81 กฎหมาย รอรัฐบาล ‘ตีตก-ไปต่อ’

ทันทีที่สิ้นเสียงการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา “เรือเหล็กลำใหญ่” ภายใต้การกุมบังเหียนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้เวลาขับเคลื่อน 12 นโยบายหลักและ 12 นโยบายเร่งด่วน ซึ่งนอกจากจะผลักดันกฎหมายของพรรคร่วมรัฐบาลที่ได้ไปหาเสียงเอาไว้แล้ว ยังมีร่างกฎหมายสำคัญๆ อีก 81 ฉบับที่รอการพิจารณาของรัฐบาลใหม่

จากการตรวจสอบของ “ฐานเศรษฐกิจ” พบว่า ปัจจุบันมีร่างกฎหมายสำคัญที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกามากถึง 61 ฉบับ อาทิ 1.ร่างพ.ร.บ.ทรัสต์เพื่อการจัดการทรัพย์สินส่วนบุคคล 2.ร่างพ.ร.บ.การกำกับดูแลผู้ให้บริการทางการเงิน 3.ร่างพ.ร.บ.ภาษีการได้รับประโยชน์จากการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของรัฐ 4.ร่างพ.ร.บ.ประกันชีวิต 5.ร่างพ.ร.บ.ประกันวินาศภัย

6.ร่างพ.ร.บ.ยุบเลิกบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย 7.ร่างพ.ร.บ.ประกันภัยทางทะเล 8.ร่างพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิต 9.ร่างพ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต 10.ร่างพ.ร.บ. มาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 11.ร่างพ.ร.บ.บริษัทมหาชนจำกัด 12.ร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ 13.ร่างพ.ร.บ.การอาชีวศึกษา 14.ร่างพ.ร.บ.อาหาร

ทั้งนี้ กระบวนการหลังจากมีรัฐบาลใหม่แล้ว คณะกรรมการกฤษฎีกาจะทำหนังสือไปยังหน่วยงานผู้เสนอร่างกฎหมาย เพื่อยืนยันกฎหมายที่ค้างการพิจารณาอยู่ หากหน่วยงานยังยืนยันตามที่ได้เสนอ คณะกรรมการกฤษฎีกาจึงจะเสนอให้ครม.ชุดใหม่ได้พิจารณา หากเห็นชอบจะส่งให้ “สภาผู้แทนราษฎร” และ “วุฒิสภา” ได้พิจารณาต่อไป

ก.ม.ค้างจากสนช. 20 ฉบับ

ในขณะที่ “สภาสูง” ซึ่งมีหน้าที่พิจารณากลั่นกรองกฎหมายโดยตรงนั้น จากข้อมูลบนเว็บไซต์ของรัฐสภา ณ วันที่ 3 มิถุนายน 2562 ระบุว่า ยังมีร่างกฎหมายที่ค้างอยู่ในกระบวนการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ทั้งสิ้น 20 ฉบับ แบ่งเป็น

1.กลุ่มกฎหมายที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาเสร็จแล้วแต่อยู่ระหว่างรอที่ประชุมพิจารณาในวาระที่ 2 และ 3 หรือ ค้างการพิจารณา จำนวน 2 ฉบับ คือ ร่างพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย และร่างพ.ร.บ.ข้าว

2.กลุ่มกฎหมายที่ กมธ.พิจารณาเสร็จแล้ว รอบรรจุเข้าระเบียบวาระ จำนวน 2 ฉบับ คือ ร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวม และร่างพ.ร.บ.การจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

3.กลุ่มกฎหมายอยู่ระหว่างการพิจารณาในวาระที่ 2 ในขั้นคณะกรรมาธิการ 4 ฉบับ คือ 1.ร่างพ.ร.บ.สถาบันภูมิราชธรรม 2.ร่างพ.ร.บ.ส่งเสริมมาตรฐานผู้ฝึกสอนกีฬาและผู้ตัดสินกีฬา 3.ร่างพ.ร.บ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด และร่างประมวลกฎหมายยาเสพติด และ4.ร่างพ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดียาเสพติด

4.กลุ่มกฎหมายรอบรรจุเข้าระเบียบวาระเพื่อพิจารณาในวาระที่ 1 จำนวน 6 ฉบับ คือ 1.ร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดลักษณะตัวแทนอำพราง (เสนอใหม่) 2.ร่างพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ 3.ร่างพ.ร.บ.ส่งเสริมการประกอบธุรกิจและการเข้าถึงบริการของประชาชนด้วยเทคโนโลยีทางการเงิน 4.ร่างพ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์

5.ร่างพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (การกำหนดฐานภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในอสังหาริมทรัพย์ตามมาตรา 49 ทวิ) และ 6.ร่างพ.ร.บ. กีฬามวย โดย ครม.เห็นควรให้ชะลอการพิจารณาเพื่อรอร่าง ของ ครม.เพื่อพิจารณาไปใน คราวเดียวกัน

5.กลุ่มกฎหมายที่ประธานวินิจฉัยแล้วว่า ไม่เป็นร่างพ.ร.บ. เกี่ยวด้วยการเงินอยู่ระหว่างรอการพิจารณาของคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ 3 ฉบับ คือ 1.ร่างพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจบัตรเครดิต 2.ร่างพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎ หมายอาญา และ 3.ร่างพ.ร.บ. อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงฯ

และ 6.กลุ่มกฎหมายที่ประธาน/ที่ประชุมร่วมกัน วินิจฉัยแล้วว่า เป็นร่างพ.ร.บ.เกี่ยวด้วยการเงินซึ่งดำเนินการส่งร่างให้นายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณารับ รอง 3 ฉบับ คือ 1.ร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยผลงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมแห่งชาติ 2.ร่างพ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัย จากรถ และ 3.ร่างพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธี พิจารณาความอาญา

กฎหมายร้อนรอการพิจารณา

สำหรับหลักการสำคัญของร่างกฎหมายที่น่าสนใจ อาทิ ร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวม สาระสำคัญ คือ กำหนดห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐรับของขวัญ ของที่ระลึก เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นอันอาจคำนวณเป็นเงินได้ในการที่เจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติงานตามตำแหน่งหน้าที่ของตนหรือตามที่ได้รับมอบหมายและกำหนดห้ามคู่สมรสและญาติของเจ้าหน้าที่ของรัฐด้วย กำหนดให้เจ้าหน้าที่ของรัฐต้องแสดงข้อมูลและรายได้จากการดำรงตำแหน่งการประกอบอาชีพ วิชาชีพ หรือกิจกรรมอื่นต่อคณะกรรมการป.ป.ช. เป็นต้น

ร่างพ.ร.บ.ข้าว โดยสาระสำคัญ คือ กำหนดให้หน่วยงานรัฐควบคุมดูแลการผลิตและการค้าข้าวในระดับที่เข้มข้นโดยให้กรมการข้าวมีอำนาจตรวจสอบ ควบคุม ออกใบรับรองและลงโทษ ผู้ที่เกี่ยวข้องในการผลิตและการค้าข้าวทั้งชาวนา โรงสี ผู้รับซื้อข้าวเปลือก และเมล็ดพันธุ์ข้าว ผู้รวบรวมพันธุ์ข้าว

ร่างพ.ร.บ.ส่งเสริมการประกอบธุรกิจและการเข้าถึงบริการของประชาชนด้วยเทคโนโลยีทางการเงิน สาระสำคัญเป็นการกำหนดให้การทำธุรกรรมบางประเภทในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือดำเนินการด้วยวิธีการและเทคโนโลยีอื่นใด ให้ถือว่า ชอบด้วยกฎหมายและห้ามไม่ให้ปฏิเสธการรับฟังข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์เป็นพยานหลักฐานในกระบวนการพิจารณาของศาลทั้งในคดีแพ่งและคดีอาญา 

รายงาน โดย ทีมข่าวการเมือง

หน้า 14 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3492 ระหว่างวันที่ 1 - 3 สิงหาคม 2562