KEY
POINTS
วันที่ 25 ธันวาคม 2568 ถูกจับตาว่าอาจกลายเป็นอีกหนึ่ง “หมุดหมายสำคัญ” ของสมรภูมิการเมืองไทย เมื่อสองเหตุการณ์ใหญ่ของ พรรคประชาชน (ปชน.) อาจเกิดขึ้นในวันเดียวกัน ทั้งเกมนโยบาย และ เกมกฎหมาย ที่มีผลต่ออนาคตของพรรคโดยตรง
ด้านหนึ่ง พรรคประชาชน เตรียมเปิดตัวนโยบายหลักอย่างเป็นทางการ หลังจากก่อนหน้านี้ได้เปิดตัว แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีครบ 3 คน ได้แก่
1.ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค
2.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคฝ่ายเศรษฐกิจ
3.วีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร ผู้อยู่เบื้องหลังการออกแบบนโยบายพรรค และหนึ่งในกลุ่ม “เพื่อนเอก”
ขณะที่อีกด้านหนึ่ง วันที่ 25 ธันวาคม 2568 ถูกคาดหมายว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อาจมีมติในคดีสำคัญทางการเมือง คือ คดีกล่าวหา 44 อดีต สส.พรรคก้าวไกล กรณีร่วมกันลงชื่อเสนอร่างแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยถูกกล่าวหาว่า ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง
วางหมากรัฐบาลพรรคเดียว
ก่อนถึงวันชี้ชะตา พรรคประชาชนได้ส่งสัญญาณเชิงยุทธศาสตร์ทางการเมืองอย่างชัดเจน เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2568 ด้วยการเปิดตัว “ว่าที่รองนายกรัฐมนตรี” หากพรรคชนะเลือกตั้งและจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว ได้สำเร็จ จำนวน 4 คน ได้แก่
1.พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ดูแลประชาธิปไตยและความมั่นคงใหม่
2.เดชรัต สุขกำเนิด ดูแลคุณภาพชีวิตใหม่
3.วีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร ดูแลเศรษฐกิจใหม่
4.ศิริกัญญา ตันสกุล ดูแลการปฏิรูปรัฐและระบบราชการ
ทั้งหมดถูกขับเคลื่อนภายใต้แคมเปญ “3 ไทย” คือ “ไทยไม่เทา -ไทยเท่ากัน - ไทยทันโลก”
ย้อนรอยคดี 44 สส.
สำหรับร่างกฎหมายแก้ ม.112 ดำเนินการยื่นเมื่อปี 2564 ในยุค พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกล และ ชัยธวัช ตุลาธน เป็นเลขาธิการพรรค พร้อมด้วย สส. รวม 44 คน
คดี 44 สส. เป็นคดีที่ ป.ป.ช.ไต่สวนต่อเนื่องเกือบ 1 ปี ภายหลัง “ศาลรัฐธรรมนูญ” มีคำวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2567 จากการใช้นโยบายแก้ไข ม.112 เข้าข่ายการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองฯ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49
การยุบพรรคดังกล่าว ส่งผลให้ สส.จำนวนมาก ย้ายพรรคมาสู่บ้านใหม่หลังที่ 3 คือ พรรคประชาชน ในปัจจุบัน
แหล่งข่าวระบุว่า การไต่สวนของ ป.ป.ช.ได้ แบ่งพฤติการณ์ออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มต้นคิดเสนอร่าง กลุ่มแกนนำที่ชักชวน สส.ลงชื่อ และ กลุ่ม สส.ที่ร่วมลงชื่อเสนอร่าง ทั้งหมดถูกกล่าวหาว่า ใช้อำนาจหน้าที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียและกระทบเกียรติภูมิของตำแหน่ง ตามมาตรฐานจริยธรรมฯ
25 อดีตสส.ปชน.ติดค้างคดี
จาก 44 สส.เดิม ปรากฏว่า มีอดีต สส.ที่ย้ายมาสังกัดพรรคประชาชน รวม 25 คน แบ่งเป็น
สส.บัญชีรายชื่อ 17 คน ส่วนใหญ่เป็นแกนนำพรรค ประกอบด้วย 1.ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค 2.ศิริกัญญา ตันสกุล 3.สุรวาท ทองบุ 4.นิติพล ผิวเหมาะ 5.ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล 6.รังสิมันต์ โรม 7.วาโย อัศวรุ่งเรือง
