"อรรถวิชช์" แนะรัฐเร่งส่งวัคซีน ทูต-จนท.ไทยในต่างแดนยังเสี่ยง

24 พ.ค. 2564 | 06:21 น.

"อรรถวิชช์"แนะรัฐบาลเร่งส่งวัคซีนให้เจ้าหน้าที่ไทยในต่างประเทศ ชี้นายกฯได้ครบ 2 เข็มพร้อมสู้ แต่ทูต-จนท.ยังเสี่ยง

วันที่ 24  พ.ค. 2564 นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า กล่าวเสนอให้รัฐบาลส่งวัคซีนที่มีอยู่ ฉีดให้กับเจ้าหน้าที่ไทยที่ปฏิบัติงานดูแลคนไทยในต่างประเทศ เพราะมีข้อร้องเรียนมาว่า เจ้าหน้าที่ที่ประจำการหลายประเทศยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด แต่ยังคงปฏิบัติหน้าที่ดูแลคนไทย ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ระบาดหนักในหลายประเทศ  มีเพียงบางประเทศเท่านั้นที่ได้รับการฉีดวัคซีน โดยประเทศปลายทางเป็นผู้ให้บริการ 

"ทูตและผู้แทนไทย เช่น กระทรวงการต่างประเทศ  กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง กระทรวงแรงงาน กระทรวงเกษตร กองทัพบก กองทัพอากาศ กองทัพเรือ ตำรวจ ธนาคารแห่งประเทศไทย BOI การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ปปส. หน่วยงานเหล่านี้ล้วนมีเจ้าหน้าที่อยู่ต่างประเทศ แต่หลายคนยังไม่ได้รับวัคซีน ทั้งที่มีหน้าที่เป็นด่านหน้าในการดูแลคนไทยในต่างประเทศสู่ภัยกับโรคระบาดครั้งนี้ จนปัจจุบันมีหลายท่านที่ป่วยและไม่สามารถปฏิบัติงานได้" 

นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี

นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า ท่านนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ได้รับวัคซีน Astrazeneca เข็มที่ 2 แล้วในวันนี้ ก็คงสามารถทำงานได้ดีขึ้น เสี่ยงน้อยลง แต่เจ้าหน้าที่ของไทยในต่างแดนยังต้องเสี่ยงอยู่ ต้องไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังเหมือนที่ท่านนายกฯ เคยกล่าว โดยขอให้เทียบเคียงกรณีสหรัฐส่งวัคซีน Pfizer มาฉีดให้เจ้าหน้าที่สหรัฐในไทยเมื่อต้นเดือนนี้ หรือจีนที่ส่งวัคซีน Sinovac มาให้คนจีนในไทยฉีดในช่วงเวลาที่ผ่านมา 

นายอรรถวิชช์ ย้ำด้วยว่า เรื่องนี้สะท้อนระบบราชการที่ล้าหลัง ในการดูแลคนทำงานหน้าด่านในต่างประเทศ การส่งวัคซีนข้ามประเทศโดยใช้เอกสิทธิ์ทางการทูตน่าจะไม่จากเกินกำลังของรัฐบาลไทย  ความเร็ว เป็นหัวใจในการแก้วิกฤติ เป็นกำลังใจให้คนทำงานฉีดวัคซีน เลขาธิการพรรคกล้า กล่าวเสนอให้รัฐบาลส่งวัคซีนที่มีอยู่ ฉีดให้กับเจ้าหน้าที่ไทยที่ปฏิบัติงานดูแลคนไทยในต่างประเทศ เพราะมีข้อร้องเรียนมาว่า เจ้าหน้าที่ที่ประจำการหลายประเทศยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน แต่ยังคงปฏิบัติหน้าที่ดูแลคนไทย ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ระบาดหนักในหลายประเทศ  มีเพียงบางประเทศเท่านั้นที่ได้รับการฉีดวัคซีน โดยประเทศปลายทางเป็นผู้ให้บริการ 

"ทูตและผู้แทนไทย เช่น กระทรวงการต่างประเทศ  กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง กระทรวงแรงงาน กระทรวงเกษตร กองทัพบก กองทัพอากาศ กองทัพเรือ ตำรวจ ธนาคารแห่งประเทศไทย BOI การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ปปส. หน่วยงานเหล่านี้ล้วนมีเจ้าหน้าที่อยู่ต่างประเทศ แต่หลายคนยังไม่ได้รับวัคซีน ทั้งที่มีหน้าที่เป็นด่านหน้าในการดูแลคนไทยในต่างประเทศสู่ภัยกับโรคระบาดครั้งนี้ จนปัจจุบันมีหลายท่านที่ป่วยและไม่สามารถปฏิบัติงานได้" 
 

นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า ท่านนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ได้รับวัคซีน Astrazeneca เข็มที่ 2 แล้วในวันนี้ ก็คงสามารถทำงานได้ดีขึ้น เสี่ยงน้อยลง แต่เจ้าหน้าที่ของไทยในต่างแดนยังต้องเสี่ยงอยู่ ต้องไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังเหมือนที่ท่านนายกฯ เคยกล่าว โดยขอให้เทียบเคียงกรณีสหรัฐส่งวัคซีน Pfizer มาฉีดให้เจ้าหน้าที่สหรัฐในไทยเมื่อต้นเดือนนี้ หรือจีนที่ส่งวัคซีน Sinovac มาให้คนจีนในไทยฉีดในช่วงเวลาที่ผ่านมา 

นายอรรถวิชช์ ย้ำด้วยว่า เรื่องนี้สะท้อนระบบราชการที่ล้าหลัง ในการดูแลคนทำงานหน้าด่านในต่างประเทศ การส่งวัคซีนข้ามประเทศโดยใช้เอกสิทธิ์ทางการทูตน่าจะไม่จากเกินกำลังของรัฐบาลไทย  ความเร็ว เป็นหัวใจในการแก้วิกฤติ เป็นกำลังใจให้คนทำงาน