เพิ่ม thansettakij
ลงในหน้าจอหลักของคุณ
“ผู้นำอาเซียน” ขอ “สมัชชารัฐสภา” หนุนอาเซียนอย่างเป็นรูปธรรม ฝาก เยาวชนเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงอย่างสร้างสรรค์ รับผิดชอบต่อสังคม แนะ ASEAN-BAC พร้อมรับมือการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4
วันนี้ (22 มิ.ย.2562) เวลา 15.30 น. ณ ห้องพิมานสยาม ฮอลล์ ชั้น 29 โรงแรมดิ แอทธินี โฮเทล กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ ผู้นำอาเซียน หารือกับภาคส่วนต่างๆของอาเซียน ได้แก่ สมัชชารัฐสภาอาเซียน (ASEAN Inter-Parliamentary Assembly: AIPA) ผู้แทนเยาวชนอาเซียน (ASEAN Youth) และสภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียน (ASEAN Business Advisory Council: ASEAN-BAC) ระหว่างการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 34
พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญของการหารือกับสมัชชารัฐสภาอาเซียน (AIPA) ว่า ต่างเห็นพ้องกันว่า บทบาทของฝ่ายนิติบัญญัติจะช่วยผลักดันอาเซียนให้มีผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม โดยนายกฯได้เสนอ 3 แนวทางหลัก คือ 1.การสื่อสารให้ประชาชนในแต่ละพื้นที่เกิดความตระหนักรู้และร่วมเป็นพันธมิตรในการผลักดันข้อริเริ่มต่างๆให้เกิดผลอย่างยั่งยืน 2. การสนับสนุนและเร่งรัดการดำเนินการตามกระบวนการนิติบัญญัติเพื่อให้ความตกลงต่างๆของอาเซียน มีผลบังคับใช้ได้โดยเร็ว 3.ส่งเสริมความร่วมมือและสร้างความสอดคล้องกันด้านกฎหมายของประเทศสมาชิกอาเซียน เพื่อสนับสนุนการบูรณาการในภูมิภาคให้ใกล้ชิดมากขึ้น
ทั้งนี้ นายกฯพร้อมสนับสนุน AIPA ให้มีปฏิสัมพันธ์กับผู้นำอาเซียนอย่างต่อเนื่องเพื่อส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนในภูมิภาคต่อไป
ส่วนการหารือกับ ผู้แทนเยาวชนอาเซียน (ASEAN Youth) เยาวชนอาเซียน ได้เสนอความคิดเห็น 3 ประเด็น ดังนี้ การเสริมสร้างโอกาสทางการศึกษา การส่งเสริมสภาพแวดล้อม และการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจอย่างรอบด้าน
นายกฯ ย้ำว่า ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากเยาวชนมีความสำคัญต่อการกำหนดนโยบายเพื่อพัฒนาประเทศและประชาคมอาเซียนอย่างมากโดยหวังว่า เยาวชนอาเซียนจะเป็นผู้นำแห่งการเปลี่ยนแปลงที่สร้างสรรค์และรับผิดชอบต่อสังคม นายกฯได้เสนอแนวทางในการพัฒนาบทบาทของเยาวชนอาเซียนที่สอดคล้องกับแนวคิด “ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน”ได้แก่
“ร่วมมือ ร่วมใจ” ในการสร้างประชาคมอาเซียนที่ครอบคลุม แบ่งปัน เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
“ก้าวไกล”โดยเตรียมพร้อมและมีทักษะที่รอบด้าน
“ยั่งยืน” ต้องมีความเข้มแข็งสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วเพื่อขับเคลื่อนประชาคมอาเซียนให้มีการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างแท้จริงในทุกมิติได้ในอนาคต
จากนั้นได้หารือกับ ผู้แทนสภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียน (ASEAN-BAC) โดยนายกฯ เสนอแนะให้ทุกฝ่ายตระหนักถึงการเตรียมความพร้อมรับมือกับการปฏิวัติอุตสาหกรรม ครั้งที่ 4 (4 IR) ที่จะเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายในหลายรูปแบบ อาเซียนจึงควรมีแนวทางการดำเนินงานที่ช่วยให้ทุกภาคส่วนสามารถปรับตัวและได้รับประโยชน์ได้โดยเร็ว ส่งเสริมการอำนายความสะดวกทางการค้าเพื่อเชื่อมโยงในอาเซียนทั้งทางกายภาพและทางดิจิทัล
รวมทั้งผลักดันทุกระดับเพื่อสรุปผลการเจรจา RCEP ให้บรรลุโดยเร็ว ซึ่งจะช่วยขยายโอกาสทางการค้า การลงทุน ยกระดับความสามารถในการแข่งขันให้กับอาเซียน และเพิ่มบทบาทของอาเซียนในเวทีโลกได้อย่างมาก นายกฯได้ย้ำความสำคัญของความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างภาครัฐและเอกชนที่เป็นกลไกสำคัญในการสนับสนุนการขับเคลื่อนประชาคมอาเซียนให้บรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมาย