ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด "นิพนธ์" สมัยนั่งนายก อบจ.สงขลา

01 ต.ค. 2563 | 13:29 น.

“ป.ป.ช.” ชี้มูลความผิด “นิพนธ์ บุญญามณี” สมัยนั่ง นายก อบจ.สงขลา ข้อหาไม่เบิกจ่ายเงินค่ารถเอนกประสงค์ 50 ล้านให้เอกชน ด้าน "นิพนธ์" ยัน การชี้มูลความผิดไม่เกี่ยวกับเรื่องทุจริตแต่อย่างใด ประกาศพร้อมสู้คดีในชั้นอัยการ-ศาล

1 ตุลาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่า เมื่อช่วงกลางเดือนกันยายน ที่ผ่านมา คณะกรรมการป.ป.ช.ได้ชี้มูลความผิดนายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายก อบจ.สงขลา กรณีละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่ไม่อนุมัติเบิกจ่ายงบประมาณแก่บริษัท พลวิศว์ เทคพลัส จำกัด เป็นค่ารถซ่อมบำรุงทางเอนกประสงค์ 2 คัน วงเงิน 50,850,000 บาท ที่ทำสัญญาซื้อขายกันเมื่อวันที่ 31 พ.ค.2556 โดยนายนิพนธ์ ให้เหตุผลอ้างว่าที่ไม่มีการจ่ายเงินให้บริษัทเอกชนดังกล่าวเพราะมีการร้องเรียนเรื่องฮั้วประมูล

 

ต่อมาเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2560 ศาลปกครองจังหวัดสงขลา มีคำพิพากษาให้ อบจ.สงขลา ชำระเงินให้แก่บริษัท พลวิศว์ฯ เป็นเงินต้นรวมดอกเบี้ย 7% ต่อปี เป็นเงิน 52 ล้านบาท โดยศาลเห็นว่า ไม่ปรากฏว่า กรรมการของเอกชนผู้ชนะการประกวดราคาเป็นหุ้นส่วนกับเอกชนอีกรายหนึ่งที่เข้ายื่นเสนอราคาให้เกิดการสมยอมในการประกวดราคา สัญญาจึงยังคงผูกพันคู่สัญญาต้องปฏิบัติตาม ถือว่า อบจ.สงขลาผิดสัญญาต้องชำระเงินดังกล่าว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

"ณัฐจักร-สุขาติ" ปปช.ใหม่เข้าทำงานวันแรก ยันต้องเป็นกลาง

ไม่รอด! ป.ป.ช.ฟัน "ยิ่งลักษณ์-2 นักการเมือง" คดีฮั้วประมูลจัดอีเว้นท์

นิติศาสตร์ทั่วประเทศจ่อยื่น ป.ป.ช.ตั้งคณะกรรมการไต่สวนอัยการ 

"ป.ป.ช."ฟันเพิ่มเงินทอนวัด 3 จังหวัดเสียหาย 26 ล้าน 

 

ทั้งนี้ ป.ป.ช.เตรียมจะเปิดแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงรายละเอียดคดีนี้ในสัปดาห์หน้า

 

ขณะที่มีรายงานล่าสุดว่า นายนิพนธ์ ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดในเรื่องนี้ว่า ป.ป.ช. มีการชี้มูลความผิดตนไปแล้วหรือไม่ ขอตรวจสอบข้อมูลก่อน อย่างไรก็ดี ยืนยันว่า กรณีนี้ไม่ได้เป็นเรื่องทุจริต แต่มีการร้องเรียนว่าการจัดซื้อรถซ่อมบำรุงทางเอนกประสงค์ 2 คัน 50.8 ล้านบาทนั้น มีการฮั้วประมูล มีการปลอมลายมือชื่อ และตนเห็นหลักฐานทุกอย่าง

 

