สภาล่ม! ครั้งที่17 "ชวน"เซ็งใช้สิทธิพร่ำเพรื้อ

10 ก.พ. 2565 | 10:07 น.

"ฝ่ายค้าน" ฉวยจังหวะ "รัฐบาล" เผลอ ขอนับองค์ประชุม ทำสภาล่ม เป็นครั้งที่17 ของสภาชุดนี้ ด้าน"ชวน" สุดเซ็ง แจงใช้สิทธิพร่ำเพรื้อเกินไป เสียหายต่อภาพพจน์ของสภา

  วันที่ 10 ก.พ.2565   ผู้สื่อข่าวรายงานถึงบรรยากาศการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม ว่า ตั้งแต่เปิดประชุม และผ่านพิจารณาในวาระสำคัญ คือ กระทู้ถามสด และกระทู้ถามทั่วไป แล้วเสร็จ การดำเนินการประชุมเป็นไปอย่างปกติ จนมาถึง  วาระพิจารณาเรื่องที่ประธานแจ้งต่อที่ประชุม และพิจารณารับทราบประกาศคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน เรื่อง นโยบายการตรวจเงินแผ่นดิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 แล้วเสร็จ ส.ส.พรรคเพื่อไทย เสนอนับองค์ประชุม 

 

โดยนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นขอตรวจสอบองค์ประชุม เนื่องจากสงสัยว่าสมาชิกอยู่ครบองค์ประชุมหรือไม่ ทำให้นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ต้องเสนอญัตติให้นับองค์ประชุมด้วยการขานชื่อ


 อย่างไรก็ดีนายชวน สอบถามขึ้นว่า ผู้ควบคุมเสียงไม่คุยกันหน่อยหรือ เพราะวาระพิจารณารายงานไม่ต้องลงมติว่าจะเห็นชอบหรือไม่ จากนั้นได้สอบถามผู้เสนอให้นับองค์ประชุมว่าจะยืนยันหรือไม่ ซึ่งได้รับคำยืนยันว่าให้ดำเนินการ
 

  นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างก่อนตรวจสอบองค์ประชุม ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ พยายามลุกโต้แย้งว่าการเสนอให้นับองค์ประชุมระหว่างพิจารณารายงานหรือกรณีไม่ได้ลงมตินั้นขัดข้อบังคับและไม่สามารถทำได้ ทั้งนี้นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) สอบถามว่า การขอนับองค์ประชุมถือว่าเป็นญัตติหรือไม่ และการเสนอนับองค์ประชุมเพื่อป่วนสภา ถือว่าทำลายความมั่นคงสภา ผิดรัฐธรรมนูญ และผิดกฎหมายอาญามาตรา 157 ระหว่างนั้นนายพิเชษฐ์ พูดแทรกเพราะต้องการประท้วง ทำให้นายนิโรธ กล่าวว่า "เอาแบบมีมารยาทหน่อยในสภาฯ อย่าจริยธรรมตกต่ำให้มากนัก"

 
อย่างไรก็ดีนายชวน วินิจฉัยว่าการเสนอนับองค์ประชุมเป็นสิทธิของสมาชิกที่จะทำได้ และประธานต้องดำเนินการตาม ทั้งนี้มีส.ส.ที่ไม่สนับสนุนเพราะมองว่าฝ่ายค้าน และ รัฐบาลต่างเล่นแง่ทางการเมือง และเสนอให้ผู้เสนอให้นับองค์ประชุมถอนเรื่อง

 

       

  ทั้งนี้นายชวน ชี้แจงว่า เมื่อมีผู้เสนอให้นับองค์ประชุมและมีการเสนอญัตติต้องตรวจสอบองค์ประชุมหากองค์ประชุมครบ ขอมติได้ หากไม่ครบขอมติไม่ได้ เป็นไปตามเกณฑ์ ที่ผ่านมาไม่มีปัญหาเพราะใช้สิทธิบางอย่างฟุ่มเฟื่อย งานเดินหน้าได้ แต่เมื่อส.ส.เสนอ ประธานไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้


      “ผมให้เวลาเพราะขณะนี้มีตัวเลขใกล้เคียงองค์ประชุมแล้ว วันนี้สมาชิกวางใจไม่มีมติเพราะเป็นเรื่องแจ้งเพื่อทราบของหน่วยงาน ที่ตกลงว่าจะผ่านให้ 10 เรื่อง  และมีผู้ชี้แจงรอ ผมเคยเตือนว่า เวลามีค่า อกเขาอกเรา เมื่อมารอแต่ไม่ได้พิจารณาเสียเวลามาก แต่เมื่อมีคนเสนอนับองค์ ด้วยเจตนาอะไรก็พอเข้าใจได้ หากใช้สิทธิอะไรพร่ำเพรื้อเกินไป ก็เสียหายต่อภาพพจน์ของสภา” นายชวน ชี้แจง

  สภาล่ม! ครั้งที่17  "ชวน"เซ็งใช้สิทธิพร่ำเพรื้อ

 

หลังจากที่นายชวน ชี้แจง ทำให้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ชี้แจงตอบโต้ ว่า กลไกตรวจสอบฝ่ายค้านเพื่อให้รัฐบาลมีเสถียรภาพเดินหน้าตามกลไก และตามระบอบประชาธิปไตย ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ที่พวกตนเป็นรัฐบาล มีบางพรรคเป็นฝ่ายค้านและมีกระบวนการรุนแรง   ขว้างปาข้าวของ หรือลากเก้าอี้ ทั้งนี้เวลาล่วงเวลา 20 นาที มีส.ส. 220 คนเท่านั้น วันนี้หน้าที่ของเสียงข้างมากที่จะสามารถรักษาองค์ประชุมของสภาฯ ได้ไม่ประสงค์ให้สภาฯ ล่มอยากให้ทำงานให้ครบ เพื่อพิจารณารายงานขอให้ขานคะแนน  ทำให้นายชวน กล่าวว่า "ไม่อยากให้งานของเราล้มเหลว ยึดประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง สิ่งที่เป็นประโยชน์กับบ้านเมืองต้องทำ"

 
  อย่างไรก็ดีนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ชี้แจงสิ่งที่พรรคเพื่อไทยพาดพิง พร้อมยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขี้น เพราะสภาฯ เสียงข้างมาก ไม่รับฟังความเห็น เป็นเผด็จการรรัฐสภา ไม่ได้จ้องเพื่อทำให้สภาล่ม ทำให้เสียหายนั้นบรรยากาศสภา เสียงข้างมากลากไป ไม่ฟังเสียงข้างน้อย ประชาชนรู้สึกได้ และกรณีนับองค์ประชุมเป็นบทบัญญัติ 120 จำนวนองค์ประชุมเกินกึ่งหนึ่ง วิธีนับเป็นของสภาฯ มาตรการฝ่ายค้านในอดีตที่ทำ ได้คำนึงถึงความสำคัญต่อเรื่องที่เป็นประโยชน์กับบ้านเมือง ไม่ทำพร่ำเพรื่อ

 

    สุดท้ายองค์ประชุมมีเพียง 227 เสียง ซึ่งไม่ครบองค์ประชุมซึ่งต้องมีเสียง 237 เสียง ทำให้นายชวน ต้องสั่งปิดการประชุมในเวลา 15.02 น.หลังจากใช้เวลาถกเถียงการนับองค์ประชุมนานถึง 30 นาที ซึ่งถือว่าสภาล่มครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ของเดือน และครั้งที่ 17 ของสภาผู้แทนราษฎรชุดนี้