นายวราวุธ ศิลปอาชา ฐัมนตรีว่าการ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ไฟป่าบนพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จ.เลย ที่ได้รับความเสียหายกว่า 3,200 ไร่นั้น เจ้าหน้าที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดเลยและกระทรวงกลาโหม ร่วมกันทำแนวกันไฟ 100 กิโลเมตร หรือบริเวณหลังแปล 37,500 ไร่ และพื้นที่เชิงเขา-หน้าผา จนถึงด้านพื้นล่าง 750 กิโลเมตร หรือประมาณ 1 แสนไร่ ทำแนวกันไฟความกว้าง 20-50 เมตร ยกเว้นแนวทุ่งหญ้าที่จะต้องทำให้กว้าง 50 เมตรขึ้นไป แต่ต้องกำจัดเชื้อเพลิงออกให้หมดก่อน
“ ขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ไฟป่าบนภูกระดึงทุกคน รวมถึงตัวแทนจากทุกหน่วยงานที่มาร่วมปฏิบัติงานอย่างเต็มกำลัง ช่วยควบคุมระดับไฟป่า ให้สงบลง ไม่ขยายวงกว้างสร้างความเสียหายไปมากกว่านี้ ซึ่งสาเหตุไฟป่าเกิดจากความมักง่ายของมนุษย์จนทำให้ธรรมชาติบนภูกระดึงเสียหาย 10% ของพื้นที่ทั้งหมด และจากการเดินสำรวจสภาพต้นสนที่เสียหายจากไฟป่าได้เริ่มฟื้นตัวเอง โดยแตกกิ่งขึ้นมาใหม่ จึงถือเป็นข่าวดีที่สภาพป่าที่เสียหายไปสามารถฟื้นฟูกลับมาได้เอง 80%”
อย่างไรก็ตาม จะต้องรอฝนแรกของฤดูฝนที่กำลังจะมาถึงช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ให้พื้นที่บนภูกระดึงฟื้นตัวเอง แต่เนื่องจากขณะนี้ ภูกระดึงกำลังประสบปัญหาภัยแล้ง และมีปริมาณน้ำน้อยมากทำให้ปีนี้อุทยานแห่งชาติภูกระดึง ต้องปิดรับนักท่องเที่ยวเร็วกว่าปีอื่นๆ 2 เดือน ตั้งแต่เดือนเม.ย.ถึงเดือนก.ย.รวม 6 เดือนด้วยกัน ซึ่งจากเดิมทุกปีจะปิดระยะเวลา 4 เดือน เพื่อให้ธรรมชาติฟื้นฟูตัวเอง
สำหรับมาตรการฟื้นฟูภูกระดึงระยะยาวนายวราวุธกล่าวว่า ต้องเร่งทำแนวกันไฟเพื่อป้องกันไฟป่า สิ่งสำคัญคือ ต้องเพิ่มอุปกรณ์ป้องกันไฟป่าให้เพียงพอและเพิ่มประสิทธิภาพเจ้าหน้าที่ปกป้องผืนป่า ขณะที่ประชาชนเองต้องขอความร่วมมือเพื่อเป็นกำลังสำคัญในการช่วยปกป้องผืนป่า จะได้เป็นหูเป็นตาให้กับเจ้าหน้าที่ไม่ให้มีการเผาป่าขึ้นอีก นอกจากนี้ยังได้กำชับเจ้าหน้าที่กรมอุทยาน สัตว์ป่า และพันธุ์พืชทุกแห่งทั่วประเทศถึงเรื่องการใช้เครื่องปั๊มหัวใจ และฝึกการทำ CPR เพื่อช่วยเหลือเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
นอกจากนั้นยังให้กรมทรัพยากรธรณีจัดทำโครงการเพื่อเสริมความรู้การเปลี่ยนแปลงของระดับหินแต่ละชั้นตั้งแต่ระดับพื้นล่างของภูกระดึงไปจนถึงยอดภูกระดึงว่า มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร เพื่อเสริมความรู้ให้กับนักท่องเที่ยวที่มาขึ้นภูกระดึง ส่วนกรณีที่มีกลุ่มชาวบ้านมาขอให้สร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึงนั้น เป็นเรื่องที่จะต้องมีการศึกษาให้ละเอียดรอบคอบมากที่สุด ขณะนี้มีทั้งกลุ่มให้สร้างและไม่สร้าง ฝ่ายละ 50 ต่อ 50