svasdssvasds
logo-pwa

เพิ่ม thansettakij

ลงในหน้าจอหลักของคุณ

ติดตั้ง
ปิด
thansettakij

สั่งเร่งสำรวจคนยังไม่รับวัคซีน เชื่อได้100 ล้านโดส ฟื้นศก. ภายในเดือนนี้

13 พฤศจิกายน 2564

นายกฯ เร่งสำรวจคนยังไม่รับวัคซีน เชื่อถ้าฉีดวัคซีนครอบคลุม 100 ล้านโดส จะฟื้นเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว รวมทั้งการเปิดประเทศเพิ่มเติมในปลายปีนี้

วันที่ 13 พ.ย.2564 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์ฉุกเฉินโควิด-19 (ศบค.) ติดตามแผนการจัดหาวัคซีนโควิด-19 ของไทย พอใจไทยสามารถจัดหาวัคซีนโควิด-19 เกินเป้าหมาย โดยปลายปีนี้ ไทยจะมีวัคซีนรวมทั้งหมด 155.6 ล้านโดส ประกอบด้วยวัคซีนที่รัฐจัดหา จำนวน 128.6 ล้านโดส ได้แก่ ซิโนแวค แอสตร้าเซเนก้า และไฟเซอร์ รวมทั้งวัคซีนทางเลือก ได้แก่ ซิโนฟาร์ม และโมเดอร์นา จำนวน 27 ล้านโดส โดยตั้งเป้าหมายใหม่ของการฉีดวัคซีนภายในปีนี้ โดยให้ครอบคลุมผู้ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 อย่างน้อยร้อยละ 80 และเข็ม 2 อย่างน้อยร้อยละ 70 ภายในเดือนธันวาคมนี้

 

ทั้งนี้ สำหรับผลการดำเนินการให้บริการวัคซีนโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์-12 พฤศจิกายน 2564 มีจำนวนผู้ได้รับวัคซีนสะสม 84.5 ล้านราย แบ่งประเภทผู้ได้รับเข็มที่ 1 จำนวน 45.2 ล้านราย คิดเป็น 67.3% ผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 36.5 ล้านราย คิดเป็น 54.4% ผู้ได้รับเข็มที่ 3 จำนวน 2.7 ล้านราย คิดเป็น 3.8% สำหรับผลการฉีดวัคซีนในกลุ่มอายุ 12-17 ปี ระหว่างวันที่ 4 ตุลาคม-11 พฤศจิกายน 2564 รวมจำนวน 4.3 ล้านโดส แบ่งเป็น เข็มที่ 1 จำนวน 2.8 ล้านโดส และเข็มที่ 2 จำนวน 1.5 ล้านโดส และการฉีดวัคซีนชาวต่างชาติในไทยอยู่ที่ 2,196,744 โดส คิดเป็นร้อยละ 26.5 ของจำนวนชาวต่างชาติทั้งหมดที่อาศัยอยู่ในไทย

สั่งเร่งสำรวจคนยังไม่รับวัคซีน เชื่อได้100 ล้านโดส ฟื้นศก. ภายในเดือนนี้

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. ยังเห็นชอบให้มีการจัดสรรให้กลุ่มประชากรอื่นๆ ที่ไม่ใช่สัญชาติไทยทั้งหมด สามารถรับการฉีดวัคซีนได้ตามความสมัครใจ แนวทางบริหารจัดการกลุ่มประชากรที่มิใช่สัญชาติไทย ศบค.มอบหมายให้หน่วยงานที่รับผิดชอบกำหนดและจัดทำทะเบียนรายชื่อและจำนวนสำหรับผู้ที่ประสงค์รับวัคซีน ติดตามให้มารับการฉีดวัคซีนตามวัน เวลา และสถานที่ที่กำหนด

 

กรณีกลุ่มเป้าหมายไม่มีเลขประจำตัวจะสร้างฐานข้อมูลตัวแปร (generate code) เพื่อออกใบรับรองการฉีดวัคซีนได้ ทั้งนี้มอบหมายให้แต่ละหน่วยงานร่วมกับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด สำรวจ จัดทำทะเบียนฉีด รวมทั้งพิจารณาแนวทางการบริหารจัดการฉีดให้เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ ดังนี้

 

1.แรงงานภาคประมง จังหวัดชายทะเล (จังหวัดชายทะเล 21 จังหวัด) มอบ ศรชล.  2. คนประจำเรือ
ไทยหรือผู้ปฏิบัติงานบนเรือไทย ณ บริเวณท่าเรือในพื้นที่จังหวัดต่างๆ (จังหวัดชายทะเล 21 จังหวัด) มอบกรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม 3. แรงงานต่างด้าวในสถานประกอบการ /บ้านนายจ้างที่ทั้งขึ้นทะเบียนและไม่ขึ้นทะเบียน มอบ กอ.รมน. กระทรวงแรงงาน /กระทรวงมหาดไทย 4. แรงงานต่างด้าว ตามชายแดนไทย 5. ผู้หนีภัยการสู้รบ พื้นที่พักพิงราชบุรี กาญจนบุรี แม่ฮ่องสอนและตาก และ 6. กลุ่มประชากรอื่นๆ ที่ไม่ใช่สัญชาติไทยทั้งหมด ในทุกจังหวัด มอบกระทรวงมหาดไทย

นายธนกรกล่าวว่า นายกฯ ยังกำชับผู้รับผิดชอบระดับอำเภอ ตำบลและหมู่บ้าน เร่งสำรวจประชากรที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนให้ได้รับการฉีดวัคซีนโดยเร็ว เพื่อลดความรุนแรงของการแพร่ระบาด พร้อมทั้งปกป้องระบบสาธารณสุขไทย

 

โดยเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน ในที่ประชุมผู้นำเอเปค ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค รวมทั้งกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ยังเห็นพ้องกันว่า การฉีดวัคซีนโควิด-19 อย่างทั่วถึง เป็นกุญแจสำคัญในการแก้ปัญหาทั้งการระบาดไวรัสโควิด-19 และนำเศรษฐกิจให้กลับมาเดินหน้าได้อีก ซึ่งตรงกับนโยบายนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ที่ให้เร่งจัดหาและฉีดวัคซีน มั่นใจไทยเข้าถึงเป้าหมาย 100 ล้านโดสภายในเดือนนี้ ช่วยย้ำความเชื่อมั่นให้กับภาคเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว รวมทั้งการเปิดประเทศเพิ่มเติมในปลายปีนี้ด้วย
///