30 ส.ค. 2560 เวลา 11:43 น. 105
นายกฯมอบรางวัลผู้ส่งออกดีเด่น ปลุกขวัญธุรกิจไทยพัฒนาคุณภาพไม่หยุด สร้างความยอมรับในระดับสากล รับผิดชอบต่อลูกค้า ลูกจ้าง ผู้ร่วมทุน คู่ค้าในตลาด จนถึงสังคม ย้ำต้องเติบโตไปด้วยกันไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
วันนี้ (30 สิงหาคม 2560) เว็บไซต์www.thaigov.go.th เผยแพร่ข่าว เมื่อเวลา 09.30 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีมอบรางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่น ปี 2560 (Prime Minister’s Export Award 2017) โดยมี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นางอภริรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายสนธิรัตน์ สนธิจิวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ คณะกรรมการและคณะทำงานที่เกี่ยวข้อง ผู้ประกอบธุรกิจดีเด่นเข้าร่วม
สำหรับรางวลผู้ประกอบการส่งออกดีเด่น ปี 2560 (Prime Minister’s Export Award 2017) ปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 26 ถือเป็นรางวัลแห่งความสำเร็จสูงสุดสำหรับผู้ประกอบการประเภทต่าง ๆ โดยในปีนี้มีผู้ประกอบการได้รับรางวัลทั้งสิ้น จำนวน 34 บริษัท ใน 7 ประเภท ประกอบด้วย รางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกยอดเยี่ยม รางวัลสินค้านวัตกรรมที่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมยอดเยี่ยม รางวัลแบรนด์ไทยยอดเยี่ยม รางวัลสินค้าที่มีการออกแบบยอดเยี่ยม รางวัลธุรกิจบริการยอดเยี่ยม รางวัลสินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยม และรางวัลสินค้าฮาลาล ยอดเยี่ยม
โอกาสนี้ ภายหลังการมอบรางวัลให้ผู้ประกอบการ นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความยินดีและชื่นชมผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัลว่า รางวัลดังกล่าวเป็นรางวัลที่รัฐบาลตั้งใจจัดทำขึ้นเพื่อยกย่องและเชิดชูเกียรติผู้ประกอบการไทย ที่มีความมุ่งมั่น ทุ่มเท และตั้งใจพัฒนาต่อยอด และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าของตัวเอง ซึ่งจะแสดงให้เห็นถึงการพัฒนาสินค้าและบริการของผู้ประกอบการที่ดีขึ้นตามลำดับ พร้อมแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลที่ต้องการเห็นสินค้าและบริการมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล
ในส่วนของการพัฒนา นายกรัฐมนตรีต้องการให้ผู้ประกอบการยกระดับต่อยอดขึ้นไปอย่าหยุดยั้ง อย่างยั่งยืน และต้องเติบโตไปพร้อมกัน ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน รวมถึงต้องดูแลเอาใจใส่แรงงานทั้งคนไทยและแรงงานต่างด้าว ให้เปรียบเสมือนคนในครอบครัว อย่างโอบอ้อมอารี ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น รวมทั้งต้องดูแลหุ้นส่วน พร้อมกับร่วมกันสร้างองค์กรให้มีจริยธรรม มีคนที่มีคุณภาพอยู่ในองค์กร สอนให้คนมีหลักคิดที่ถูกต้องในการทำงาน เมื่อมีผลประกอบการที่ดีแล้วต้องนำคืนกลับมาตอบแทนสู่สังคมในรูปแบบต่าง ๆ ด้วย พร้อมเน้นย้ำเรื่องการแก้ไขปัญหาทุจริตคอร์รัปชันให้เป็นศูนย์ให้ได้ จะต้องไม่มีการเรียกรับ และการเสนอผลประโยชน์ การดำเนินธุรกิจจะต้องโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า ขอให้นำนวัตกรรม เทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในการผลิตสินค้าและบริการเพื่อเสริมศักยภาพสินค้าและบริการของไทยให้มีคุณภาพมากขึ้น รวมถึงปรับเปลี่ยนรูปแบบสินค้า เน้นออกแบบแสดงเห็นถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทย เป็นสินค้าหายาก ผลิตออกมาจำนวนไม่มาก แต่มีราคาสูง เป็นสินค้าที่ใช้ได้จริง หรือเก็บไว้สะสม พร้อมกับเสนอให้มีการเพิ่มรางวัลผู้ประกอบการส่งออกดีเด่นเพิ่มขึ้น เช่น รางวัลผู้ประกอบการมีรายได้ยอดเยี่ยม และรางวัลผู้ประกอบการดูแลประชาชนยอดเยี่ยม เป็นต้น
