‘ไชยันต์’วิพากษ์ ‘ธนาธร’พ้นส.ส.-ถูกตัดสิทธิ ‘อนาคตใหม่’ยุ่งแน่

25 ต.ค. 2562 | 03:35 น.
อัปเดตล่าสุด :25 ต.ค. 2562 | 10:39 น.

 

ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร อาจารย์ประจำภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้สัมภาษณ์พิเศษวิเคราะห์ถึงสถานการณ์ของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ..บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่กำลังเผชิญอยู่ พร้อมวิพากษ์ยุทธศาสตร์และการขับเคลื่อนนโยบายของพรรคอนาคตใหม่ รวมถึงอนาคตของพรรคในขณะนี้

เราคงจะทราบกันดีว่าก่อนหน้านี้นายปิยบุตร แสงกนกกุล ..และเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ในปัจจุบัน เป็นนักวิชาการหนึ่งในคณะนิติราษฎร์ที่เคลื่อนไหวทางการเมือง ขณะที่นายธนาธร หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ในปัจจุบันนั้น มีสื่อที่ชื่อฟ้าเดียวกันเหล่านี้เป็นกิจกรรมทางการเมืองตอนที่ยังไม่ได้เข้าสู่เส้นทางทางการเมือง

มองว่า การตั้งพรรคการ เมืองและต่อสู้กันในรัฐสภาโดยขอเสียงจากประชาชนนั้น ถือเป็นเรื่องดีสำหรับการเมืองไทย ดีกว่าที่เขาจะไปขับเคลื่อนทางความคิด หลบอยู่ทางใต้ดิน หรือหลบอยู่ตามที่ประชุมสัมมนาที่เกิดขึ้นตามที่ต่างๆ หรือการเคลื่อนไหวอยู่ในโซเชียลมีเดีย

การเปิดตัวชัดเจนเป็นเรื่องที่ดี หมายความว่า เขาจะต่อสู้ตามวิถีทางของรัฐสภาซึ่งต้องได้รับการยอมรับจากประชาชน หลังการเลือกตั้งได้มา 70-80 ที่นั่ง ถือว่าเยอะมากสำหรับพรรคเกิดใหม่ แต่การขับเคลื่อนนโยบายคงทำไม่ได้อย่างที่ประกาศไว้ เนื่องจากเป็นพรรคฝ่ายค้าน สิ่งที่ทำได้ คือ การตั้งกระทู้ตรวจสอบนโยบายของฝั่งรัฐบาลที่ไม่เห็นด้วยหรือไม่แน่ใจ

นโยบายของพรรค อนาคตใหม่ที่ใช้หาเสียง เป็นนโยบายที่โดนใจกลุ่มคนไม่ใช่เฉพาะคนรุ่นใหม่ที่เลือก ยังมีกลุ่มคนช่วงวัยต่างๆ ด้วย ที่เป็นเช่นนี้อาจเป็นเพราะคนเบื่อพรรคเก่าๆ รวมถึงการชูประเด็นเรื่องการปฏิเสธเผด็จการและต่อต้านการสืบทอดอำนาจ

ถ้าพรรคพลังประชารัฐไม่เกิด หมายถึง ไม่มีตัวตน และถ้าพล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ยอมรับที่จะเป็นแคนดิเดตของพรรคพลังประชารัฐ ผมคิดว่า พรรคอนาคตใหม่ก็คงไม่ได้เสียงเยอะเท่านี้ มันมีเงื่อนไขที่ทำให้คนเห็นว่า มีลักษณะของการสืบทอดอำนาจและมีการออกแบบรัฐธรรมนูญมาเพื่อให้มีพรรคพลังประชารัฐมันก็เลยเข้าทาง

 

‘ไชยันต์’วิพากษ์  ‘ธนาธร’พ้นส.ส.-ถูกตัดสิทธิ  ‘อนาคตใหม่’ยุ่งแน่

ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร                                                ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ


 

 

นโยบายหลักที่พรรคอนาคตใหม่ใช้หาเสียงซึ่งมักชูเรื่องการลดความเหลื่อมลํ้า เรื่องการลดขนาดหรือปฏิรูปกองทัพ และเน้นเรื่องความเสมอภาค ซึ่งคำว่า เสรีภาพ เสมอภาค ลดเหลื่อมลํ้า เป็นนโยบายที่หากินได้ตลอดโดยเฉพาะกับคนรุ่นใหม่ที่มักจะโหยหิวเสรีภาพ เด็กรุ่นใหม่รู้สึกว่า ไม่ต้องการถูกปฏิบัติเหมือนกับคนที่ตํ่ากว่าหรืออ่อนกว่า เป็นวาทกรรมที่ขายได้ในยามที่มีปัญหา หรือมีวิกฤติทาง การเมืองจะขายได้เสมอ

