"ปิยบุตร"ยัน"ธนาธร"ไม่คิดหนีมั่นใจไร้มลทินถือหุ้นสื่อ

"ปิยบุตร"ยัน“ธนาธร”ไม่คิดหนี มั่นใจไร้มลทินถือหุ้นสื่อ

“ปิยบุตร”มั่นใจ “ธนาธร”ไร้มลทินปมถือหุ้นสื่อ มั่นใจหลักฐานแน่น ยัน"หัวหน้าพรรค"ไม่คิดหนี

          วันนี้ (8 กรกฎาคม 2562) นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ แถลงถึงความคืบหน้าคดีการถือหุ้นสื่อของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ว่า สัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวลือว่านายธนาธร เดินทางไปต่างประเทศแล้วจะไม่กลับมานั้น ขอชี้แจงว่า เป็นการเดินทางไปพักผ่อนกับครอบครัว รวมถึงไปปฏิบัติหน้าที่เพราะมีกำหนดการพบปะนักการเมืองและเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายประเทศในยุโรปและอีกหลายองค์กร รวมไปถึงจะมีการเข้าร่วมงานเสวนาและอีกหลายภารกิจ

 “ผมยืนยันว่า นายธนาธร ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องหลบหนีคดีเพราะยังมีภารกิจใหญ่รออยู่ คือ ความต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้ดีขึ้นในอนาคต”

ส่วนเรื่องการต่อสู้คดี ทีมกฎหมายของพรรคอนาคตใหม่ได้เดินทางไปยื่นเอกสารต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อชี้แจงแล้วซึ่งมีเอกสารชี้แจงกว่า 70 หน้ากระดาษและเอกสารประกอบคำชี้แจงอีกกว่า 200 หน้าโดยทางพรรคได้ขอให้ศาลฯนัดไต่สวนพยานเพิ่มและขอให้พิจารณาแบบเปิดเผย รวมไปถึงขอให้ยกเลิกคำสั่งยุติการปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ของนายธนาธรด้วย

นายปิยบุตร ได้ยกตัวอย่างกรณีของ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศที่ศาลรัฐธรรมนูญใช้เวลาพิจารณาคดีถึง 417 วันแต่ในส่วนของ นายธนาธร ใช้เวลาทั้งหมดเพียง 53 วันเท่านั้น หากเปรียบเทียบกับกรณีนี้ เป็นไปไม่ได้ว่า คดีของนายธนาธรจะจบเร็วจึงขอเรียกร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญใช้มาตรฐานเดียวกัน

“ผมยืนยันจะต่อสู้ทุกประเด็นและย้ำว่า กกต.ไม่มีหน้าที่พิจารณาในส่วนของคดีนี้รวมถึงกระบวนการพิจารณาของ กกต.ก็ไม่ถูกต้องเพราะไม่เคารพการฟังความของทุกฝ่ายและไม่เปิดโอกาสให้เข้าไปชี้แจงเพียงพอทั้งที่มีผู้ถูกร้องไปเป็น 100 กว่าคนแต่มีเพียงนายธนาธรคนเดียวที่ถูกดำเนินคดี”

นายปิยบุตร ยังย้ำด้วยว่า นายธนาธรไม่มีหุ้นมาตั้งแต่แรกแล้ว มีเอกสารยืนยันการโอนหุ้นที่ส่งให้ไปยังศาลรัฐธรรมนูญและถึงแม้จะมีการถือหุ้น แต่บริษัท วี-ลัค มีเดีย ก็ไม่ได้ทำสื่อแล้ว เพราะตามสัญญาบริษัททำหน้าที่เพียงรับจ้างการผลิตจากบริษัท นกแอร์ และเนื้อหาทั้งหมด บริษัท วีลัคฯ ทำหน้าที่แค่พิมพ์ตามคำสั่งเท่านั้น และนิตยสารฉบับสุดท้ายที่ผลิต คือ ปลายปี 2561 ที่ผ่านมา บริษัท วีลัคฯ ยกเลิกการจ้างพนักงานไปกว่า 140 ชีวิตซึ่งเป็นการแสดงว่า บริษัทเตรียมยกเลิกกิจการ หลักฐานมีชัดเจนจากการแจ้งไปที่ประกันสังคมว่า จะเลิกกิจการตั้งแต่สิ้นเดือนมกราคม 2562 ด้วย

ดังนั้น มั่นใจว่า คดีนี้ข้อเท็จจริงชัดไม่มีความผิดอย่างแน่นอน ขอเรียกร้องให้ใช้มาตราฐานเดียวกัน ตามหลักการพิจารณาความอย่างถูกต้อง ส่วนทางด้านนายธนาธรเท่าที่ได้คุยกันก็ไม่ได้มีความกังวลใจอะไรในเรื่องนี้