กรมที่ดินฟัน “จึงรุ่งเรืองกิจ” เพิกถอนที่ดินรุกป่าสงวน 59 ฉบับ ร่วม 2 พันไร่

29 มี.ค. 2565 | 11:12 น.

กรมที่ดินฟัน “แม่ธนาธร- ธนาธร- ชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ” สั่งเพิกถอนที่ดิน น.ส.3 ก. 59 แปลง ร่วม 2 พันไร่ รุกป่าสงวนราชบุรี เปิดช่องยื่นอุทธรณ์ได้ภายใน15 วัน หรือฟ้องศาลปกครองภายใน 90 วัน คงเหลือ 1 แปลงอยู่ระหว่างตรวจสอบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อธิบดีกรมที่ดิน (ทด.) กระทรวงมหาดไทย (มท.) มอบหมายให้รองอธิบดีกรมที่ดิน ลงนามในคำสั่งอธิบดีกรมที่ดินที่ 747/2565 ลงวันที่ 29 มีนาคม 2565 เพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3ก.) โดยมีเนื้อหาระบุว่า 


ด้วยความปรากฏว่า หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3ก.) ดังต่อไปนี้ 1.น.ส.3ก. เลขที่ 153 - 159 ตำบลด่านทับตะโก อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี จำนวน 7 ฉบับ ออกเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2521 ตามโครงการเดินสำรวจออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3ก.) โดยใช้รูปถ่ายทางอากาศ มิได้แจ้งการครอบครองที่ดิน ตามมาตรา 58, 58 ทวิ วรรคสอง (2) แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน (รายละเอียดปรากฏตามบัญชีแนบท้าย)

2.น.ส.3ก. เลขที่ 704 - 707, 709, 711 - 729, 761, 1121 - 1133, 1135,1137 - 1144, 1158, 1159 และ1161 - 1163 ตำบลรางบัว อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี จำนวน 52 ฉบับ ออกเมื่อปี พ.ศ.2521 ตามโครงการเดินสำรวจออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3ก.) โดยใช้รูปถ่ายทางอากาศ มิได้แจ้งการครอบครองที่ดินและไม่มีหลักฐานสำหรับที่ดิน ตามมาตรา 58, 58ทวิ วรรคสอง (2) และ (3) แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน 

                                                  กรมที่ดินฟัน “จึงรุ่งเรืองกิจ” เพิกถอนที่ดินรุกป่าสงวน 59 ฉบับ ร่วม 2 พันไร่    กรมที่ดินฟัน “จึงรุ่งเรืองกิจ” เพิกถอนที่ดินรุกป่าสงวน 59 ฉบับ ร่วม 2 พันไร่
น.ส.3ก. จำนวน 59 ฉบับ ตามข้อ 1 และ 2 ได้ออกไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากข้อเท็จจริงปรากฏจากการตรวจสอบของกรมพัฒนาที่ดินว่า ตำแหน่งที่ดินของ น.ส.3ก. พื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในเขตป่าไม้ถาวร “ป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี (หมายเลข 85)”  ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2562

 

 

จึงเป็นการฝ้าฝืนมาตรา 58 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ที่ห้ามดำเนินการในเขตป่าไม้ถาวรและเป็นที่ดินต้องห้ามมิให้ออก น.ส.3ก. ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2497) ข้อ 3 ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 และกฎกระทรวง ฉบับที่ 5 (พ.ศ.2497) ข้อ 8 (2) ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 ซึ่งใช้บังคับอยู่ในขณะนั้น


และรองอธิบดี ซึ่งอธิบดีกรมที่ดินมอบหมายได้มีคำสั่งอธิบดีกรมที่ดิน ที่ 557 - 558/2564 ลงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 ตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามความในมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน แล้ว

 

คณะกรรมการสอบสวนฯ พิจารณาแล้วมีความเห็นว่า หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. ๓ ก.) เลขที่ 153 - 159 ตำบลด่านทับตะโก อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี และน.ส. ๓ ก. เลขที่ 704 - 707, 709, 711 - 729, 761, 1121 - 1133, 1135,1137 - 1144, 1158, 1159 และ1161 - 1163  ตำบลรางบัว อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี เป็น น.ส.3ก. ที่ออกไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น จริงสมควรเพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3ก.) จำนวน 59 ฉบับนี้

 

ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับที่ 11) พ.ศ.2551 ประกอบกับกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการสอบสวน และการพิจารณาเพิกถอน หรือ แก้ไขการออกโฉนดที่ดิน หรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ การจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม หรือการจดแจ้งเอกสารรายการจดทะเบียนโดยคลาดเคลื่อน หรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย พ.ศ.2553 

