“สุชาติ"ลั่นอยู่กับพปชร.แล้วไม่สบายใจต้องพิจารณาตัวเอง

28 ต.ค. 2564 | 05:27 น.

“สุชาติ ชมกลิ่น"ชี้ปรับโครงสร้าง พปชร.เรื่องปกติ กก.บห.ที่ลาออก เป็นการเตรียมการ หากบริหารพรรคผิดพลาด ไม่ตรงกัน เสียงข้างน้อยอยู่แล้วไม่สบายใจต้องพิจารณาตัวเอง

 

วันนี้(28 ต.ค.64) นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในฐานะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ  กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค(กก.บห.) ในวันนี้ ว่า กำลังดูอยู่ว่าจะมีการประชุมหรือไม่มี  ซึ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับหัวหน้าพรรค ตนเป็นแค่คณะกรรมการ 1 เสียงเท่านั้น

 

ส่วนที่มีกรรมการบริหารพรรคบางคนลาออกแล้ว ก็เป็นการเตรียมการ หากมีการบริหารพรรคผิดพลาด หรือ แนวทางที่ไม่ตรงกัน ในฐานะที่เราเป็นเสียงข้างน้อยก็ต้องพิจารณาตัวเอง หากเสียงสะท้อนที่ส่งสัญญาณไปมีประโยชน์ต่อประเทศชาติบ้านเมือง  และประโยชน์ของพรรคพลังประชารัฐ  ก็ถือว่าได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว

 

“ผมก็เคารพการตัดสินใจของหัวหน้าพรรค เพราะเป็นศูนย์รวมจิตใจของสมาชิกทุกคน  พรรคพลังประชารัฐ เป็นพรรคที่ตั้งมาใหม่  และมี ส.ส.กว่า 200 คน ไม่ใช่เรื่องง่าย เป็นเรื่องที่ยากมาก”

 

ส่วนหลังจากนี้จะสามารถทำงานร่วมกันได้หรือไม่  นายสุชาติ กล่าวว่า พรรคการเมืองก็มีการปรับเปลี่ยนตลอดเวลา เพื่อปรับสมดุลของการเมือง  วันนี้เราอาจเป็นคนที่ดีและเหมาะสม แต่เมื่อสถานการณ์บ้านเมืองเปลี่ยนไปก็อาจจะไม่ใช่เรา ก็เป็นเรื่องปกติ

 

เมื่อถามย้ำว่าการที่ นายสมศักดิ์  เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ระบุว่า พยายามขับเคลื่อนให้มีการเปลี่ยนแปลงแต่ถ้าทำไม่สำเร็จจะอยู่อย่างไร นายสุชาติ กล่าวว่า เป็นความมคิดของนายสมศักดิ์ เราอาจเห็นไม่เหมือนกัน ตนก็เป็น 1 ในเสียงของคณะกรรมการบริหารพรรค  หากเป็นแล้วไม่สามารถแสดงความคิดเห็นได้ก็ไม่ควรที่จะเป็น หากเป็นแล้วเสนอแนวคิด หรือคิดเห็นไม่ตรงกันกับเสียงข้างมาก หรืออยู่แล้วไม่สบายใจ ก็ต้องพิจารณาตัวเอง ทุกอย่างที่เสนอไปไม่ได้เสนอเพื่อตัวเอง  เสนอเพื่อให้พรรคเติบโตและเป็นสถาบันการเมืองที่แข็งแรง และหัวหน้าพรรคการเมืองมีความสง่างาม

 

“เป็นเรื่องปกติของพรรคการเมืองใหญ่ที่จะมีการปรับโครงสร้าง เราเองก็เป็นพรรคการเมืองใหญ่ เราต้องมีการปรับเพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่น  และทำให้ประเทศชาติบ้านเมืองเดินไปข้างหน้าได้”

 

ส่วนหาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ยังเป็นเลขาธิการพรรค แล้ว  6 รัฐมนตรีจะยังคงทำงานร่วมกันได้หรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า แน่นอน คงต้องแยกประเด็นกัน การเลือกตั้งยังเหลือเวลาอีกตั้งปีกว่า แต่เชื่อว่าเมื่อเราปรับสมดุลก็จะสามารถทำงานร่วมกันได้  และทำให้พรรคแข็งแรง ส่วนการปรับครั้งนี้แล้วปัญหาจะยุติหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ พรรคเราตั้งมาใหม่ เรายึดที่หัวหน้า ไม่เหมือนพรรคอื่นที่เขามีสาขา มีหัวหน้าภาค รองภาคต่างๆ  ซึ่งพรรคก็ต้องค่อยๆ ปรับหาสมดุลเพื่อให้มีความพร้อม