“ธนาธร” ขอทำหน้าที่ ส.ส.นอกสภาฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการประชุมสภา เมื่อช่วงเช้าวันนี้  (25 พ.ค. 62)   เพื่อเสนอญัตติเลือกประธานสภาฯ ยังไม่สามารถถึงขั้นตอนของการเสนอรายชื่อได้ เนื่องจากเกิดการประท้วงของสมาชิก กรณีของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่    นายชัย ชิดชอบ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ทำหน้าที่ประธานสภาฯ ได้อ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ระบุ ให้นายธนาธร ยุติการทำหน้าที่ ส.ส.ชั่วคราว และไม่มีสิทธิ์ในการโหวตเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร  ก่อนจะเชิญออก นายธนาธร ออกจากที่ประชุม

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่   กล่าวว่า ตนได้กล่าวลาประธานสภาผู้แทนราษฎร และยุติบทบาทการทำหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของตนเองลง ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนกว่าที่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยเป็นอื่น   โดยการเป็นตัวแทนของประชาชนไม่จำเป็นต้องทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎรเพียงอย่างเดียว ซึ่งจะใช้เวลานี้ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของประชาชน เข้าไปพบปะพูดคุยกับประชาชนรับฟังปัญหา และนำปัญหานั้น มาให้ ส.ส.ของพรรคได้อภิปรายในสภา และจะศึกษาปัญหาทั่วประเทศ 

ทั้งยังสร้างเป็นแนวคิดและนโยบายของพรรคอนาคตใหม่ ให้ประชาชนได้เข้าใจถึงเจตนาที่ดีของพรรคอนาคตใหม่ และจะทำงานต่อไปอย่างไม่ท้อถอย ถึงแม้ว่าในวันนี้จะไม่ได้ทำงานในสภาผู้แทนราษฎรก็ตามแต่ตนก็จะไม่ไปไหน ตนจะรอวันนั้นสักวันจะกลับมา

"ผมไม่เสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต้องยอมรับว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีสิทธิ์และมีอำนาจในทางนิติบัญญัติ ในขณะเดียวกันก็มีข้อจำกัดเรื่องของพิธีกรรมต่าง ๆ มากมาย แต่ในช่วงนี้ที่ยังไม่มีอำนาจนิติบัญญัติ ก็จะมีการรณรงค์กับประชาชนต่อเนื่องให้เห็นถึงนโยบายเป้าหมายและอุดมการณ์ของพรรคอนาคตใหม่ โดยเฉพาะความไม่เป็นประชาธิปไตย และไม่เป็นธรรมของรัฐธรรมนูญปี 2560"

นายธนาธร กล่าวว่า คนคิดว่าการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้มีแนวโน้มที่ดีสิ่งที่ตนต้องการเน้นย้ำคือ 244 เสียงของ 7 พรรคประชาธิปไตยจะโหวต ไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งคงไม่ง่ายกับการคว่ำเสียงของ 7 พรรค

ส่วนการจัดตั้งรัฐบาลนั้นขอเป็นเรื่องทีละสมรภูมิ ยืนยันว่าตนเป็นหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ตนเชื่อมั่นว่าการเคลื่อนไหวผ่านรัฐสภาตามระบอบประชาธิปไตย เป็นทางที่ดีที่สุดเพื่อดึงศรัทธาของประชาธิปไตยกลับเข้ามาในรัฐสภา เพื่อไม่ให้เกิดการแทรกแซงของกองทัพ