8.วรรณวิภา ไม้สน 9.วิโรจน์ ลักขณาอดิศร 10.สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ 11.ประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ 12.ณัฐวุฒิ บัวประทุม 13.วรภพ วิริยะโรจน์ 14.คำพอง เทพาคำ 15.ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ 16.องค์การ ชัยบุตร 17. มานพ คีรีภูวดล
สส.เขต 8 คน ได้แก่ 18.วุฒินันท์ บุญชู สส.สมุทรปราการ เขต 4, 19.เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สส.กทม.เขต 24, 20.ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม. เขต 27, 21.ศักดินัย นุ่มหนู สส.ตราด เขต 1
22.จรัส คุ้มไข่น้ำ สส.ชลบุรี เขต 8, 23.ธีรัจชัย พันธุมาศ สส.กทม. เขต 18, 24.ญาณธิชา บัวเผื่อน สส.จันทบุรี เขต 3 และ 25.จิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา เขต 4
ในจำนวนนี้ มีแกนนำระดับหัวแถวของพรรคหลายคน รวมถึง หัวหน้าพรรค และ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
อย่างไรก็ตาม ด้วยสถานการณ์การ “ยุบสภา” ทำให้ สส.ทั้งหมดพ้นจากตำแหน่งแล้ว ส่งผลให้ แม้ศาลฎีกาจะประทับรับฟ้อง ก็ไม่กระทบสิทธิในการสมัครรับเลือกตั้ง หรือ การถูกเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ เนื่องจากคดียังไม่ถึงที่สุด
โจทย์หินหากคำตัดสินเป็นลบ
แหล่งข่าวการเมืองระบุว่า พรรคประชาชนประเมินฉากทัศน์คดีนี้ล่วงหน้าแล้ว จึงมีการปรับโครงสร้างผู้สมัคร โดย โยกอดีต สส.เขตที่มีคดี ขึ้นบัญชีปาร์ตี้ลิสต์ เช่น ณัฐชา อดีต สส.กทม. “ไอซ์” รักชนก ศรีนอก อดีต สส.กทม. “โตโต้” ปิยรัฐ จงเทพ อดีต สส.กทม. “ลูกเกด” ชลธิชา แจ้งเร็ว อดีต สส.ปทุมธานี
หรือเดินเกม เปลี่ยนตัวผู้สมัครเขตในบางพื้นที่ , ใช้ “เครือญาติ-คนในครอบครัว” ลงสมัครแทนในบางกรณี เช่น กรณี “จิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์” อดีต สส.ฉะเชิงเทรา เขต 4 ถูกศาลสั่งจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา คดีใบ สด.43 ปลอม ได้ส่ง “แพรวนภัศร์ ทองสุวรรณ์” ภริยา ลงสมัคร สส.แทน
สะท้อนความพยายาม ลดแรงกระแทกจาก “นิติสงคราม” ให้มากที่สุด
อย่างไรก็ดี ฉากทัศน์ที่น่ากังวลที่สุด คือ หากในอนาคต อดีต สส. 14 คน ที่ตัดสินใจไปต่อกับพรรคประชาชน ถูกศาลมีคำพิพากษาในทางลบ จะส่งผลให้พรรคอาจเหลือ “แคนดิเดตนายกฯ” เพียงคนเดียว คือ วีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร
ขณะเดียวกัน แกนนำหลายคนอาจต้องพ้นทั้งตำแหน่ง สส.และตำแหน่งบริหารพรรค บังคับให้ “พรรคประชาชน” ต้องยกเครื่องโครงสร้างพรรคใหม่อีกครั้ง
25 ธ.ค.แค่จุดเริ่มต้นเกมยาว
ทั้งหมดนี้ทำให้วันที่ 25 ธันวาคม 2568 ไม่ใช่เป็นเพียงวันเปิดนโยบายของพรรคสีส้มเท่านั้น แต่ยังอาจเป็นจุดเริ่มต้นของเกม กฎหมายระลอกใหม่ ที่จะลากยาวไปจนถึงก่อนวันเลือกตั้ง
และไม่ว่ามติของ ป.ป.ช.จะออกมาในวันดังกล่าว หรือถูกเลื่อนไปเป็นในช่วงเดือนมกราคม สิ่งที่ชัดเจนคือ คดี 44 สส.ก้าวไกล ยังคงเป็น “ดาบแขวนคอ” การเมืองสีส้ม ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
คำถามสำคัญจึงไม่ใช่แค่ “ใครรอด ใครไม่รอด” แต่คือ พรรคประชาชนจะฝ่าด่านนิติสงคราม ไปถึงฝัน “รัฐบาลพรรคเดียว” ได้จริงหรือไม่?
รายงานพิเศษ โดย...ทีมข่าวการเมือง หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 4160 หน้า 12