"ปารีณา"ร้องป.ป.ช.สอบจริยธรรม“เสรีพิศุทธ์”ปมท่าเรือรุกแม่น้ำเจ้าพระยา

18 เม.ย. 2565 | 10:30 น.

“ปารีณา ไกรคุปต์”เอาคืน บุกร้องป.ป.ช.สอบอนุป.ป.ช.-ตร. เหตุไม่เอาผิด “เสรีพิศุทธ์”รุกล้ำลำน้ำแควน้อย พ่วงร้องสอบจริยธรรมร้ายแรงปมสร้างท่าเรือผิดแบบในแม่น้ำเจ้าพระยา ทั้งให้สอบ “ยุทธพงศ์”ปมแถลงข่าวซื้อเรือดำน้ำทำรัฐเสียหาย

วันนี้ (18 เม.ย.65)  น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้เข้ายื่นเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้ตรวจสอบรวม 4 กรณี    

น.ส.ปารีณา กล่าวว่า ในวันนี้มายื่นเรื่องให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบรวม 4 ประเด็น คือ 1. ขอให้ตรวจสอบอนุกรรมการ ป.ป.ช. กรณีการไต่สวน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย รุกล้ำลำน้ำแควน้อย จ.กาญจนบุรี ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการชี้มูลความผิด ทั้งที่มีคำสั่งศาลปกครอง และคำสั่งกรมเจ้าท่า ให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่มีการรุกล้ำลำน้ำ รวม 3 ไร่  แต่ปัจจุบันยังไม่มีการรื้อถอน และมีการถมเพิ่มเป็น 4 ไร่กว่า 
 

 

 

ทั้งนี้แม้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ จะอ้างว่าในชั้นตำรวจและอัยการไม่สั่งฟ้องคดีดังกล่าว เพราะมีใบอนุญาตในการถมที่  แต่ใบอนุญาตดังกล่าวเป็นใบอนุญาตเดิมที่ให้ถมที่เท่า น.ส.3 เดิม  แต่กลับมีการถมเกินออกไป  ซึ่งเรื่องนี้มีทั้งความผิดต่อเนื่องและความผิดใหม่ 

 

จึงขอให้ประธานป.ป.ช.ตรวจสอบและดำเนินคดี หากพบความผิดว่าอนุกรรมการ ป.ป.ช.มีการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ เทียบกับคดีของตนที่มีการชี้มูลความผิดอย่างรวดเร็ว 

2.เอาผิดผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและตำรวจที่เกี่ยวข้อง จากกรณีกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ได้มีข้อหารือไปยังตำรวจว่า หากมีคำสั่งศาลให้รื้อสิ่งรุกล้ำลำน้ำจะถือเป็นหลักฐานใหม่ในการส่งอัยการฟ้องคดีได้หรือไม่ 

 

แต่ทางตำรวจกลับยังไม่ให้คำตอบ จึงขอให้ตรวจสอบการทำหน้าที่ตำรวจในส่วนนี้ด้วย ว่าล่าช้าหรือเพิกเฉยการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่  ที่ไม่ยอมดำเนินการให้เป็นไปตามคำสั่งศาลปกครองกรณีรุกล้ำลำน้ำแควน้อยของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์  

 

3.ขอให้เอาผิดทางจริยธรรม พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ จากกรณีสร้างท่าเทียบเรือรุกแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2564  อธิบดีกรมป่าไม้ได้แจ้งความเอาผิด พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ที่ สน.บางโพ กรณีสร้างท่าเทียบเรือที่ไม่ตรงตามแบบกับที่กรมเจ้าท่าอนุญาตเอาไว้  จึงขอให้ ป.ป.ช.ดำเนินคดีทางจริยธรรมกับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ในส่วนนี้ด้วย  

 
และ 4.ขอให้ตรวจสอบจริยธรรมของ นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กรณีใช้อำนาจหน้าที่ ส.ส. และกมธ.งบประมาณ  แถลงข่าวบิดเบือนเรื่องกรณีการจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือ ทำให้รัฐเกิดความเสียหาย และถูกกองทัพเรือแจ้งความเอาผิด  ซึ่งไม่อยากให้สภาเป็นสถานที่เน่าเฟะ  อยากให้สมาชิกสภาเวลาแถลงข่าวควรมีข้อเท็จจริง  ไม่สร้างเรื่องหรือบิดเบือนข้อมูลให้รัฐเสียหาย  จนทำให้ประชาชนเข้าใจผิดและเกิดความเกลียดชัง อยากให้สภาดีกว่านี้ จึงขอให้ ป.ป.ช.ดำเนินคดีกับนายยุทธพงศ์  เพื่อไม่ให้เป็นแบบอย่างแก่สมาชิกสภารุ่นต่อไป


ส่วนกรณีนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย และผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองรายอื่น  ที่มีการครอบครองที่ดินรัฐโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมายนั้น เชื่อว่าหลังจาก ป.ป.ช.เห็นคำพิพากษาศาลในคดีของตน ก็คงไม่ใช่เรื่องยากในการตรวจสอบ ก็คงจะไม่ใช่เวลานานกว่าคดีของตน


ด้าน นายศรชัย ชูวิเชียร ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ช.  กล่าวหลังรับเรื่อง ว่าจะตรวจสอบดูว่าเรื่องอยู่ในอำนาจของ ป.ป.ช.หรือไม่   ทั้งนี้เท่าที่ทราบในกรณี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ มีนายศรีสุวรรณ จรรยา มายื่นให้ตรวจสอบไว้ในบางส่วนแล้ว ซึ่ง ป.ป.ช.ก็รับเรื่องตรวจสอบไว้เช่นกัน