"สุพัฒนพงษ์" แจงสภาฯ นำกำไรปตท. ช่วยปชช.ไม่ได้ เหตุมีผู้ถือหุ้นร่วม

25 พ.ย. 2564 | 05:58 น.

“อัครเดช” จี้ถามกระทรวงพลังงาน ปมแก้ปัญหาน้ำมันดีเซลราคาแพง ด้าน “สุพัฒนพงษ์" แจง นำกำไรทั้งหมดมาช่วย ประชาชนไม่ได้ เหตุมีนักลงทุนอื่นถือหุ้นด้วย และขัดต่อข้อกฎหมาย แต่รัฐได้เงินจาก ปตท.ผ่านภาษีและเงินปันผล

วันที่ 25 พ.ย.2564 นายอัครเดช วงศ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส. ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งกระทู้ถามสดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เกี่ยวกับการแก้ปัญหาราคาน้ำมันดีเซลราคาแพง และส่งผลกระทบกับประชาชนและผู้ประกอบการขนส่ง ว่า ราคาน้ำมันดีเซล 30บาทต่อลิตร นั้นเพดานราคาน้ำมันดีเซลที่รัฐบาลประกาศควบคุม และก่อนหน้านี้ทางคณะอนุกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน สภาผู้แทนราษฎรได้มีข้อเสนอไปยังรัฐบาลให้ดำเนินการเพื่อให้ราคาน้ำมันดีเซลต่ำกว่าลิตรละ 30 บาท โดยใช้กลไกรัฐ คือ


1.ลดการผสมไบโอดีเซล และใช้กลไกของรัฐดูแลปาล์ม จะสามารถลดลิตรละ 2 บาท
2.ลดภาษีสรรพสามิต เก็บราคา 5.99 บาทต่อลิตร
3.ใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง 4,000 ล้านบาท หรือราคาสูงถึง 1.99 บาทต่อลิตร หากบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีประสิทธิภาพ ไม่ควรกู้ตามที่ ครม.อนุมัติ
4.ให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงลดการชดเชยLPG ภาคขนส่ง เหลือเพียงภาคครัวเรือน


5. ให้ทบทวนการทำงานของ ปตท. โดยให้ ปตท.มุ่งดูแลประชาชน มากกว่าแสวงหากำไร เพราะเป็นกำไรบนคราบน้ำตาของประชาาชน ดังนั้นควรให้ ปตท.มีการชดเชยค่าน้ำมันดีเซลให้ประชาชน

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน

 

จากนั้น นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้ชี้แจงว่า การทำงานของ ปตท. คือ ดูแลเสถียรภาพให้ประชาชนมั่นใจว่ามีพลังงานใช้ในต้นทุนที่เหมาะสม และทำธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น ก๊าซปิโตเลียมเพื่อแข่งขันกับเอกชน ช่วยขยายเศรษฐกิจ ท่ามกลางการแข่งขันตลาดเสรี ซึ่งปัจจุบัน ปตท. มีหนี้สินสูงถึง 1.5 ล้านล้านบาท เมื่อเทียบกำไร ใน 9 เดือน เป็นกำไรที่เกิดจากการเพิ่มมูลค่าน้ำมัน ต้องเก็บไว้ 2หมื่นล้านบาท กำไร แค่ 5.5หมื่นล้านบาท ทั้งปีอาจได้ 8หมื่นล้านบาทจากผลประกอบการ ทั้งนี้ตามสัดส่วนของการถือหุ้ม แม้รัฐบาลจะถือหุ้นมาก ถึง 62% แต่อีก 38% คือ นักลงทุนและประชาชน หากนำกำไรของ ปตท. สนับสนุนมาตรการของรัฐบาล เช่น สนับสนุนดีเซล ทำไม่ได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ได้จาก ปตท. คือ เงินปันผลที่รัฐบาลได้รับ และ เงินภาษี โดยเงินนี้จะออกมาในรูปแบบของการช่วยเหลือด้านต่างๆ เช่นกองทุนน้ำมัน และราคาขายน้ำมันที่สถานีบริการน้ำมัน ปตท.ราคาต่ำที่สุด เมื่อเทียบกับเอกชนรายอื่นๆ ซึ่งเป็นนโยบายที่รัฐบาลให้ไว้เพื่อดูแลประชาชน รวมถึงโครงการอื่นที่ช่วยเหลือประชาชน

ขณะที่ นายอัครเดช ได้ชี้แจงว่าทางกรรมาธิการได้เคยเรียก ปตท.มาชี้แจงแต่กลับมีการบ่ายเบี่ยง แม้จะมาชี้แจงก็เป็นคำตอบทั่วไป โดยคำชี้แจงของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานที่ชี้แจงก็ตอบเหมือนเป็นพนักงาน ปตท.ที่ตอบในกรรมาธิการ ดังนั้นจึงขอฟังคำตอบที่ชัดเจน ขออย่าทำหน้าที่เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของ ปตท. โดยขอให้ประกาศให้นำกำไรของ ปตท. มาช่วยเหลือประชาชนทั้งหมด

 

นายสุพัฒนพงษ์ ชี้แจงต่อว่า ตนทำงานเป็นกลาง และเน้นประโยชน์ประชาชนของประเทศ ซึ่ง ปตท.เป็นรัฐวิสาหกิจ สามารถใช้อำนาจเรียกมาชี้แจงได้ หากเรียกไม่มา ก็สามารถตามได้ หรือให้แจ้งมาที่ตน เดี่ยวจะตามให้ เพราะเป็นหน้าที่ที่ต้องอธิบายกับผู้แทนประชาชนเพื่อสื่อความให้ประชาชน ทั้งนี้ตนได้กำชับว่าให้ไปทุกครั้งที่มีการเรียก และยืนยันไม่ได้ตอบแทน ปตท. แต่ขอให้เชื่อมั่นในรัฐวิสาหกิจไทยในตลาดหลักทรัพย์ ที่ทำหน้าที่ดูแลประชาชน แต่ไม่สามารถนำกำไร ปตท.ทั้งหมดมาช่วยประชาชนได้ เพราะมีผู้ถือหุ้นรายอื่นด้วย และยังขัดต่อข้อกฎหมาย