‘เพื่อไทย’ แลนด์(ไม่)สไลด์

22 ต.ค. 2564 | 03:20 น.

‘เพื่อไทย’ แลนด์(ไม่)สไลด์ : รายงาน หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,725 หน้า 12 วันที่ 24 - 27 ตุลาคม 2564

“ผมมีหลายแนวทาง รับรองว่าแต่ละแนวทางเนี่ย ส.ส.ที่คิดจะออก รับตังค์เขามาแล้ว ต้องเอาตังค์ไปคืน เที่ยวนี้ต้องชนะแลนด์สไลด์ เพราะว่าชนะธรรมดา มันไม่ให้เป็นรัฐบาลหรอก ถ้าแลนด์สไลด์มันไม่กล้าเป็นรัฐบาล ต้องเอาแลนด์สไลด์ชนิดที่ไม่กล้าเป็นรัฐบาล” 

 

นั่นคือประโยคคำพูดของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ “นายใหญ่” ของพลพรรคเพื่อไทย ที่ได้วิดีโอคอลเข้ามาพูดคุยในงานเลี้ยงวันเกิดเกรียง กัลป์ตินันท์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ท่ามกลางส.ส.และผู้บริหารพรรคจำนวนมาก ที่อยู่ในงาน เมื่อเร็วๆ นี้ 

 

ความจริงคำว่า “แลนด์สไลด์” ที่หมายถึงการเลือกตั้งส.ส.ที่จะเกิดขึ้นครั้งต่อไปนี้ “พรรคเพื่อไทย” ของ ทักษิณ ชินวัตร จะต้องชนะแบบ “ถล่มทลาย” ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก 

 

ก่อนหน้านั้นช่วงกลางเดือน มิ.ย. 2564 ที่ ทักษิณ ชินวัตร หรือ โทนี วู้ดซั่ม ก็เคยพูดในคลับเฮาส์ ถึงคำว่า “ต้องชนะแลนด์สไลด์” มาแล้ว “ถ้ามีการเลือกตั้งเมื่อไหร่ ต้องเลือกผู้นำของตัวเอง อย่างจริงจัง ถ้าเลือกกระจาย 250 ส.ว.ก็กดปุ่มปั๊ป สมมติว่า นาย ก. เหมาะมาก เทไปเลย เต็มที่เลย เป็นสัญญาณว่า ประชาชนจะเอาแบบนี้ จะได้เปลี่ยน แปลงได้ ถ้าเป็นเบี้ยหัวแตกก็เปลี่ยนแปลงยาก”

 

4 เหตุผลต้องแลนด์สไลด์

 

เหตุที่ทำให้ “ทักษิณ” ฮึกเหิมหรือ คิดถึงเรื่องการชนะเลือกตั้งแบบ“แลนด์สไลด์” อาจวิเคราะห์ได้ว่า 

 

1. เพื่อไม่ให้ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ย้ายออกไปอยู่กับพรรคอื่น

 

2. เพื่อให้ส.ส.ที่เคยย้ายออกไปอยู่กับพรรคอื่น ย้ายกลับมาบ้านเก่า

 

3. กติกาการเลือกตั้งด้วยระบบบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ จะทำให้พรรคของเขากลับมาได้ส.ส.เขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อจำนวนมาก เหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต

 

4. ถ้าไม่ชนะถล่มทลาย หรือได้ส.ส.ไม่เกิน 375 เสียง หรือเกินกึ่งหนึ่งของที่ประชุมรัฐสภา 750 เสียง (ส.ส. 500 + ส.ว. 250) โอกาสที่จะชนะโหวตเลือกนายกฯ ในที่ประชุมรัฐสภา ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นได้ง่ายๆ  

 

ผลเลือกตั้งพรรคทักษิณ

 

