แฉกลโกง “ร้านทอง-ธุรกิจน้ำมัน” รับฟอกเงิน 2 แสนล้าน

จากกรณีเจ้าหน้าที่หลายหน่วยปฏิบัติการบุกค้นร้านทองในพื้นที่กรุงเทพฯและต่างจังหวัด เช่น นครปฐม กาญจนบุรี รวมถึงภาคใต้ และจังหวัดทางภาคเหนือ หลังพบความเกี่ยวพันกับขบวนการค้ายาเสพติดและฟอกเงิน ด้วยการนำเงินที่ได้จากการค้ายาเสพติดโอนเข้าบัญชีร้านทองเพื่อซื้อทองคำแท่ง โดยเครือข่ายค้ายาเสพติด “ดาวเรือง”  ใช้วิธีการฟอกเงินที่ร้านทองย่านวังบูรพา รวมถึงใช้วิธีการซื้อขายน้ำมันและธุรกิจอื่นๆ รวมมูลค่าการฟอกเงินครั้งนี้เกือบ 2 แสนล้านบาท

จากข้อมูลกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ระบุว่า ขบวนการค้ายาเสพติด “ดาวเรือง” เป็นขบวนการค้ายาไอซ์และยาบ้าซึ่งทำมาระยะหนึ่งแล้ว ผู้บงการเครือข่ายนี้เคลื่อนไหวอยู่ในประเทศและมีบางส่วนสั่งการมาจากในเรือนจำ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ประสานงานกับ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ มาโดยตลอด ก่อนขยายผลปฏิบัติการจนไปพบร้านทองย่านเยาวราช 2-3 ร้านที่รับฟอกเงินให้กับขบวนการค้ายาเสพติดดังกล่าวสามารถจับกุมได้เกือบ 300 คน จากจำนวน 400 หมายจับ มีทั้งเจ้าของร้านทอง เจ้าของธุรกิจน้ำมัน และผู้รับเปิดบัญชีรับโอนเงิน และกดเงิน จากการสอบปากคำเจ้าของร้านทองที่ถูกจับกุมเบื้องต้นบางส่วนรับสารภาพ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง ขุดรากถอนโคนแก๊งลักลอบด้วยกฎหมายฟอกเงิน

ในส่วนของตำรวจกองปราบปรามที่เข้าจับกุมคณะกรรมการบริหาร บริษัท ชมพู (บ้วนหลี) จำกัด ซึ่งประกอบกิจการเกี่ยวกับจำหน่ายเครื่องทองรูปพรรณ ย่านวังบูรพา กทม. จำนวน 10 ราย ในความผิดฐานฟอกเงิน พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 เปิดเผยว่า ได้มีการเรียกเจ้าหน้าประชุมหารือร่วมกับทางเจ้าหน้าที่ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อวางแนวทางการขยายผลตรวจสอบเส้นทางการเงินต่างๆ ของ บจก.ชมพู (บ้วนหลี) เพื่อหาความเชื่อมโยงไปยังผู้ร่วมกระทำผิดรายอื่นๆและตรวจสอบให้แน่ชัดว่า นอกเหนือจากเงินที่ได้รับจากขบวนการยาเสพติดมาฟอกเงินนั้น ยังมีเงินผิดกฎหมายจากธุรกิจสีเทาอย่างอื่นอีกด้วยหรือไม่ ทั้งยังได้เตรียมประสานขอความร่วมมือไปยังกรมสรรพากรเข้าตรวจสอบธุรกรรมการเงินผลประกอบการของบริษัทดังกล่าวย้อนหลังในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเพื่อดูว่า มีการหลบเลี่ยงชำระภาษีการประกอบกิจการร้านทองตามที่กฎหมายกำหนดหรือไม่
 

ทั้งนี้ จากรายงานข่าวให้ข้อมูลว่า ตามหลักพฤติกรรมศาสตร์การฟอกเงินของขบวนการยาเสพติดของประเทศเพื่อนบ้านได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบและวิธีการไปจากเดิมที่เมื่อได้เงินค่ายาเสพติดจากเอเย่นต์ยาเสพติดในประเทศไทยแล้ว กลุ่มผู้ค้ายาข้ามชาติจะใช้วิธีลำเลียงเงินสดกลับไปยังพื้นที่ของตนเองผ่านทางช่องทางธรรมชาติ แต่เนื่องจากวิธีการขนย้ายเงินจำนวนมากข้ามประเทศมีความเสี่ยงสูงที่จะถูกเจ้าหน้าที่ตรวจยึดได้ก่อนจึงเริ่มหันมาใช้วิธีการฟอกเงิน โดยเปลี่ยนให้เป็นเงินถูกกฎหมายในลักษณะของ “การลงทุน” ซึ่งจากแนวทางการสืบสวน พบว่า วิธีการฟอกเงินของขบวนการยาเสพติดในลักษณะการลงทุนนั้นมี  4 ประเภท คือ

1.ลงทุนทำธุรกิจซื้อขายทองคำกับร้านทอง

2.การลงทุนซื้อขายน้ำมันข้ามประเทศ

3.การลงทุนธุรกิจวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้าง

4.การลงทุนธุรกิจซื้อขายอุปกรณ์ทางการเกษตร