"พปชร." ลุยหาเสียงเขตราชวัตร-ศรีย่าน ช่วย 'ธนิกานต์' เผย ประชาชนตอบรับดี ฝากกำลังใจให้ "บิ๊กตู่" สะท้อนคนต้องการความสงบ ยัน! ไม่เคยมองปมปัญหา ทษช. เป็นความได้เปรียบ
วันที่ 13 ก.พ. 2562 เวลา 07.30 น. ที่ตลาดราชวัตร นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ และนางสาววทันยา วงษ์โอภาสี หรือ มาดามเดียร์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่ช่วย นางสาวธนิกานต์ พรพงษาโรจน์ ผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพมหานคร เขตบางซื่อ-ดุสิต เบอร์ 4 พรรคพลังประชารัฐ หาเสียงย่านตลาดราชวัตร แนะนำตัวพร้อมเสนอนโยบายพัฒนาพื้นที่ต่อพ่อค้า-แม่ค้า และประชาชนที่มาจับจ่ายซื้อของภายใต้สโลแกน #ธนิกานต์เข้าถึงพึ่งได้ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ประชาชนตลอดจนพ่อค้าแม่ค้าให้การตอบรับเป็นอย่างดี
จากนั้นผู้สมัคร ส.ส. และทีมงาน ขึ้นรถเมล์ร้อนสาย 14 จากตลาดราชวัตรมายังตลาดศรีย่าน เดินพบปะพ่อค้าแม่ค้า ประชาชน และปิดท้ายด้วยการลงพื้นที่หาเสียงที่ชุมชนสีคาม
นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตลาดราชวัตรและตลาดศรีย่านได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี แม้พรรคเราจะเป็นพรรคใหม่ แต่ผู้สมัคร ส.ส. ก็ลงพื้นที่อย่างเข้มแข็ง เพื่อจะอาสามารับใช้พี่น้องประชาชน นอกจากนี้ บางส่วนยังฝากกำลังใจถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สะท้อนให้เห็นว่า คนอยากเห็นประเทศสงบ อย่างไรก็ตาม ในเวลาที่เหลือพรรคก็จะเร่งทำงานให้หนักขึ้น เดินตรอกซอกซอย เพื่อนำเสนอนโยบาย และแลกเปลี่ยนความเห็นกับประชาชน ซึ่งก็ได้สะท้อนมาหลายเรื่อง ทั้งเศรษฐกิจและสังคม ทั้งนี้ ยอมรับในพื้นที่บางซื่อ-ดุสิตเป็นพื้นที่ฐานเสียงเดิมของสองพรรคใหญ่ แต่เชื่อว่า วันนี้ คน กทม. ต้องการเปลี่ยนแปลง ก้าวไปข้างหน้า และก้าวข้ามความขัดแย้ง พรรคพลังประชารัฐจึงได้คัดสรรผู้สมัคร ส.ส. ที่มีความรู้ ความสามารถ เป็นคนรุ่นใหม่ ที่พรรคตั้งใจเสนอเป็นทางเลือกให้คน กทม. รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน
นายพุทธิพงษ์ ยืนยันว่า ไม่เคยมองการที่พรรคไทยรักษาชาติเกิดปัญหาเป็นความได้เป็นความได้เปรียบของพรรคพลังประชารัฐ เราไม่ซ้ำเติม หรือ โจมตีคู่แข่ง แต่ตั้งใจทำงานในส่วนของเรา เพราะถึงเวลาแล้วจะต้องเลิกทำการเมืองแบบใส่ร้าย หรือ โทษกันไปมา ดังนั้น พรรคไหนเป็นอย่างไรถือเป็นเรื่องของแต่ละพรรค แต่พรรคพลังประชารัฐจะทำงานเต็มที่ และทำการเมืองแบบใหม่อย่างที่ประชาชนอย่างเห็น
ขณะเดียวกัน เชื่อว่า หากคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. มีมติให้ยุบพรรคไทยรักษาชาติจะไม่เกิดความวุ่นวาย เพราะทุกอย่างเป็นไปตามกติกา และหากเรายึดมั่นในกระบวนการยุติธรรม ยึดกติกา และให้ความอิสระกับองค์กรอิสระ ผลจะออกมายังไงก็ต้องยอมรับ เพราะการกระทำเป็นเครื่องบอกเจตนา ซึ่งทางพรรคพลังประชารัฐเองก็ได้กำชับให้ผู้สมัครทำทุกอย่างในกรอบกติกา ดังนั้น หากใครทำผิดก็ต้องรับผิดชอบกันเอง
นางสาววทันยา กล่าวว่า ผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐในเขต กทม. ส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการเข้ามาเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ไม่อยากเห็นการเมืองสาดสี ป้ายสี ทุกคนอยากทำงาน สานต่อสิ่งใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้นในประเทศ เราล้วนมีความตั้งใจ ดังนั้น ถ้ามีโอกาสไปทำงานในสภาก็จะต่อยอดนโยบายต่าง ๆ ของพรรคให้ประสบความสำเร็จ
ด้าน นางสาวธนิกานต์ ระบุว่า ส่วนตัวเป็นคนรุ่นใหม่ในพื้นที่ จึงอยากอาสาเข้ามาพัฒนาหลาย ๆ สิ่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ตามสโลแกนเข้าถึงพึ่งได้ ทั้งเรื่องของสตรี โดยเฉพาะการสร้างความปลอดภัยต่อสตรี เป็นต้น