ที่ผ่านมาในการเลือกตั้งด้วยกติการะบบการเลือกตั้งบัตร 2 ใบ ในปี 2544 พรรคไทยรักไทย ของ ทักษิณ ขณะนั้น ใช้สโลแกน “เลือกคนที่ใช่กับพรรคที่ชอบ” ทำให้ชนะถล่มทลายได้ ส.ส.ทั้งหมด 248 ที่นั่ง แบ่งเป็น ส.ส.เขต 200 ที่นั่ง ส.ส. บัญชีรายชื่อ 48 ที่นั่ง จากคะแนนรวมกว่า 11.6 ล้านเสียง

 

ถัดมาในการเลือกตั้ง ปี 2548 ในสมัยที่ ทักษิณ นำ พรรคไทยรักไทยชนะการเลือกตั้ง แบบ “แลนด์สไลด์” สามารถจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้สำเร็จเป็นครั้งแรกของไทย โดยได้รับเลือกตั้งเกินครึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร ได้ ส.ส.รวมทั้งหมด 377 ที่นั่ง จากจำนวนทั้งหมด 500 ที่นั่ง 

 

‘เพื่อไทย’ แลนด์(ไม่)สไลด์

 

ก้างขวางคอแลนด์สไลด์ 

 

แต่มาถึงยุคปัจจุบัน ภายใต้ พรรคเพื่อไทย จะสามารถเอาชนะแบบ “แลนด์สไลด์” ได้อีกครั้งหรือไม่ คงไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นได้ง่าย 

 

เพราะ “3 ป.” แห่งค่าย “พลังประชารัฐ” ก็หมายมั่นที่จะดัน “ป.ประยุทธ์” ให้กลับมาผงาดในเก้าอี้นายกฯ “สมัยที่ 3” ให้ได้อีกครั้งหนึ่งที่ผ่านมาไม่ว่าโพลไหนๆ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็นำโด่งมาตลอด

 

ขณะที่พรรคภูมิใจไทย ของ “เสี่ยหนู-อนุทิน ชาญวีรกูล” ซึ่งมีส.ส.และฐานเสียงส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่อีสาน ก็คงไม่ยอมเช่นกัน ที่จะเสียที่นั่งส.ส.ที่เคยได้ คืนไปให้กับพรรคของทักษิณ และมีแต่จะขยายฐานส.ส.ให้ได้มากกว่าเดิม

 

นอกจากนั้น พรรคของคนรุ่นใหม่อย่าง “ก้าวไกล” ภายใต้การนำของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคที่มี ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นเงาอยู่เบื้องหลัง ก็มีความต้องการยึดครองหัวใจคนอีสานไว้ให้ได้เช่นกัน 

 

“จะเป็นนายกฯ ของประเทศ ไทยต้องชนะใจคนอีสาน หากไม่สามารถชนะใจคนอีสานก็เป็นนายกฯไม่ได้ และที่สำคัญหากเรายังไม่สามารถเปลี่ยนภาคอีสานได้ เราก็เปลี่ยนประเทศไทยไม่ได้เช่นเดียวกัน”​ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประกาศขณะเดินทางลงพื้นที่จ.ขอนแก่น ระหว่างวันที่ 14-16 ต.ค. 2564 ที่ผ่านมา

 

ทั้งระบุว่า “วันนี้อาจเป็น พรรคขนาดกลาง แต่มีความฝันว่าวันหนึ่งพรรคก้าวไกลจะต้องเป็น พรรคขนาดใหญ่”  

 

พรรคไหนๆ ก็อยาก “แชร์” ที่นั่งส.ส.ในพื้นที่ภาคอีสาน ซึ่งเป็นภาคที่ “พรรคของทักษิณ” เคยชนะถล่มทลายมาแล้ว 

 

ดังนั้น คงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่ความฝันชนะเลือกตั้งแบบ “แลนด์สไลด์” ของ “ทักษิณ” หรือ “โทนี วู้ดซั่ม” จะซํ้ารอยประวัติศาสตร์ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต… 

 

 

รีแบรนด์พรรคเพื่อไทย

 

