ธุรกิจฝรั่งหนุนไทยใช้ดิจิตอลเคลื่อนประเทศ

23 ก.พ. 2561 | 08:59 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

ประธานคณะทำงานด้านเศรษฐกิจดิจิทัลของ JFCCT และคณะทำงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของ EABC เข้าเยี่ยมคารวะรองนายกรัฐมนตรี

20180223104935 วันนี้(23 กุมภาพันธ์ 2561)  เว็บไซต์ www.thaigov.go.th เผยแพร่ข่าว เมื่อเวลา 09.30 น. นาย Robert C. Fox ประธานคณะทำงานด้านเศรษฐกิจดิจิทัล ของหอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทย (Joint Foreign Chambers Of Commerce in Thailand: JFCCT) และคณะทำงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ของสมาคมการค้ายูโรเปียนเพื่อธุรกิจและการพาณิชย์ (EABC) เข้าเยี่ยมคารวะพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี ณ ห้องรับรอง 1 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล สรุปสาระสำคัญดังนี้

 

ทั้งสองฝ่ายหารือความสำคัญของการขับเคลื่อนประเทศไทย เข้าสู่ยุค Thailand 4.0 ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญการผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจ และพัฒนาสังคมให้มีคุณภาพ ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า นโยบาย Thailand 4.0 มีการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลที่ครอบคลุมหลากหลายมิติ นอกเหนือไปจากการอำนวยความสะดวกการค้าและการลงทุน แต่เทคโนโลยีดิจิทัลยังส่งผลให้เกิดการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน การพัฒนาการศึกษา การพัฒนาระบบคมนาคม และการจัดเก็บข้อมูลแรงงานที่มีประสิทธิภาพ เป็นต้น ซึ่งประธานคณะทำงานด้านเศรษฐกิจดิจิทัล ของ JFCCT กล่าวแสดงความยินดี ที่รัฐบาลไทยให้ความสำคัญ กับการขับเคลื่อนประเทศด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล JFCCT และ EABC ยินดีอย่างยิ่งที่จะสนับสนุนให้นโยบายดังกล่าวของรัฐบาลประสบความสำเร็จ

แบนเนอร์รายการฐานยานยนต์-5-503x69 รองนายกรัฐมนตรีและนาย Robert C. Fox ยังหารือถึงความท้าทาย และอุปสรรคของประเทศไทย ในการผลักดันนโยบาย Thailand 4.0 ให้ประสบความสำเร็จ นาย Robert C. Fox กล่าวว่า การขับเคลื่อนนโยบายนี้ให้มีประสิทธิภาพได้นั้น ต้องมีระบบโทรคมนาคมที่มีประสิทธิภาพ มีความสามารถทางการแข่งขัน นวัตกรรม รวมทั้งความรับผิดชอบและกฎระเบียบที่ควบคุมชัดเจน ซึ่งต้องอาศัยบทบาทที่สำคัญจากภาครัฐ ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการบริการ

นอกจากนี้ การที่ประเทศไทยตั้งอยู่ในจุดศูนย์กลางของภูมิภาค ทำให้ไทยได้เปรียบในเรื่องการคมนาคมและการขนส่งสินค้า แต่อย่างไรก็ตาม หากจะทำให้ไทยได้เปรียบในเรื่องการเป็นศูนย์กลางในการให้บริการทางด้านข้อมูล(Data Service Hub) ด้วยนั้น ระบบโทรคมนาคมของไทยจะต้องทำให้เกิดความเชื่อมั่นของผู้ใช้บริการ มีความโปร่งใส่และโครงสร้างที่ชัดเจน มีเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่ครอบคลุม และประชาชนทุกระดับสามารถใช้ได้อย่างเท่าเทียม มีระบบอินเทอร์เน็ตที่ปลอดภัยและมั่นคง รวมทั้งต้องมีการวางกฎระเบียบในเรื่องการควบคุมการจัดการข้อมูล การนำข้อมูลไปใช้ สิทธิส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล และการเคลื่อนย้ายข้อมูลข้ามพรมแดนด้วย ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ข้อมูลดังกล่าวมีประโยชน์อย่างยิ่ง และยินดีนำข้อมูลที่ได้ไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อปรับปรุงระบบโทรคมนาคมให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว