เปิดเบื้องหลังพรรคใหม่“4 กุมาร”ชูสร้างอนาคตประเทศ

08 ม.ค. 2565 | 03:09 น.

เปิดเบื้องหลังพรรคใหม่“4 กุมาร”ชูสร้างอนาคตประเทศ : อุตตม สาวนายน ...การเมืองในสภาพปัจจุบัน มิใช่การเมืองเพื่ออนาคตประเทศ แต่เราจะต้องมาสร้างอนาคตประเทศไทยในวันนี้ เพื่อส่งต่อให้คนทุกรุ่นทุกวัยอยู่ร่วมกันอย่างมีอนาคต

เปิดศักราชใหม่ 2565 มา เริ่มมีความชัดเจนขึ้นอีกระดับหนึ่งสำหรับพรรคการเมืองใหม่ ของกลุ่ม “4 กุมาร” ที่นำโดย อุตตม สาวนายน อดีตรมว.คลัง อดีตหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และ สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตรมว.พลังงาน อดีตเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ
    

เมื่อทั้ง อุตตม และ สนธิรัตน์ ได้ออกมาเปิดใจถึงกระบวนการก่อนที่จะนำไปสู่การจดแจ้งกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เพื่อจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ขึ้น  ว่ากันว่า พรรคใหม่ที่จะตั้งขึ้นจะใช้ชื่อพรรคว่า “สร้างอนาคตไทย”

แต่ อุตตม สาวนายน ขอยังไม่เปิดเผยว่าจะใช้ชื่อพรรคอะไร บอกแต่เพียงว่า ขณะนี้คณะผู้ก่อตั้งพรรคกำลังดำเนินการในการจดแจ้ง จัดตั้งพรรคการเมืองที่เป็นทางเลือกใหม่ของสังคม ซึ่งจะเปิดตัวพรรคนี้อย่างเป็นทางการภายในเดือนม.ค.นี้

 

จุดกำเนิดพรรคใหม่

 

อุตตม บอกว่า หลังจากลาออกจากตำแหน่งทางการเมือง ทุกตำแหน่ง เมื่อราว 1 ปีครึ่ง ที่ผ่านมา ก็ได้เฝ้าติดตามสถานการณ์บ้านเมือง ในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจระดับชาติและที่ระดับฐานราก ความขัดแย้งทางการเมืองที่ถลำลึก เรื่องความยุติธรรมที่เป็นปมปัญหา และไม่เสมอภาคของประเทศ ที่ทำให้ประเทศ ทำให้คนไทยเสียโอกาส ด้วยความห่วงใยมาโดยตลอด

ระยะเวลาปีครึ่งที่ผ่านมา พวกผมได้มีโอกาสรับฟัง แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้คนมากหน้าหลายตาจากหลากแวดวง และได้พบปะพี่น้องประชาชนในหลายกลุ่ม หลายจังหวัด ที่ต่างส่งเสียงสะท้อนปัญหาว่ากำลังมองไม่เห็นอนาคตของประเทศ และไม่เห็นผู้คนในโครงสร้างของวันข้างหน้า

 

มีข้อเสนอมากมายที่ให้พวกเราเข้าร่วมกับพรรคการเมืองต่างๆ รวมทั้งการตั้งพรรคการเมืองที่ไวต่อความเปลี่ยนแปลงเพื่ออนาคตของไทย จากการพบปะแลกเปลี่ยนความเห็นกับกลุ่มคนที่ต้องการหาทางออกของประเทศ จึงได้ตัดสินใจร่วมกันว่า เราควรร่วมกับผู้มีจิตสาธารณะฟื้นฟูประเทศ ตั้งพรรคการเมืองขึ้นมา โดยการรวบรวมผู้คนเพื่อเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วน ทุกรุ่นทุกวัย มีส่วนร่วมผสานรอยต่อในการสร้างอนาคตของประเทศร่วมกัน

 

ส่วนแนวทางหรือจะมีใครเข้าร่วมบ้าง ภายในเดือนนี้จะประกาศอย่างเป็นทางการ รอคณะผู้จัดตั้งพรรคดำเนินการ เพราะพรรคการเมืองใหม่ที่จะเกิดขึ้นนี้ ไม่ใช่พรรคที่ผมหรือ คุณสนธิรัตน์ เป็นเจ้าของ เราเป็นเพียงสองผู้มีส่วนร่วมเท่านั้น

 

อุตตม ชี้ว่า พรรคการเมืองใหม่นี้จะมีผู้เข้าร่วมมากมาย ทั้งผู้มีชื่อเสียงในแวดวงธุรกิจ ภาคประชาชน นักวิชาการ อดีตผู้แทนราษฎร รวมทั้งส.ส.ในปัจจุบัน เพราะทุกคนเหล่านี้เห็นร่วมกันว่า วันนี้การเมืองในสภาพปัจจุบัน มิใช่การเมืองเพื่ออนาคตประเทศ แต่เราจะต้องมาสร้างอนาคตประเทศไทยในวันนี้ เพื่อส่งต่อให้คนทุกรุ่นทุกวัย อยู่ร่วมกันอย่างมีอนาคต

                                           เปิดเบื้องหลังพรรคใหม่“4 กุมาร”ชูสร้างอนาคตประเทศ

บ้านเมืองติดหล่มหลุมดำ

 

อีก 1 กุมาร คือ สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ก็ได้ให้สัมภาษณ์เนชั่นทีวี ช่อง 22 เช่นกันถึงแนวทางของพรรคการเมืองที่จะตั้งขึ้นมาใหม่จะต่างหรือเหมือนกับแนวทางที่เคยทำงานกับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ว่า ในสถานการณ์การเมืองแต่ละช่วงเวลามันเป็นสถานการณ์ที่แตกต่างกันไป ตอนที่พวกตนได้อาสาตั้งพรรคพลังประชารัฐในตอนนั้น เราเข้าไปร่วมหลังจากพรรคจัดตั้งแล้ว และเราก็เห็นว่าจังหวะนั้น เป็นเวลาที่ประเทศไทยต้องการความต่อเนื่องด้านการบริหารจัดการ ต้องการให้ประเทศเดินหน้าต่อ 

 

“พวกเราเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลนั้นอยู่ เราก็เห็นว่าสิ่งที่ทำไปหลายปีที่ผ่านมา หากไม่ต่อเนื่องก็จะเป็นสิ่งที่ประเทศเสียโอกาส ซึ่งประเทศไทยมักจะเสียโอกาสเสมอเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงบ่อยๆ อันนี้คือความตั้งใจที่ต้องการให้การบริหารบ้านเมืองมีความต่อเนื่องในตอนที่ตั้งพรรคและดำเนินการพรรคพลังประชารัฐ แต่ว่าครั้งนี้เป็นอีกเรื่อง เป็นสถานการณ์ที่แตกต่างไปจากครั้งที่แล้ว เป็นสถานการณ์ที่บ้านเมืองเราค่อนข้างลำบากกว่าครั้งที่แล้วมาก”

 

สนธิรัตน์ อธิบายด้วยว่า เราเจอผลกระทบของโควิด-19 ค่อนข้างมาก กระทบชีวิตความเป็นอยู่ประชาชน ข้อสำคัญก็คือ ในช่วงปีครึ่งที่เราไม่ได้อยู่ในรัฐบาล ก็ได้เฝ้าดูสถานการณ์ ขณะนี้ก็เห็นว่าบ้านเมืองมีหลายปัญหา ที่คิดว่าเป็นปัญหา เราค่อนข้างติดหล่มหลุมดำในบางเรื่อง จากการสะสมของปัญหาที่ผ่านมา เราก็มีการพูดคุยกัน ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ คิดจะตั้งพรรค  

 

“เราได้มีการพบปะพูดคุยทุกภาคส่วนต่างๆ มาเป็นระยะเวลาพอสมควร รวบรวมบุคคล และได้รวบรวมผู้คนที่มีความเห็นคล้ายๆ กันจะมาช่วยกันคิดช่วยกัน จะทำได้อย่างไรบ้าง จนกระทั่งเรามั่นใจแล้วว่า มีคนที่จะร่วมกัน ช่วยกัน ก็เลยตัดสินใจร่วมกันว่า เราจะตั้งพรรคการเมืองและเดินหน้าเข้ามาเพื่อมีส่วนในการช่วยแก้ปัญหาบ้านเมือง”

 

สนธิรัตน์ กล่าวว่า ได้ประเมินว่าเมื่อสถานการณ์ของบ้านเมืองในปัจจุบันและระยะเวลาที่เหลืออยู่ เมื่อมีเพื่อนร่วมอุดมการณ์ มีผู้ที่มีความรู้ความสามารถมาร่วมกันทำในกลุ่มก้อนที่มีพลังเพียงพอ เราก็เลยตัดสินใจตั้งพรรคของเราขึ้นมา เพื่อที่จะได้ดำเนินการทางการเมืองต่อไป 

 

“ความจริงแล้วเราไม่ได้ปฏิเสธที่จะพบปะพูดคุยกับกลุ่มการเมืองต่างๆ พรรคต่างๆ ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่การเมืองมีการพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนกันตลอดเวลา”

 

“สมคิด”หนุนตั้งพรรคใหม่

 

เมื่อถามว่ากลุ่ม 4 กุมารในอดีตจะกลับมาทั้งหมดหรือแค่บางส่วน สนธิรัตน์ ตอบว่า ตอนนี้ก็มีตน และ อุตตม สาวนายน ที่จะกลับมาเต็มตัว ส่วน สุวิทย์ เมษินทรีย์ กับ กอบศักดิ์ ภูตระกูล ก็ยังเป็นห่วงบ้านเมือง เพียงแต่มีภารกิจในการทำงานด้านอื่นกันอยู่ 

 

สนธิรัตน์ ยังกล่าวถึง สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกฯ จะมีสถานะใดในพรรคใหม่ว่า นายสมคิด เป็นที่ปรึกษาของพวกเรา และเป็นผู้ที่ให้ความคิดกับเราในด้านการทำงานบ้านเมืองมาโดยตลอด แม้กระทั่งปัจจุบันเราทำอะไรก็ยังปรึกษาว่า เราคิดอย่างนี้ ท่านคิดอย่างไร 

 

“นายสมคิด ยังเป็นที่ปรึกษาที่ดี เป็นผู้ให้กำลังใจ สนับสนุนเราให้เดินหน้าทางการเมือง คิดว่าเห็นว่าปัญหาบ้านเมืองต้องช่วยกัน นายสมคิด ยินดีสนับสนุนและให้กำลังใจพวกเราเต็มที่ในการเดินหน้าทางการเมือง”
ส่วนจะมีชื่อ สมคิด เป็นหนึ่งใน 3 แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคที่ตั้งใหม่หรือไม่ สนธิรัตน์ ตอบว่า ยังไม่ถึงเวลาตรงนั้น รวมทั้งพรรคก็เพิ่งเริ่มก่อตั้ง ท่านจะอยู่ในบทบาทใดอย่างไรก็ตาม ท่านไม่ทิ้งพวกผม ไม่ว่าจะเดินหน้าอย่างไรก็ตาม ดังนั้น ก็คงต้องให้เวลาพรรคได้ทำงานคืบหน้าไปก่อน”

 

เมื่อถามย้ำว่าต้องมีแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเองหรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า เมื่อเราตั้งพรรคการเมือง เราต้องมีบุคลากรที่พร้อมที่จะเป็นผู้นำ พร้อมจะนำพาประเทศ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องดำเนินการ เรากำลังสรรหาบุคลากรเหล่านี้อยู่ เพื่อเข้ามาช่วยกันแก้ปัญหาบ้านเมือง

 

เมื่อถามว่ายังสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อยู่อีกหรือไม่ สนธิรัตน์ ตอบว่า อันนี้ถามไปไกล เพราะยังไม่รู้เลยว่าผลการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร อนาคตของแต่ละพรรคจะเป็นอย่างไร คงเร็วมากที่จะตอบสิ่งเหล่านั้น แต่หลักเกณฑ์ที่เรามี คือ การทำพรรคการเมืองต้องตอบปัญหาประชาชนให้ได้ ต้องสามารถดำเนินการทางการเมืองและเป็นประโยชน์ต่อประชาชน เพราะฉะนั้นคำตอบนี้ยังไม่สามารถตอบได้