“สรัลรัศมิ์”ลุยหาเสียงโค้งสุดท้ายชู“รักลุงตู่ ชอบลุงป้อม กาเบอร์ 7” 

27 ม.ค. 2565 | 12:04 น.

“สรัลรัศมิ์ เจนจาคะ”ลุยหาเสียงเลือกตั้งซ่อมส.ส.หลักสี่โค้งสุดท้าย ชู “รักลุงตู่ ชอบลุงป้อม กาเบอร์ 7” ขณะที่ “บิ๊กป้อม”เตรียมลงพื้นที่ช่วยหาเสียงอีกครั้ง 28 ม.ค.นี้ ด้าน “ไตรรงค์ สุวรรณคีรี”หนุน“อรรวิชช์”พรรคกล้า อยากให้ได้รับเลือกตั้ง 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 17.30 น. วันนี้(27 ม.ค.65) นางสรัลรัศมิ์ เจนจาคะ ผู้สมัคร ส.ส. กทม.เขตหลักสี่-จตุจักร เบอร์ 7 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ลงพื้นที่บริเวณซอยแจ้งวัฒนะ 6 ชุมชนก้าวหน้า ทักทายประชาชน พ่อค้า แม่ค้า ช่วงเช้า พร้อมชูนโยบาย “รักลุงตู่ ชอบลุงป้อม กาเบอร์ 7” 

 

นางสรัลรัศมิ์ กล่าวว่า ในพรุ่งนี้ 28 ม.ค. เวลา 17.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะลงพื้นที่พบปะผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นชมรมผู้สูงอายุในชุมชนเคหะทุ่งสองห้อง ที่วิภาวดี พาเลซ

 

 

“ชมรมผู้สูงอายุถือเป็นอีก 1 นโยบายที่ดิฉันต้องการดูแลแบบใกล้ชิด เข้าถึงง่าย เพื่อให้พวกเขามีความเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้น ตลอดเวลาที่ได้มีโอกาสรับใช้ประชาชนก็ได้พบปัญหาของกลุ่มคนชรา ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยติดเตียงในพื้นที่จำนวนมาก ซึ่งบุคคลต้องการๆ ดูแลอย่างต่อเนื่อง เพราะฉะนั้นการลงพื้นที่ของท่านประวิตรในครั้งนี้ถือว่าเป็นโอกาสที่ดี ที่ท่านจะได้รับฟังปัญหาอย่างใกล้ชิด”นางสรัลรัศมิ์ กล่าว

 


เมื่อถามว่าถือเป็นการเปลี่ยนกลยุทธ์ช่วงสุดท้ายในการชู พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หรือไม่ นางสรัลรัศมิ์ กล่าวว่า ไม่ใช่การเปลี่ยนกลยุทธ์แต่อย่างใด เพราะอย่างที่บอกมาตลอดว่า ตนยึดทั้ง 2 ท่านเป็นแบบอย่างในการทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนชาวหลักสี่-จตุจักร เพราะจะเห็นว่าท่านทั้ง 2 คนมีอายุที่มากแล้ว แต่กลับไม่เคยเหน็ดเหนื่อย ย่อท้อ ในการบริหารประเทศให้กับพี่น้องคนไทยเลย ถ้าเราจะเลือกใครมาเป็นตัวอย่าง เราก็ต้องเลือกตัวอย่างที่ดี

ด้านความเคลื่อนไหวของ นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ผู้สมัครส.ส.หลักสี่ เขต 9 พรรคกล้า ได้เข้าพบ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี อดีตรองนายกรัฐมนตรี เพื่อขอพรก่อนการลงเลือกตั้ง ซึ่งเป็นไปตามทำเนียมปฏิบัติของนายอรรถวิชช์

 

นายไตรรงค์ กล่าวว่า ทุกวันนี้ใครแพ้ชนะไม่มีความหมายในแง่ปริมาณ เพราะเสถียรภาพรัฐบาลก็ยังมีอยู่ ซึ่งมองว่าเป็นเรื่องของคุณภาพมากกว่า เพราะภาพพจน์ของสภาตกต่ำไปมาก ส.ส.หลายคนทำผิดไปเยอะ ประพฤติชั่วทั้งกาย วาจา ใจ วาจาทุจริต มโนทุจริต เมื่อเห็นว่าอยู่ต่างขั้วก็พูดอัดกันไม่มีความเกรงใจกัน มีการพูดโกหก กันในสภาหน้าตาเฉย คิดแต่คำพูดว่าด่าให้เจ็บกว่ากันชนะ ไม่มีสาระในการพูด มีการปล่อยข่าวกันเยอะ ทำให้สภามีความเสียงหาย ดังนั้นต้องเลือกผู้แทนราษฎรที่มีคุณภาพ อะไรที่ทำดีก็ว่าดี อะไรที่ไม่ดีก็ต้องบอกว่าไม่ดีอย่างไรไม่ใช่ด่าเอาเป็นเอาตายและมีทางออกให้ด้วย

 

ทั้งนี้เท่าที่ตนรู้จัก นายอรรถวิชช์ มาตลอดที่ทำการเมืองร่วมกัน เป็นคนพูดจามีเหตุผล ไม่หยาบคาย ไม่พูดเท็จ ไม่ส่อเสียด มีวิชาความรู้ในนระดับชาติ และดูแลคนในเขตตลอด ถ้าตนมีสิทธิที่จะเลือกตนก็เลือกคนที่มีคุณภาพเป็นที่ประจักษ์ และก็จะเลือกนายอรรถวิชช์ พร้อมฝากประชาชนให้เลือกส.ส.ที่มีคุณภาพ และเชื่อว่ามีคนอีกจำนวนหนึ่งที่คิดเหมือนตน ที่อยากเลือกคนที่มีคุณภาพ และอยากให้นายอรรวิชช์ได้รับเลือกตั้ง 

 

นายไตรรงค์ กล่าวว่า การเลือกตั้งเมื่อปี 2562 นายอรรถวิชช์ ไม่ได้แพ้เพราะฝีมือ แต่แพ้เพราะคนหมั่นไส้อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ออกมาบอกว่า ไม่หนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แต่ในขณะนั้นคนที่มาเข้าร่วมชุมนุม กปปส.หวังพึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จะได้เป็นผู้นำประเทศ และให้พรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช้ระบอบกังฉิน เข้าในระบอบบ้านเมือง ทำให้คนใต้ และคนกรุงเทพฯ โกรธพรรคประชาธิปัตย์ จึงสั่งสอนลงโทษหัวหน้าค่ายด้วยการไม่ลงคะแนนเสียงให้ ซึ่งผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งกรุงเทพฯ และภาคใต้ เป็นคนที่มีคุณภาพมาก 

 

“ส่วนตัวยังหวังว่าพรรคประชาธิปัตย์ จะฟื้นในพื้นที่กรุงเทพฯ แม้ว่าพรรคจะๆม่ส่งผู้สมัครลงสมาชิกพรรคยังคงผูกพันธ์กับอดีตส.ส.ของพรรค พร้อมอวยพรให้นายอรรถวิชช์ ชนะการเลือกตั้งในสนามนี้ ผลออกมาอย่างไรต้องเคารพการตัดสินใจของประชาชน พร้อมมองว่า ขณะนี้ประชาชนไม่ได้เลือกพรรคไม่ได้เลือกนโยบาย แต่เลือกบุคคลที่มีคุณภาพมากกว่า ส่วนพรรคกล้าจะไปรอดหรือไม่ก็ค่อยว่ากันทีหลัง”