายต่อผลประโยชน์ของคณะสงฆ์และพุทธศาสนาอย่างมาก

"อนุชา" งัดเอกสารโต้ ปมเช่าศาสนสมบัติ ชี้โครงการเริ่มยุคปู ไม่ใช่ลุงตู่

   
ทั้งประเด็นไปที่คำสั่ง คสช. มาตรา 44 มีความผิดปกติในการแต่งตั้ง พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้บัญชาการสำนักคดีภาษีอากร กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มาเป็นผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เมื่อปี 2560 ซึ่งเป็นการแต่งตั้งจากซี 8 สู่ซี 10 ซึ่งไม่มีใครเขาทำกัน และหลังจากที่ พ.ต.ท.พงศ์พร เกษียณอายุราชการแล้ว ก็ยังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ด้านการพระพุทธศาสนา รวมทั้งยังมีตำแหน่งที่ปรึกษาของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติด้วย

"อนุชา" งัดเอกสารโต้ ปมเช่าศาสนสมบัติ ชี้โครงการเริ่มยุคปู ไม่ใช่ลุงตู่

พร้อมระบุว่าในยุคที่ พ.ต.ท.พงศ์พร เป็น ผอ.สำนักพุทธฯ ถือว่าเป็นยุคที่คณะสงฆ์ปั่นป่วนอย่างมาก พร้อมกับกล่าวหาว่า ได้มีการนำสมบัติทางพุทธศาสนาไปทุจริตคอร์รัปชั่น เอื้อประโยชน์แก่เอกชนอย่างมหาศาล โดยนำตลาดเฉลิมโลก สี่แยกประตูน้ำ ซึ่งเป็นศาสนสมบัติกลาง หรือเป็นทรัพย์สินของพระพุทธศาสนา ที่คณะสงฆ์ซื้อที่ดินในบริเวณดังกล่าวจากเอกชนมาตั้งแต่ปี 2477 ไปทำการฉ้อฉลหาประโยชน์ โดยในเมื่อ มิ.ย. 62

 

พ.ต.ท.พงศ์พร ในฐานะผอ.สำนักพุทธฯ ได้นำที่ดินบริเวณดังกล่าวจำนวน 22 ไร่ ไปให้บริษัท พร็อพแม็กซ์ จำกัด ทำสัญญาเช่า มูลค่า 400 ล้านบาท ระยะเวลาถึง 40 ปี ซึ่งในรายละเอียดของสัญญา จะทำให้สำนักพุทธฯ เสียเปรียบมาก นอกจากนี้ ยังมีความไม่ชอบมาพากลเนื่องจากมีการทำสัญญาเช่าไปล่วงหน้า 2 เดือน ก่อนที่จะนำเสนอขออนุมัติต่อที่ประชุมมหาเถรสมาคมในเดือนส.ค.62 ในขณะที่ผู้เช่ารายเดิมยังไม่หมดสัญญา เพราะสัญญาเดิมทำไว้ถึงปี 68 ซึ่งผู้เช่ารายเดิมได้มีการยื่นฟ้องร้องสำนักพุทธฯ ไว้แล้ว
  "อนุชา" งัดเอกสารโต้ ปมเช่าศาสนสมบัติ ชี้โครงการเริ่มยุคปู ไม่ใช่ลุงตู่
"เริ่มต้นสัญญาก็ผิดแล้ว ตามประมวลกฎหมายแพ่ง สัญญาเช่าไม่สามารถทำเกิน 30 ปี แต่ ผอ.คนนี้ เร่งรีบ รีบทำ จึงสงสัยว่าทำไมต้องทำสัญญาที่ผิดกฎหมาย สัญญาเช่า 400 ล้านบาท 40 ปี...สัญญาเช่า 3 ปีแรก ไม่เก็บค่าเช่า ปีที่ 4-10 เก็บค่าเช่าปีละ 780,000 บาท หรือตกเดือนละ 65,000 บาท ที่ตกนี้ยิ่งกว่าทองคำ แผงขายผ้ายังโดนเก็บเดือนละแสน แต่ศาลแพ่ง จะทำสัญญา เดือนละ 65,000 บาท ไม่ฉ้อฉลได้อย่างไร" นายนิยม กล่าว