“วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” ประกาศรีดภาษีนายทุนเติมสวัสดิการคนกทม.

15 พ.ค. 2565 | 13:46 น.

"วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” ดีเบตผู้ว่าฯ กทม. โค้งสุดท้าย ประกาศ หากได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. จะไม่มีนายทุน ผู้ประกอบการขนาดใหญ่รายไหนจ่ายภาษีราคาถูก หลบเลี่ยง พร้อมจัดเก็บรายได้จากคนตัวใหญ่เติมสวัสดิการคนกทม. ทั้งเด็ก คนพิการ ผู้สูงอายุ กระจายงบประมาณลงทุกเขต

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร หมายเลข 1 พรรคก้าวไกล เปิดเผยในงานดีเบต “โค้งสุดท้าย...ศึกชิงผู้ว่าฯ กทม. 2565” จัดโดยเนชั่น กรุ๊ป ว่า หากได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. จะไม่มีคนตัวใหญ่ นายทุน ผู้ประกอบการขนาดใหญ่รายไหนจ่ายภาษีราคาถูก หลบเลี่ยง และได้บริการแบบวีไอพี โดบจะเก็บรายได้ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นธรรม

 

“ที่ผ่านมาร้านสะดวกซื้อจ่ายค่าขยะแค่เดือนละ 120 บาท เก็บภาษีป้ายเข้าระบบแค่ 30% แต่ไปรีดภาษีป้ายจากตึกแถว และนายทุนเอาที่ดินไปปลูกกล้วยปลูกมะนาวเพื่อเลี่ยงภาษี ดังนั้นหากได้เป็นผู้ว่าฯ เราจะไม่รนเปรออภิสิทธิ์ชน และปล่อยปะละเลยอย่างนั้นแน่”

 

ทั้งนี้มีแนวคิดว่าจะจัดเก็บรายได้จากคนตัวใหญ่อย่างเป็นธรรม เพื่อจะช่วยลดความเหลื่อมล้ำ และจัดการปัญหาต่าง ๆ ให้กับคนตัวเล็ก เช่น เอาไปอุดหนุนค่ารถเมล์ จ่าย 70 บาท ใช้ได้ 100 บาท ใช้งบประมาณแค่ 700 ล้านบาท เอาไปลอกท่อ ลอกคลอง 2,000 ล้านบาท เอาไปเสริมอาหารกลางวันเด็ก 1,000 ล้านบาท และฉีดวัคซีนแก้ปอดอักเสบ 400 ล้านบาท

 

ที่สำคัญคือเอารายได้ส่วนนี้ไปเติมสวัสดิการให้กับเด็ก ผู้พิการ และผู้สูงอายุมากขึ้น ซึ่งถ้าทำได้ เชื่อว่า ต่อจากนี้ไปจะไม่มีผู้ว่าฯ คนต่อจากนี้กล้าตัดงบตรงนี้แน่นอน

ขณะเดียวกันยังเตรียมรื้องบประมาณใหม่ โดยไม่ทำงบแบบรวมศูนย์ แต่จะกระจายงบประมาณไปยังเขตต่าง ๆ ทั่วกรุงเทพฯ 50 เขต เขตละ 5 แสนบาท ถึง 1 ล้านบาท เพื่อเอาไปใช้ในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ให้ตรงตามความต้องการของพื้นที่ด้วย

 

ส่วนการแก้ปัญหาด้านอื่น ๆ เช่น การแก้ปัญหาน้ำท่วม ชัดเจนว่าเรื่องนี้มีปัญหาจากการจัดงบประมาณ ที่ไม่คำนึงถึงประชาชน เพราะงบประมาณไปอยู่กับอุโมงค์ยักษ์ 2,000 ล้านบาทต่อปี แต่งบบำรุงรักษาสถานีสูบน้ำขอไป 5,000 ล้ายบาท กลับได้การอนุมัติแค่ 136 ล้านบาทเท่านั้น

 

ไม่เพียงแค่นี้ ยังมีงบเครื่องสูบน้ำจาก 1,000 ล้านบาทตัดเหลือศูนย์ และอีกหลายงบ เช่น งบทำเขื่อนกั้นน้ำไม่ให้เอ่อล้นขอไป 4,000 ล้านบาท เหลือแค่ 600 ล้านบาท งบลอกท่อหักเงินเดือนเหลือ 117 ล้านบาท ซึ่งเรื่องนี้หากเป็นผู้ว่าฯ กทม. และมีสก.ของพรรคก้าวไกล จะอนุมัติงบให้ใหม่ ตัดงบที่ไม่จำเป็นออก รวมทั้งยังมีผู้เข้ามาตรวจสอบการทำงานด้วย

ขณะที่ด้านเทคโนโลยีนั้น เห็นว่า เราไม่ควรสำลักเทคโนโลยีจนเกินไป โดยสิ่งที่อยากเห็นคือการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่ช่วยสร้างสิทธิในการรับรู้ รู้การใช้งบประมาณ เช่น งบระบายน้ำ การแจ้งว่าเขตไหนมีฝุ่นมาก รถเมล์สายไหนจะมา และมีเทคโนโลยีที่สามารถใช้ตรวจสอบความโปร่งใสในโครงการต่าง ๆ ได้

 

นอกจากนี้ในเรื่องของการท่องเที่ยว ต้องผลักดันการแก้ไข พ.ร.บ.โรงแรม เพื่อจัดเก็บรายได้เข้าสู่ระบบมากกว่าปัจจุบัน เพื่อนำมาพัฒนาเมือง ทำพื้นที่สีเขียว ลอกคลอง สร้างสิ่งอำนวยสะดวก และสร้างการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน