“อนุทิน” โต้ไม่มีวัคซีนรอวันหมดอายุ-เททิ้ง อย่าดึงโควิดเป็นเกมการเมือง

19 ก.ค. 2565 | 09:00 น.

“อนุทิน” โต้ฝ่ายค้าน หลังเจอโจมตีรัฐบาลด้อยค่าวัคซีน ในศึก อภิปรายไม่ไว้วางใจ 2565 รับไม่มี วัคซีนเหลือ หรือรอวันหมดอายุ หรือต้องไปเททิ้ง ท้า “หมอสุรวิทย์” ถ้าเจอให้แจ้งจะทำหนังสือไปขอมาฉีดให้คนไทย ขอร้องอย่าดึงโควิดเป็นเกมการเมือง เอาเรื่องอื่นมาสู้ดีกว่า

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตอนหนึ่งถึงกรณีการบริหารวัคซีนป้องกันโควิด-19 ว่า ขอร้องฝ่ายค้านอย่าด้อยค่าวัคซีน และตอนนี้ก็ไม่มีวัคซีนที่รอวันหมดอายุ หรือถูกเททิ้ง เพราะมีแต่วัคซีนที่รอฉีดเพิ่มเสริมภูมิคุ้มกันให้ประชาชน

 

“ขอความกรุณาว่า พวกท่านต้องไม่ด้อยค่าวัคซีน ปัจจุบันประเทศไทยได้จัดหาวัคซีนได้ครอบคลุมทุกช่วงอายุ นำหน้าหลาย ๆ ประเทศ ไม่มีวัคซีนเหลือ หรือรอวันหมดอายุ หรือต้องไปเททิ้ง โดยประเทศไหนที่จะเททิ้งวัคซีนก็ขอให้นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย แจ้งมา ผมจะทำหนังสือไปขอรับบริจาคให้ประเทศไทยเพื่อไปฉีดให้บุคลากรที่มีความเสี่ยงอื่น ๆ ทั้งคนไทยหรือคนที่อยู่ตามแนวชายแดน หรือส่งต่อให้กับประเทศที่ไม่มีกำลังการต่อรองเพียงพอได้”

 

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

ขณะเดียวกันยังยืนยันว่า ประเทศไทยยังมียารักษาเพียงพอที่จะรักษาผู้ป่วยในกรณีที่ติดเชื้อโควิด-19 โดยสิ่งที่ฝ่ายค้านควรจะทำในฐานะของผู้แทนปวงชนชาวไทย คือต้องไปช่วยกันขอร้องให้ประชาชนที่ยังไม่ได้รับฉีดวัคซีน ให้พากันออกมาฉีดวัคซีนให้มากที่สุด เพราะประชาชนจะได้มีภูมิคุ้มกันถ้วนหน้าดำรงชีวิตเป็นปกติได้

 

นายอนุทิน กล่าวว่า ตามข้อมูลของฝ่ายค้านที่นำเสนอเป็นเท็จ และไม่ได้กรอง ต่างจากฝั่งรัฐบาลเวลาจะมาพูดอะไรก็ต้องผ่านการกรองก่อนมาเผยแพร่ข้อมูลสู่ประชาชน โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและชีวิต เช่น การดูถูกหลักการแพทย์ การด้อยค่าวัคซีน ด้อยค่ายา ด้อยค่าเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ ถือว่าโหดร้าย เพราะถือว่าแลกชีวิตของประชาชนเพียงเพื่อตอบสนองเป้าหมายทางการเมือง มันไม่คุ้มค่า และไม่ควรทำ เพราะเราเป็นผู้แทนของประชาชน

 

 

“ขอความกรุณาให้เว้นเรื่องของการสาธารณสุขสักเรื่อง เพราะประชาชนต้องเผชิญความยากลำบากมามากเพียงพอแล้ว ถ้าจะขับเคี่ยวกันทางการเมือง ยังมีอีกหลายประเด็นในการขับเคี่ยวกันได้ โดยแข่งขันกันได้ในพื้นที่ของเรา ถ้ามองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของความบาดหมางกันระหว่างพวกท่านกับพวกผม ก็ขอให้เป็นเรื่องของพวกเรา อย่าไปเอาประชาชนทั้งประเทศมาเกี่ยวข้อง”

 

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข