“สุวัจน์”ปลุกลูกพรรคชพน.เตรียมพร้อมเลือกตั้งขอรีเทิรน์ส.ส.มากกว่าเดิม

10 ธ.ค. 2564 | 08:59 น.

“สุวัจน์” ติวเข้มลูกพรรคชพน.ให้เตรียมพร้อมนโยบายรองรับเลือกตั้ง เน้นแก้ปัญหาเศรษฐกิจ สานต่อนโยบาย “น้าชาติ” เปิดประตูอีสานสู่อินโดจีน เปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า ภาค 2 ปรับกลยุทธ์การหาเสียงนำเสนอนโยบายให้สอดรับกับสังคมที่เปลี่ยนแปลง

วันนี้(10 ธ.ค.64) พรรคชาติพัฒนา (ชพน.) โดย นายสุวัจน์  ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรค เป็นประธานเปิดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564 ที่โรงแรมแคนทารี่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา  โดยมีนายเทวัญ  ลิปตพัลลภ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้า ชพน. พร้อมนายวัชรพล  โตมรศักดิ์ เลขาธิการพรรค และสมาชิกพรรคจำนวนมากเข้าร่วมประชุม

 

นายสุวัจน์ กล่าวต่อสมาชิกพรรคว่า พรรคชาติพัฒนามีความเป็นห่วงและกังวลปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ ผลกระทบจากวิกฤติโควิด เป็นเวลากว่า 2 ปี รัฐบาลได้กู้เงิน 2.4 ล้านล้านบาท มาใช้จ่ายบริหารประเทศ จีดีพีติดลบในรอบ 7 ปี และมูลค่าทางเศรษฐกิจได้รับความเสียหายอย่างมาก นักท่องเที่ยวต่างชาติ 40 ล้านคน รวมทั้งการลงทุนไม่เหมือนเดิม ทำให้ผู้ประกอบการโดยเฉพาะเอสเอ็มอีได้รับความเดือดร้อน เกิดการว่างงาน 8 แสนคน 

  “สุวัจน์”ปลุกลูกพรรคชพน.เตรียมพร้อมเลือกตั้งขอรีเทิรน์ส.ส.มากกว่าเดิม   “สุวัจน์”ปลุกลูกพรรคชพน.เตรียมพร้อมเลือกตั้งขอรีเทิรน์ส.ส.มากกว่าเดิม  

ขณะนี้สถานการณ์โควิดในประเทศเริ่มดีขึ้น หากรัฐบาลสามารถรักษาเสถียรภาพให้มีความนิ่งและมั่นคง จะช่วยส่งเสริมความมั่นใจให้นักท่องเที่ยว นักธุรกิจ นักลงทุนนำไปสู่การเปิดประเทศได้ 

 

สิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความพร้อม คือ ประชาชนได้ฉีดวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ตามเป้าหมายครอบคลุม100 ล้านโดส คาดสถานการณ์เศรษฐกิจหลังปีใหม่จะเริ่มฟื้นฟูกลับมาและมีความกระเตื้อง ทุกภาคส่วนโดยเฉพาะภาครัฐต้องกระตุ้นอย่างต่อเนื่อง ให้เศรษฐกิจภายในประเทศกลับมาคึกคัก 

“สุวัจน์”ปลุกลูกพรรคชพน.เตรียมพร้อมเลือกตั้งขอรีเทิรน์ส.ส.มากกว่าเดิม   “สุวัจน์”ปลุกลูกพรรคชพน.เตรียมพร้อมเลือกตั้งขอรีเทิรน์ส.ส.มากกว่าเดิม

สิ่งสำคัญอันดับแรกต้องแก้ไขหลังมีการเลือกตั้งคือ การแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจ ทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ กรณีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ โดยใบแรกเลือก ส.ส. ใบที่สองเลือกพรรคที่ชอบ ทำให้ยุทธศาสตร์การหาเสียงต้องเปลี่ยนแปลง ประชาชนสนใจเรื่องนโยบายพรรค และผู้ใดที่จะเข้ามารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 

 

ดังนั้น พรรคชพน.ต้องเตรียมพร้อมด้านนโยบาย เน้นการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะแผนพัฒนาเศรษฐกิจในภาคอีสาน ซึ่งมีสินค้าการเกษตรที่อุดมสมบูรณ์ จึงต้องมีแนวทางพัฒนาเป็นเมืองอุตสาหกรรมสมัยใหม่ พัฒนาสินค้าเกษตรด้วยเทคโนโลยีตามแนวทาง New Economy 

  “สุวัจน์”ปลุกลูกพรรคชพน.เตรียมพร้อมเลือกตั้งขอรีเทิรน์ส.ส.มากกว่าเดิม

หรือเศรษฐกิจยุคใหม่เป็นสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กลายเป็นแหล่งผลิตอาหารที่สำคัญของโลก มุ่งหวังให้ไทยเป็นครัวโลก สร้างเมืองโคราชให้เป็นประตูสู่อีสานที่เปี่ยมศักยภาพด้านโครงสร้างพื้นฐาน คมนาคมสะดวกสบายเชื่อมต่อภูมิภาคอื่นทั่วโลกอย่างรวดเร็ว ถือเป็นการ “เปิดประตูอีสานสู่อินโดจีน เปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า ภาค 2”

 

นายสุวัจน์ กล่าวว่า อดีตที่ผ่านมาพรรคชาติพัฒนา เคยมี ส.ส.มากถึง 60 เสียง ปัจจุบันมีเพียง 4 เสียง เป็นพรรคขนาดเล็กกว่าเดิม ดังนั้น เป้าหมายขอให้มีจำนวน ส.ส.มากเหมือนเดิม พรรคต้องคัมแบคสืบทอดเจตนารมณ์และตำนานของ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เคยสร้างผลงานไว้ 

 

นอกจากนี้สิ่งที่พรรค ชพน.มีคือ การเป็นพรรคการเมืองที่ไม่ขัดแย้งกับฝ่ายใด ซึ่งเป็นอุปสรรคการพัฒนาประเทศ หากมีความสามัคคีไม่มีความขัดแย้งเป็นหนึ่งเดียวกันจะทำให้ประเทศมีพลัง 

                      “สุวัจน์”ปลุกลูกพรรคชพน.เตรียมพร้อมเลือกตั้งขอรีเทิรน์ส.ส.มากกว่าเดิม

หลังการเลือกตั้งนักการเมืองต้องลดความขัดแย้งและร่วมมือกันแก้ไขปัญหาของประเทศ พรรคชพน.ต้องตอกเสาเข็มไว้ที่โคราชให้ได้ ซึ่งโคราชถือเป็นเรือนตาย จึงขอรีเทิร์นกลับมาเป็นตัวแทนของชาวโคราช ทำงานเพื่อประโยชน์ส่วนร่วม จึงต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธการหาเสียงนำเสนอนโยบายให้สอดรับกับสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว 

 

“การเลือกตั้งครั้งล่าสุด พรรคชาติพัฒนาได้รับการตอบรับน้อยกว่าในอดีต เราต้องถอดบทเรียนโดยปรับปรุงพัฒนาแนวทางการหาเสียง นำเสนอนโยบายให้ตรงใจความต้องการประชาชนให้มากกว่าเดิม ถือเป็นประสบการณ์ที่ต้องแก้ไข” ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา ระบุ

             “สุวัจน์”ปลุกลูกพรรคชพน.เตรียมพร้อมเลือกตั้งขอรีเทิรน์ส.ส.มากกว่าเดิม

ด้าน นายวัชรพล โตมรศักดิ์ เลขาธิการพรรค ชพน. ได้รายงานว่า รอบปีที่ผ่านมา ชพน.ได้ดำเนินกิจกรรมร่วมกับประชาชนในการพัฒนาประเทศ และแก้ไขปัญหาต่างๆ โดยคำนึงถึงความสมดุลระหว่างการพัฒนาวัตถุกับจิตใจและความอยู่เย็นเป็นสุขของประชาชน 

 

เมื่อเกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 การควบคุมและการป้องกันให้ประสบผลสำเร็จ จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมืออย่างจริงจังจากทุกภาคส่วน 

 

พรรคชพน.ริเริ่มแสวงหาความร่วมมือในหมู่ประชาคมและจัดตั้ง “ศูนย์คนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน รวมใจสู้ภัยโควิด-19” เพื่อระดมทุนทรัพย์ภายในกรอบวงเงินที่กฎหมายกำหนด ดำเนินจัดหาหน้ากากผ้าและแอลกอฮอล์ล้างมือแจกจ่ายให้ประชาชนคู่ขนานดำเนินการจัดตั้งจิตอาสาหน่วยฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคเคลื่อนที่ออกให้บริการตามสถานที่ต่างๆ รวมทั้งช่วยเหลือเยียวยาโดยจัดหาอาหารกล่องและถุงยังชีพแจกจ่ายให้ผู้ยากไร้และจัดหน่วยบริการอาหารเคลื่อนที่ (Food Truck) ออกให้บริการในชุมชน