 

และคำสั่งอธิบดีกรมที่ดิน ที่ 498/2565 ลงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 เรื่อง มอบหมายให้รองอธิบดีกรมที่ดินมีอำนาจหน้าที่พิจารณาและมีคำสั่งตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน แทนอธิบดีกรมที่ดิน จึงมีคำสั่งเพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3ก.) จำนวน 59 ฉบับดังกล่าว ตลอดจนเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องเสียทั้งหมด

 

ทั้งนี้ ให้หมายเหตุการเพิกถอนไว้ให้ทราบตามระเบียบและวิธีการด้วย

 

อนึ่ง โดยที่คำสั่งนี้เป็นคำสั่งทางปกครองอันอาจอุทธรณ์ต่อไปได้ หากผู้มีส่วนได้เสียประสงค์จะอุทธรณ์หรือโต้แย้งคำสั่งนี้ ให้ยื่นอุทธรณ์ต่ออธิบดีกรมที่ดิน ณ กรมที่ดิน ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งตามนัยมาตรา 44 แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539

 

ในกรณีที่มีการอุทธรณ์ หากครบกำหนดระยะเวลาในการพิจารณาของผู้มีอำนาจพิจารณาอุทธรณ์ ตามนัยแห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 ประกอบกับกฎกระทรวง ฉบับที่ 4 (พ.ศ.2540) ออกตามความในพระราชบัญญัติดังกล่าวแล้ว ไม่ว่าจะมีคำวินิจฉัยของผู้มีอำนาจพิจารณาอุทธรณ์หรือไม่ก็ตาม 

 

ผู้มีส่วนได้เสียสามารถที่จะยื่นคำฟ้องต่อศาลปกครองชั้นต้นที่ผู้ฟ้องคดีมีภูมิลำเนา หรือศาลปกครองเพชรบุรีที่มูลคดีเกิดขึ้น หรือส่งคำฟ้องทางไปรษณีย์ลงทะเบียนไปยังศาลปกครองดังกล่าว ภายในระยะเวลา 90 วัน นับแต่วันที่รู้หรือควรรู้ถึงเหตุแห่งการฟ้องคดี ตามมาตรา 49 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542

 

นอกจากนี้ ยังมี น.ส. 3 ก. อีก 1 ฉบับ บางส่วนได้ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายในเขตป่าไม้ถาวรดังกล่าว เรื่องอยู่ระหว่างจังหวัดราชบุรีจัดทำรูปแผนที่กันเขต น.ส. 3 ก. (เพิกถอนบางส่วน) ให้ถูกต้องตามข้อเท็จจริงต่อไป

                                               กรมที่ดินฟัน “จึงรุ่งเรืองกิจ” เพิกถอนที่ดินรุกป่าสงวน 59 ฉบับ ร่วม 2 พันไร่    กรมที่ดินฟัน “จึงรุ่งเรืองกิจ” เพิกถอนที่ดินรุกป่าสงวน 59 ฉบับ ร่วม 2 พันไร่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีดังกล่าวเป็นการครอบครองโฉนดที่ดิน โดย น.ส. 3 ก.จำนวน 59 ฉบับ มีเนื้อที่ทั้งหมด 2,154-3-82 ไร่ อยู่ในพื้นที่ ต.รางบัว ต.ด่านทับตะโก อ.จอมบึง จ.ราชบุรี จำนวน 2,111 ไร่ ของนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นางชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ ที่มีการครอบครองเอกสารสิทธิ์แล้วถูกกล่าวหาว่ารุกป่า


โดย นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ถือครองจำนวน 53 ฉบับ เนื้อที่ 1,940-3-93 ไร่


นางชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ ถือครองจำนวน 5 ฉบับ เนื้อที่ 132-0-22 ไร่


นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ถือครองจำนวน 2 ฉบับ เนื้อที่ 81-3-67 ไร่

 
ก่อนหน้านี้ นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ช่วงเช้าวันนี้ (29 มี.ค.65) ถึงความคืบหน้าข้อพิพาทที่ดินใน จ.ราชบุรี ของนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดานายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ที่ถูกกล่าวหาว่า บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนว่า ข้อมูลจากกรมป่าไม้มาถึงถึงกรมที่ดินแล้วเมื่อวันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยภายใน 1-2 วันนี้จะมีคำตอบว่าเป็นอย่างไร ซึ่งส่วนใหญ่พบว่ ามีการบุกรุกป่าสงวนจริงตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏไปก่อนหน้านี้ 


จากนี้ กรมที่ดิน จะดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย เนื่องจากอธิบดีกรมที่ดินมีอำนาจหน้าที่นี้