“หญิงหน่อย”เปิดตัว 2 ผู้สมัคร"ฐาพล-ธวัชชวิน" ชิงส.ส.สมุทรปราการ

09 พ.ย. 2564 | 12:47 น.

“หญิงหน่อย" เปิดตัว 2 ผู้สมัคร "ฐาพล-ธวัชชวิน" ชิงส.ส.สมุทปราการ ยกเป็นเขตปกครองพิเศษ รับอุตสาหกรรมใหม่ ตามกระแสโลกหลัง "โควิด" ปิ๊กไอเดียขุดลอกปากแม่น้ำ แก้ท่วมซ้ำซาก

วันนี้(9 พ.ย.64) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย ได้เปิดตัว นายฐาพล ณ น่าน และ นายธวัชชวิน โกพัฒน์ตา เป็นผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดสมุทรปราการ พรรคไทยสร้างไทย พร้อมกับเยี่ยมชมการบริหารงานของเทศบาลตำบลบางปู และรับฟังปัญหาชาวประมง และมอบข้าวสาร อาหารแห้งให้ประชาชนชาวตำบลบางปูใหม่ที่ได้รับกระทบจากโควิด-19 โดยมีประชาชนจำนวนมากแห่ให้การตอบรับอย่างคึกคัก

 

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า พรรคไทยสร้างไทย เป็นภารกิจสุดท้ายก่อนตาย และจะขอนำประสบการณ์ทางการเมืองกว่า 30 ปี มาสร้างประเทศไทย พรรคไทยสร้างไทยมีนโยบายสำคัญเพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น คือนโยบาย“บำนาญประชาชน 3,000 บาท และนโยบายกองทุนคนตัวเล็ก เพื่อให้คนไทย “หายจน หมดหนี้ มีรายได้อย่างยั่งยืน”

                             “หญิงหน่อย”เปิดตัว 2 ผู้สมัคร"ฐาพล-ธวัชชวิน" ชิงส.ส.สมุทรปราการ

“ผู้แทนไม่ใช่เจ้านายประชาชน แต่ผู้แทนเป็นผู้รับใช้ประชาชน ขอฝากคนรุ่นใหม่ที่เป็นผู้สมัครส.ส.พรรคไทยสร้างไทยจังหวัดสมุทรปราการทั้ง 2 ท่าน เข้าไปเป็นตัวแทนพี่น้องประชาชนในการแก้ไขปัญหา” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว

 

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวอีกว่า จังหวัดสมุทรปราการ เป็นจังหวัดที่มีอุตสาหกรรมแบบเก่าที่ล้าสมัยไปแล้ว ซึ่งในโลกยุคหลังโควิดจะเกิดปัญหาการกีดกันทางการค้า ดังนั้น จึงเห็นว่าต้องมีการยกระดับ “สมุทรปราการเขตปกครองพิเศษ” เพราะปัจจุบันนี้ ท้องถิ่นไม่มีอำนาจในการออกใบอนุญาตทำให้ท้องถิ่นไม่สามารถจัดการอนุญาตได้ จึงทำให้เกิดมลภาวะทางอุตสาหกรรมเกิดขึ้น เพิ่มค่าใช้จ่าย เพราะท้องถิ่นไม่มีกฎหมาย และงบประมาณที่เพียงพอต่อการควบคุมอุตสาหกรรมที่สร้างมลภาวะ

    “หญิงหน่อย”เปิดตัว 2 ผู้สมัคร"ฐาพล-ธวัชชวิน" ชิงส.ส.สมุทรปราการ  

“ทิศทางการพัฒนาสมุทรปราการ ต้องมีวิสัยทัศน์ Carbon neutrality เพื่อรองรับอุตสาหกรรมแบบใหม่ ปรับเปลี่ยนอุตสาหกรรมการผลิต ให้เป็นไปตามกระแสของโลกยุคหลังโควิด โดยเฉพาะ New economy ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม ไม่เช่นนั้นจะได้ถูกการกีดกั้นจากมาตรการกำแพงภาษี หากไม่มีทิศทางการพัฒนาตามกระแสโลก พื้นที่สมุทรปราการก็จะเป็นเพียงพื้นที่จัดเก็บของเสียคาร์บอนเท่านั้น ทำให้ประชาชนเสี่ยงต่อมลภาวะอุตสาหกรรม” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว

 

นอกจากนี้ โครงการการขุดลอกปากแม่น้ำเจ้าพระยา ที่เป็นตะกอนทับถมทำให้น้ำตื้นเขิน จึงทำให้น้ำท่วมซ้ำซากทุกปี ซึ่งโครงการนี้ เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยที่ตนเป็นรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แต่ไม่ทราบว่าเกิดเหตุอะไรขึ้น จึงทำให้โครงการยังไม่แล้วเสร็จ ดังนั้นจึงต้องมีการแก้ไขกฎระเบียบเกี่ยวกับการซื้อ-ขายดินสันดอน เพื่อป้องกันน้ำท่วมจังหวัดสมุทรปราการ

                                         “หญิงหน่อย”เปิดตัว 2 ผู้สมัคร"ฐาพล-ธวัชชวิน" ชิงส.ส.สมุทรปราการ

นายฐาพล กล่าวว่า พื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ โดยเฉพาะตำบลบางปู แต่ก่อนจะอุดมสมบูรณ์ด้วยป่าชายเลน จนเกิดการขยายตัวของเมืองอุตสาหกรรม ที่ “ขยายแต่ความเจริญ แต่ไม่ได้ขยายคุณภาพชีวิตประชาชน” จึงมีความตั้งใจที่อยากจะผลักดัน ประเด็น “ที่อยู่อาศัยของประชาชนบนพื้นที่ของรัฐ” ที่มีความไม่แน่นนอนว่าจะถูกเวนคืนพื้นที่เมื่อไหร่ ดังนั้น หากปลดล็อก เพื่อเพิ่มอำนาจท้องถิ่น ให้สามารถบริหารจัดสรรที่ดิน ให้กับประชาชนกลุ่มดังกล่าวได้ ก็จะทำให้คุณภาพชีวิตมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

 

อีกประเด็นที่ต้องการผลักดัน คือ “ที่อยู่อาศัยอัตราดอกเบี้ยต่ำแบบตายตัว” ให้กับประชาชนวัยทำงาน มีโอกาสสามารถเข้าถึงแหล่งทุน และเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยได้มากขึ้น โดยเตรียมจะเสนอให้พรรคพิจารณาเป็นนโยบายต่อไป

                                              “หญิงหน่อย”เปิดตัว 2 ผู้สมัคร"ฐาพล-ธวัชชวิน" ชิงส.ส.สมุทรปราการ

ด้านนายธวัชชวิน กล่าวว่า พรรคไทยสร้างไทย ได้รับกาตอบรับจากประชาชนอย่างดีเยี่ยมเนื่องจากคุณหญิงสุดารัตน์ มีผลงาน และนโยบายที่โดดเด่น และเป็นรูปธรรม ซึ่งจากการลงพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ โดยเฉพาะพื้นที่พระประแดง ที่มีจำนวนผู้สูงอายุอาศัยอยู่จำนวนมากให้ความสนใจกับนโยบาย “บำนาญประชาชน 3,000 บาท” เพราะปัจจุบันเบี้ยชราไม่เพียงพอต่อการยังชีพ อีกทั้งไม่อยากเป็นภาระของลูกหลานที่กำลังสร้างตัวมากเกินไป

 

นอกจากนี้ จากการลงพื้นที่ในสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา ทำให้พ่อค้าแม่ค้าต้องกู้หนี้นอกระบบเพราะไม่สามารถขายของได้ จากเดิมที่ขายของได้วันละ 20,000 บาท แต่ทุกวันนี้ได้ไม่ถึงวันละ3,000 บาท ดังนั้นเมื่อมีการเสนอนโยบายกองทุนคนตัวเล็กของพรรค ที่จะช่วยผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งทุนในอัตราดอกเบี้ยต่ำ จึงทำให้ประชาชนให้ความสนใจเป็นอย่างมากต่อนโยบายของพรรค