ปชป.พร้อมถกงบฯ ปี 63 เน้นเจาะลึกแต่ละพื้นที่

วันที่ 3 ม.ค.63 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์  (ปชป.) กล่าวถึง กรณีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรมีหนังสือนัดประชุมสภาผู้แทนราษฎรเป็นพิเศษ วันที่ 8-9 มกราคม นี้ เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ว่า พรรคประชาธิปัตย์มีกรรมาธิการวิสามัญพิจารณางบประมาณที่ไปทำหน้าที่ มีการเตรียมข้อมูลต่างๆไว้ให้กับ ส.ส.ของพรรคส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งพรรคจะเป็นผู้เตรียมข้อมูลให้กับ ส.ส.  นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ประธาน ส.ส. จะเรียกประชุม เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการอภิปราย  

“จะมุ่งดูลึกถึงรายละเอียดของงบประมาณที่ลงไปในพื้นที่ต่างๆด้วย ว่าเป็นไปตามความต้องการของพี่น้องประชาชนหรือไม่ มีหลายส่วนที่ ส.ส.ในพื้นที่อาจไม่เห็นด้วยกับกรรมาธิการฯ หากมีการจัดงบประมาณเพื่อไปแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนตรงจุด การอภิปรายในวาระนี้ เชื่อว่าผ่านไปได้ ไม่มีปัญหา” นายราเมศ กล่าว

ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านจะถล่มงบประมาณของกระทรวงกลาโหม เพื่อลดความน่าเชื่อถือกองทัพและรัฐบาลนั้น นายราเมศ กล่าวว่า หากฝ่ายค้านคิดว่า สิ่งที่ทำเป็นประโยชน์ต่อประชาชนก็ทำ แต่ส่วนตัวมีความเห็นว่า เรื่องงบประมาณกระทรวงกลาโหมมีความสำคัญ เพราะเรื่องความมั่นคงของประเทศ ไม่มีใครที่รู้ดีเท่าบุคลากรในกระทรวงกลาโหม ถ้าฝ่ายค้านหยิบยกเรื่องนี้มาอภิปราย เพื่อจุดประสงค์โจมตีกองทัพ ก็ถือว่าฝ่ายค้านคิดผิด และประชาชนมองออกว่า การอภิปรายนั้นทำเพื่อประเทศ เพื่อประชาชน หรือทำไปเพื่อความสะใจ

ทั้งนี้ ร่างพ.ร.บ.ประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 จำนวน 3.2 ล้านล้านบาท  คณะกรรมาธิการฯ (กมธ.)วิสามัญ พิจารณาเสร็จเรียบร้อยแล้วในวาระ2-3  โดยมี กมธ. สงวนความเห็น 25คน และมีส.ส.สงวนความเห็น 146คน โดยหน่วยงานที่ถูกกมธ.ปรับลดงบประมาณรายจ่ายปี2563 มากที่สุด 3อันดับแรกได้แก่ 1.กระทรวงกลาโหม ถูกตัดลดงบประมาณ1,518,272,500บาท จาก125,918,522,500บาท เหลือ 124,400,250,000บาท
2.กระทรวงสาธารณสุข ถูกตัดงบประมาณ 1,318,310,800บาท จาก28,049,048,300บาท เหลือ26,730,737, 500 3.กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ถูกตัดลดงบประมาณ1,147,479,100บาท จาก49,037, 823,700บาท เหลือ47,890,344,600บาท

ขณะที่กมธ.ตั้งข้อสังเกตการใช้งบประมาณรายจ่ายของกระทรวงกลาโหมว่า ควรให้ความสำคัญกับกำลังพลในเชิงคุณภาพมากกว่าปริมาณ โดยควรใช้วิธีรับสมัครแทนการเกณฑ์ทหาร เพื่อให้คัดเลือกบุคคลที่มีความสามารถ มีคุณภาพสอดคล้องกับความต้องการกำลังพล