ส่วนนโยบายที่เป็นรูปธรรมที่จับต้อง เช่น การลดขนาดกองทัพ เลิกระบบเกณฑ์ทหาร ให้เป็นความสมัครใจนั้น จากการติดตามข่าวทั้งพล..ประยุทธ์ในฐานะนายกฯและทางกองทัพ  บอกว่า จะรับเอาแนวคิดนี้ไปศึกษาซึ่งการจะค่อยๆ ลดการเกณฑ์ทหาร เพิ่มการสมัครใจต้องใช้เงินมหาศาล หมายความว่า ต้องมีสวัสดิการเหมือนในต่างประเทศ ถามว่า ถ้าประเทศจะใช้งบประมาณมากขนาดนั้นจะยอมหรือ บอกว่า จะไปตัดงบซื้ออาวุธเพื่อนำมาใส่ตรงนี้มันก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น

ดังนั้น นโยบายที่จับต้องได้และน่าสนใจของพรรคอนาคตใหม่ก็มี นโยบายที่เป็นนามธรรมแบบโดนใจคนรุ่นใหม่และคนรุ่นเก่าที่ไม่มีความสุขกับสภาพการณ์ขณะนี้จะหากินด้วยนโยบายนามธรรมแบบนี้ไปนานๆ มันทำไม่ได้ หากินได้ในช่วงที่มีวิกฤติเท่านั้น เพราะนโยบายมันต้องกินได้ ต้องจับต้องได้.ดร.ไชยันต์ ระบุ

กรณีของคุณธนาธร ซึ่งก็มีอีกหลายคดีที่จะติดตามมาต้องดูกันต่อไป เช่น กรณีให้พรรคกู้เงิน โดยส่วนตัวเห็นว่า เมื่อมากู้เงินไปแล้ว นายธนาธรก็คิดว่า เป็นธุรกิจหรือกิจการก็ต้อง พยายามทำให้เต็มที่ เป็นทั้งเจ้าหนี้และเป็นหัวหน้าพรรค เห็นความจำเป็นที่ต้องใช้เงินอย่างโปร่งใส การที่พรรคกู้เงินจากหัวหน้าพรรค ฟังดูแล้วเหมือนกับว่า ลูกพรรคต้องอยู่ภายใต้อิทธิพลของหัวหน้าพรรค ซึ่งในแง่นี้ยังดีกว่าพรรคอื่นๆ ที่ไม่ได้กู้อะไรเลยแต่หัวหน้าพรรคเป็นนายทุน เป็นกระเป๋า แล้วจ่ายเงินให้ลูกพรรคไปหาเสียง ลูกพรรคก็เหมือนสาวก ไม่มีความเป็นอิสระ

หากถูกตัดสิทธิทางการเมืองจะยังเป็นหัวหน้าพรรคได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ก็จะยุ่ง เกิดปัญหาพอสมควร แต่พรรคอนาคตใหม่ก็ยังต้องเดินต่อไป ดีไม่ดีจะมีคนสนับสนุนเห็นใจอีกเยอะ

ที่กล่าวเช่นนี้ ไม่ได้ต้องการบอกว่า ศาลจะต้องไม่ตัดสินลงโทษ ก็เป็นไปตามเนื้อหา แต่ว่าเมื่อตัดสินไปแล้วคุณธนาธรหมดสภาพความเป็นส..ก็จะมีคนที่เห็นอกเห็นใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ความยุติธรรมก็อย่างหนึ่ง ผลทางการเมืองที่จะตามมาก็เป็นเช่นนั้น ไม่ใช่ว่าศาลจะตัดสินโดยดูผลทางการเมืองว่า ผลพวงทางการเมืองจะออกมาดี ไม่ดี ไปตัดสิทธิเขาแล้ว ทำให้พรรคเขาโตขึ้นมาอีกก็เลยไม่ตัดซึ่งไม่ใช่ คิดว่าอย่างไรพรรค อนาคตใหม่ก็ต้องเดินหน้าไป

 

ส่วนกรณีที่เมื่อเร็วๆ นี้ บิ๊กแดง-พล..อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวบรรยายพิเศษได้อ้างอิงถึงคนในพรรคอนาคตใหม่จะทำให้สถานการณ์รุนแรงขึ้นหรือไม่ว่า ถ้าเป็นแค่เรื่องของวาทกรรมไม่มีใครทำอะไรทางการกระทำมากกว่าแค่การพูด เชื่อว่าก็คงจะเงียบหายไป ไม่ต่างกับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่เคยปะทะคารมผ่านสื่อกันมาแล้วซึ่งสุดท้ายก็เงียบไป

ทั้งนี้ .ดร.ไชยันต์ ได้หยิบยกความกังวลของ .ธีรยุทธ บุญมี นักวิชาการอิสระที่มีต่อการเมืองไทยในขณะนี้ กำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่เรียกว่าความเมืองโดยอธิบายว่าการ เมืองในความหมายพื้นๆ คือ การเมืองแบบที่ไม่มีมิตรแม้ ไม่มีศัตรูถาวร เมื่อเลือกตั้งแล้วถึงเวลาก็จับมือกันได้ ทิ้งกันได้เพื่อผลประโยชน์ สลับสับเปลี่ยนกันเช่นนี้ นี่คือการเมืองปกติเป็นเรื่องของการต่อรองกัน

แต่การเมืองอีกความหมายหนึ่งที่ .ธีรยุทธ บอกนั้น เป็นการเมืองที่เรียกว่า มีมิตรแท้และศัตรูถาวรแม้จะเป็นเพื่อนกันอย่าคุยกัน 2 เรื่อง คือ ศาสนา และการเมือง เพราะคุยกันแล้วจะทะเลาะกัน กรณีของผบ.ทบ.กับกรณีของอนาคตใหม่ที่ถูกอ้างถึงนั้น เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นจุดยืนของกองทัพที่ประกาศแล้วว่ายอมไม่ได้

สำหรับเรื่องอื่น ไม่มีมิตรแท้ ไม่มีศัตรูถาวรได้ แต่เรื่องนี้คนจำนวนหนึ่งในประเทศ ไทย บอกว่า ยอมไม่ได้ ต่อให้เป็นคนดี เป็นเพื่อนที่ดีแค่ไหน ถ้าคุณไม่ยอมรับในสิ่งที่ผมเทิดทูน คุณก็เป็นศัตรูกับผม อีกฝั่งหนึ่งก็เหมือนกันต่อให้เป็นคนดีแค่ไหน บอกว่า ผมจะปกป้องสถาบัน เขาก็จะบอกว่า เราก็ไม่ใช่คนดี ผมในฐานะนักวิชาการฟังทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งจากคนที่เชียร์ พล..อภิรัชต์ ซึ่งหลังจากที่ท่านออกมา พูดกันเยอะมาก บอกว่าท่านพูดดี อีกฝั่งหนึ่งบอกว่า พูดอย่างนี้ได้ไง เป็นข้าราชการ เป็นทหารคุมอาวุธอยู่แล้วมาชี้เป้าไปที่กลุ่มการเมือง

แม้ว่าวันรุ่งขึ้น .ปิยบุตร จะมาพูดซึ่งก็ไม่ได้พูดประเด็นเหมือนสมัยที่เป็นนักวิชาการ บอกว่าควรจะเป็นแผ่นดินของเราในมุมมองประชาธิปไตย แต่จากประวัติของอ.ปิยบุตร มันก็ลบไม่ได้ในการรับรู้ของคนที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งอีกกลุ่มที่บอกว่า ไม่เอาสถาบัน พวกนี้ก็มีวิธีคิดแบบเบ็ดเสร็จเหมือนกัน ต่างฝ่ายต่างพยายามนำเสนอวิธีคิดแบบเบ็ด เสร็จ ถามว่าแบบนี้จะรุนแรงมั้ยถ้ามีการกระทำออกมามันก็ต้องรุนแรง ถามว่าแล้วใครได้เปรียบ ฝ่ายที่กุมกำลังย่อมได้เปรียบซึ่งมันก็ไม่ดี ดังนั้นเมื่อนำประเด็นนี้ขึ้นมาก็คุยกันไม่ค่อยรู้เรื่อง.ดร.ไชยันต์ กล่าวทิ้งท้าย

 

สัมภาษณ์พิเศษ 

หน้า 14 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,516 วันที่ 24-26 ตุลาคม 2562

‘ไชยันต์’วิพากษ์  ‘ธนาธร’พ้นส.ส.-ถูกตัดสิทธิ  ‘อนาคตใหม่’ยุ่งแน่