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีฝากให้ผู้ประกอบการขยายการลงทุนให้มากขึ้น โดยเฉพาะด้านการเกษตร ซึ่งรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ พร้อมยืนยันว่าจะทำทุกอย่างให้ดีขึ้นทั้งในเรื่องของเศรษฐกิจ และการแก้ไขกฎหมายให้เป็นสากล ทั้งนี้ รัฐบาลไม่สามารถดำเนินการได้เพียงฝ่ายเดียว ทุกคนต้องช่วยกันให้ความร่วมมือ และช่วยกันสร้างการรับรู้ สร้างความเข้าใจเพื่อให้เกิดความเชื่อมันทั้งในและต่างประเทศมากขึ้น


สำหรับรางวลผู้ประกอบการส่งออกดีเด่น ปี 2560 (Prime Minister’s Export Award 2017) ปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 26 ถือเป็นรางวัลแห่งความสำเร็จสูงสุดสำหรับผู้ประกอบการประเภทต่าง ๆ โดยในปีนี้มีผู้ประกอบการได้รับรางวัลทั้งสิ้น จำนวน 34 บริษัท ใน 7 ประเภท ประกอบด้วย รางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกยอดเยี่ยม รางวัลสินค้านวัตกรรมที่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมยอดเยี่ยม รางวัลแบรนด์ไทยยอดเยี่ยม รางวัลสินค้าที่มีการออกแบบยอดเยี่ยม รางวัลธุรกิจบริการยอดเยี่ยม รางวัลสินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยม และรางวัลสินค้าฮาลาล ยอดเยี่ยม
โอกาสนี้ ภายหลังการมอบรางวัลให้ผู้ประกอบการ นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความยินดีและชื่นชมผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัลว่า รางวัลดังกล่าวเป็นรางวัลที่รัฐบาลตั้งใจจัดทำขึ้นเพื่อยกย่องและเชิดชูเกียรติผู้ประกอบการไทย ที่มีความมุ่งมั่น ทุ่มเท และตั้งใจพัฒนาต่อยอด และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าของตัวเอง ซึ่งจะแสดงให้เห็นถึงการพัฒนาสินค้าและบริการของผู้ประกอบการที่ดีขึ้นตามลำดับ พร้อมแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลที่ต้องการเห็นสินค้าและบริการมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า ขอให้นำนวัตกรรม เทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในการผลิตสินค้าและบริการเพื่อเสริมศักยภาพสินค้าและบริการของไทยให้มีคุณภาพมากขึ้น รวมถึงปรับเปลี่ยนรูปแบบสินค้า เน้นออกแบบแสดงเห็นถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทย เป็นสินค้าหายาก ผลิตออกมาจำนวนไม่มาก แต่มีราคาสูง เป็นสินค้าที่ใช้ได้จริง หรือเก็บไว้สะสม พร้อมกับเสนอให้มีการเพิ่มรางวัลผู้ประกอบการส่งออกดีเด่นเพิ่มขึ้น เช่น รางวัลผู้ประกอบการมีรายได้ยอดเยี่ยม และรางวัลผู้ประกอบการดูแลประชาชนยอดเยี่ยม เป็นต้น
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีฝากให้ผู้ประกอบการขยายการลงทุนให้มากขึ้น โดยเฉพาะด้านการเกษตร ซึ่งรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ พร้อมยืนยันว่าจะทำทุกอย่างให้ดีขึ้นทั้งในเรื่องของเศรษฐกิจ และการแก้ไขกฎหมายให้เป็นสากล ทั้งนี้ รัฐบาลไม่สามารถดำเนินการได้เพียงฝ่ายเดียว ทุกคนต้องช่วยกันให้ความร่วมมือ และช่วยกันสร้างการรับรู้ สร้างความเข้าใจเพื่อให้เกิดความเชื่อมันทั้งในและต่างประเทศมากขึ้น