ในการประชุมใหญ่พรรคเพื่อไทย วันที่ 28 พ.ย.นี้ ที่จังหวัดขอนแก่น จะได้เห็นโฉมใหม่ พรรคเพื่อไทย (พท.) ที่บรรดากุนซือของทักษิณ ชินวัตร เริ่มวางแผน-วางเกมการตลาด เพื่อดึงฐานเสียงให้คงอยู่กับพรรคต่อไป

 

‘เพื่อไทย’ แลนด์(ไม่)สไลด์

 

โดยจะมีการตั้งกรรมการบริหารพรรค เพื่อทดแทนคนที่ลาออกไป ในตำแหน่งรองหัวหน้า พรรค 2 ตำแหน่ง และกรรมการบริหารพรรค 2 ตำแหน่ง ซึ่งจะคัดเลือกจาก ส.ส. ที่มีความอาวุโสทางการเมือง

 

นอกจากนี้ พรรคเพื่อไทยยังใช้โอกาสนี้ “คิกออฟแคมเปญ” ในฐานที่มั่นอีสาน ในรูปแบบ “แฟนด้อม” ว่าจ้างรถสองแถว-รถตุ๊กๆ ติดป้ายสโลแกนใหม่ “พรุ่งนี้เพื่อไทย เพื่อชีวิตใหม่ประชาชน” วิ่งว่อนทั้งเมืองขอนแก่น และพื้นที่ใกล้เคียง 

 

รถแต่ละคันจะมีภาพและสโลแกนที่แตกต่างกันไป อาทิ พรุ่งนี้เพื่อ SMEs ไทย, พรุ่งนี้เพื่อผู้สูงวัยไทย, พรุ่งนี้เพื่อ 99% ไทย, พรุ่งนี้เพื่อ LGBTQ+ ไทย, พรุ่งนี้เพื่อชาวนาไทย, พรุ่งนี้เพื่อคนพิการ ไทย, พรุ่งนี้เพื่อเกษตรกรไทย เป็นต้น …รับกระแสเลือกตั้งได้เป็นอย่างดี

 

หากสังเกตดีดี คำว่า “พรุ่งนี้เพื่อไทย” ก็คือลายมือของทักษิณนั่นเอง ...ว่ากันว่าเพื่อตอกยํ้าความจดจำ ทั้งตัวบุคคล และนโยบายประชานิยม

 

โดยมีการเปลี่ยนแปลงใหม่สีของพรรคให้ เป็น “สีแดง” จากเดิม 3 สี แดง ขาว นํ้าเงิน 

 

นางสาวอรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ระบุว่า พรรคเพื่อไทย เราต้องการสร้างความหวังสร้างนโยบายที่ตอบโจทย์ความต้องการของพี่น้องประชาชนอีกครั้งคืนเงินในกระเป๋า คืนสุขภาพที่ดี คืนศักดิ์ศรี คืนประชาธิปไตยสู่ประชาชน เพื่อวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า
วันนี้ และอนาคตที่ดีกว่านี้

 

ดังนั้นในการประชุมใหญ่สามัญประจำปีพรรคเพื่อไทยวันที่ 28 ต.ค.นี้ จึงจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “พรุ่งนี้เพื่อไทย : เพื่อชีวิตใหม่ของประชาชน” เพื่อทวงคืนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ทวงคืนคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าวันนี้ กลับคืนสู่คนไทยทุกคน 

 

นอกจากนี้ ในงานผู้เข้าร่วมประชุมจะได้พบกับการแสดงวิสัยทัศน์จากส.ส. ผู้เชี่ยวชาญ และบุคลากรมากความสามารถจากพรรคเพื่อไทย ที่จะร่วมกันปลุกความหวัง คืนความฝันให้กับคนไทยทุกคน 

 

“พรุ่งนี้เพื่อไทย : เพื่อชีวิตใหม่ของประชาชน คือคำมั่นสัญญาจากพรรคเพื่อไทย ชีวิต ความฝันความหวัง ศักดิ์ศรีของประชาชนจะกลับมา ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน เพราะพรรคเพื่อไทยทำได้จริงทุกครั้งที่สัญญา” โฆษกพรรคเพื่อไทย ระบุ