วันนี้(14 พ.ย.64) ที่ศาลากลางจังหวัดกระบี่ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังประชุมหารือ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 6 จังหวัดทะเลอันดามัน ผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอร์เร้นท์ ในการเตรียมความพร้อมในการสนับสนุนภารกิจนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่และการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรกระบี่ (ครม.สัญจรกระบี่) ว่า
ในโอกาสที่นายกฯ และครม. ได้เดินทางตรวจราชการและประชุมครม.อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ในพื้นที่จังหวัดกระบี่และตรวจราชการที่จังหวัดตรังระหว่าง วันที่ 15-16 พ.ย.นี้ ที่ประชุมได้มีการเตรียมความพร้อม โดยได้ประเมินสถานการณ์ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน ทั้งกลุ่มเกษตรกร และประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากที่ดินทำกิน กลุ่มชาติพันธ์ ประมง สวนปาล์ม และกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ที่จะเข้ายื่นหนังสือ พบว่าในจังหวัดกระบี่คาดว่าจะมี 11 กลุ่ม ส่วนจังหวัดตรังมี 2-3 กลุ่ม ซึ่งถือว่าเป็นผู้ได้รับผลกระทบผู้ประกอบอาชีพที่ดินทำกินเรื่องของการประมงผลกระทบจากโควิด
ขณะเดียวกันได้จัดตั้งศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทั้งศูนย์หลักและศูนย์ลอย ระหว่างวันที่ 15 และ 16 จังหวัดกระบี่และจังหวัดตรัง
นายเสกสกล ยังแสดงความเป็นห่วงและวิตกกังวล คือกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง โดยฝ่ายความมั่นคงและสันติบาล กอ.รมน. ได้เตรียมความพร้อมแล้ว พร้อมกับย้ำว่า วันนี้นายกฯ มาปฏิบัติภารกิจมาประชุมครม. สัญจร มาพัฒนาสร้างความเจริญให้กับประชาชนภาคใต้ฝั่งอันดามัน จึงอยากจะขอวิงวอนขอร้อง อย่าได้ทำลายบรรยากาศโดยเฉพาะกลุ่มการเมืองที่เป็นฝ่ายตรงข้าม
นายเสกสกล กล่าวด้วยว่า นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน โดยได้มอบหมายให้ทุกภาคส่วนดูแลประชาชน ด้วยการตั้งศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ในช่วงที่นายกรัฐมนตรี ครม.ลงพื้นที่และประชุม ครม.สัญจร ตามจุดต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน พร้อมกับยืนยันว่า นายกรัฐมนตรีไม่เลือกปฏิบัติพร้อมที่จะดูแลคนทุกกลุ่ม ซึ่งความเดือดร้อนของประชาชนทุกคนคน ตนเองจะนำเรื่องเสนอต่อนายกรัฐมนตรีอย่างแน่นอนเพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือต่อไป
นายเสกสกล ยังเน้นย้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการรับเรื่องราวร้องทุกข์ของประชาชน จะต้องไม่มีการสกัดกั้นไม่ว่าจะเป็นกลุ่มใดก็ตาม แต่ขอให้ยื่นตามจุดที่กำหนดเอาไว้ อีกทั้งต้องให้บริการกับผู้ที่มาร้องเรียนให้ดีที่สุด ขณะที่เรื่องร้องเรียนใดสามารถแก้ไขปัญหาได้ก่อนก็ขอให้ดำเนินการได้เลย ส่วนปัญหาใดที่เป็นข้อกฎหมายขอให้รวบรวมรายละเอียดเพื่อนำไปพิจารณาต่อไปยืนยันว่าทุกเรื่องจะไม่มีการเก็บเข้าตู้ หรือลิ้นชักอย่างแน่นอน
“ทั้งนี้ก็ต้องไม่ประมาท ฝ่ายความมั่นคง สันติบาลตามประกบดูว่าจะมีกลุ่มก้อนการเมืองใดที่จะเข้ามาสร้างความปั่นป่วนหรือไม่ เพราะไม่อยากให้เสียบรรยากาศบ้านเมืองที่กำลังจะเดินไปข้างหน้า และพี่น้องไม่ว่าจะเป็นชาวกระบี่ ชาวตรัง หรือในฝั่งอันดามันทุกคนรักจังหวัดบ้านเกิดของตัวเอง ไม่อยากให้คนกลุ่มน้อยมาทำลายบรรยากาศการท่องเที่ยว หรือทำลายความเชื่อมั่น ตนเองไม่อยากให้เอาการเมืองมาเล่นช่วงนี้ขอให้เห็นแก่บ้านเมือง เห็นแก่ประชาชนของตัวเองด้วย” นายเสกสกล ระบุ