ดังนั้น เพื่อรักษาผลประโยชน์ของแผ่นดิน จึงยังไม่ได้มีการอนุมัติเบิกจ่าย จนถึงขณะนี้เท่าที่ทราบ อบจ.สงขลา ยังไม่ได้มีการเบิกจ่ายเงินให้แก่เอกชนรายดังกล่าวเลย แล้วอย่างนี้จะทำให้ อบจ.สงขลา เสียหายได้อย่างไร

 

“ผมยกตัวอย่างคดีอื่นๆ เช่น คดีคลองด่าน คดีรถดับเพลิง กทม. ที่มีการฮั้วกันในยุคผู้บริหารก่อนหน้าน พอผู้บริหารคนใหม่มา มีการเบิกจ่ายเงิน เลยผิดด้วย ผมยึดหลักการนี้คือเมื่อเห็นว่ามีการกระทำผิด มีการฮั้วกัน ผมเลยยังไม่อนุมัติเบิกจ่าย ราชการยังไม่เสียหาย แล้วจะมีความผิดได้อย่างไร” นายนิพนธ์ กล่าว

 

นายนิพนธ์ กล่าวอีกว่า สำหรับการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีการฮั้วจัดซื้อรถซ่อมบำรุงทางเอนกประสงค์นั้น ขณะนี้ได้หลักฐานมาจากต่างประเทศหลายแห่ง เช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ออสเตรเลีย หลักฐานจากนอร์เวย์ สหรัฐอเมริกา มาเลเซีย เป็นต้น ที่ชี้ให้เห็นว่า คู่เทียบเอกชนในการจัดซื้อรถซ่อมบำรุงทางดังกล่าว ไม่ได้มีตัวตนจริง และมีการส่งหลักฐานบางส่วนให้แก่ ป.ป.ช. ไปแล้วระหว่างการไต่สวน

นอกจากนี้ในการจัดซื้อรถคันดังกล่าว เกิดขึ้นในยุคก่อนที่ตนจะเข้ามาเป็นนายก อบจ.สงขลา เมื่อตนมาเป็นถึงขั้นตอนการจ่ายเงินกันแล้ว แต่มีเรื่องร้องเรียนเข้ามาก่อน จึงดำเนินการตรวจสอบ และยังไม่ได้อนุมัติเบิกจ่ายเงิน ดังนั้นถ้าหากมีการสอบสวนประเด็นฮั้วจนหมดสิ้นกระบวนความแล้วพบว่า มีการฮั้วจริง สัญญาการจัดซื้อครั้งนั้นเป็นโมฆะ สูญเปล่าแต่แรก นี่คือหลักการ

 

“ผมยืนยันเลยว่า เรื่องนี้ไม่มีการทุจริต ยังไม่มีการจ่ายเงินให้แก่เอกชน แต่มีการร้องเรียนเรื่องฮั้วประมูล ถ้าเอกชนผิดจริง ทำกับว่า สัญญาเป็นโมฆะ ผมยืนยันได้เลยว่าผมไม่ได้ทุจริต พร้อมจะชี้แจงเอกสารหลักฐานทุกอย่างที่ได้มาจากต่างประเทศแก่สื่อมวลชนด้วย” นายนิพนธ์ กล่าว

 

ส่วนข้อซักถามที่ว่า หาก ป.ป.ช. แถลงข่าวอย่างเป็นทางการจะลาออกหรือไม่นั้น นายนิพนธ์ กล่าวว่า ขอตรวจสอบรายละเอียดจากทาง ป.ป.ช.ก่อน แต่ต้องเข้าใจว่า ตำแหน่งที่ตนถูกกล่าวหานั้น คือ นายก อบจ.สงขลา ไม่ใช่ตำแหน่งปัจจุบัน (รมช.มหาดไทย) ดังนั้น เรื่องที่ถูกกล่าวหาจึงเป็นตำแหน่งในอดีต แต่ยืนยันได้ว่า ถ้าหากมีการชี้มูลจริงไม่ได้เป็นการชี้มูลเกี่ยวกับเรื่องทุจริตแต่อย่างใด และพร้อมจะสู้คดีต่อในชั้นอัยการ และชั้นศาลต่อไป