'ยิ่งลักษณ์' หนี!

26 ส.ค. 2560 | 06:08 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

มวลชนช็อก “ยิ่งลักษณ์”หนี ไม่มาฟังคำพิพากษาคดีจำนำข้าว ศาลไม่เชื่อป่วยสั่งริบประกัน 30 ล้านออกหมายจับ เลื่อนตัดสินไป 27 ก.ย. ทนายอ้างเพิ่งได้รับแจ้งป่วยขอเลื่อนช่วงเช้า“นายกฯ” ระบุกำลังหาตัว “ประวิตร” รับหนีออกนอกประเทศแล้ว ข่าวกรองคาดปลายทางอังกฤษ กลุ่มผู้สนับสนุนนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ และพรรคเพื่อไทย ทยอยเดินทางมาฟังการตัดสิน 2 คดีเกี่ยวเนื่องโครงการรับจำนำข้าวอย่างคึกคักที่หน้าศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ท่ามกลางการดูแลของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเข้มงวด ยิ่งใกล้เวลา 09.00น.วานนี้ (25 ส.ค.) ตามศาลนัด แกนนำพรรคเพื่อไทย รวมทั้งนายบุญทรง เตริยา-ภิรมย์ และนายภูมิ สาระผล อดีตรัฐมนตรีและรัฐมนตรีช่วยพาณิชย์ ทยอยเดินทางมาถึง บางส่วนแวะทักทายมวลชน ก่อนเดินทางเข้าในอาคารศาล เพื่อเข้าฟังการอ่านคำพิพากษาตามนัด แต่กลับไม่ปรากฏตัวนางสาวยิ่งลักษณ์ กระทั่งเริ่มตั้งคำถามกันว่ายิ่งลักษณ์หนีศาล

**ไม่เชื่อป่วย-ออกหมายจับ
ไม่นานจากนั้นมีกระแสข่าวสะพัดว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ไม่มาศาล ต่อมาเวลา 09.35 น. องค์คณะตุลาการศาลฎีกาฯ ทั้ง 9 คน ออกนั่งบัลลังก์อ่านกระบวน การพิจารณาความ โดยศาลได้เลื่อนการอ่านคำพิพากษาของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ที่อ้างว่าป่วยด้วยโรคนํ้าในหูไม่เท่ากัน และมีอาการวิงเวียนศีรษะอย่างรุนแรง ไม่สามารถมาฟังคำพิพากษาได้ ทั้งนี้ ศาลได้พิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยไม่มีใบรับรอง
แพทย์มายืนยัน อีกทั้งอาการป่วยไม่ได้รุนแรงถึงขั้นมาฟังคำพิพากษาไม่ได้ ไม่เชื่อว่าป่วยจริง จำเลยมีพฤติการณ์หลบหนี จึงให้ออกหมายจับ พร้อมยึดเงินประกันเต็มอัตรา (30 ล้านบาท) และเลื่อนนัดฟังคำพิพากษาเป็นวันที่ 27 กันยายน 2560 เวลา 09.00 น.

ขณะที่นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความนางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ช่วงเช้าได้รับทราบว่านางสาวยิ่งลักษณ์ ไม่สบาย เนื่องจากอาการนํ้าในหูไม่เท่ากันทำให้เวียนศีรษะ จึงประสานมาที่ทนาย เวลา 08.00 น. แต่ไม่ได้นำใบรับรองแพทย์มายืนยัน เพราะแจ้งมาเร่งด่วน ทีมทนายจึงเขียนคำร้องขอยื่นเลื่อนการฟังคำพิพากษา และตนไม่ทราบว่านางสาวยิ่งลักษณ์อยู่ที่ใด

**นายกฯเร่งหา“ปู”อยู่ไหน
ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่าเป็นเรื่องของอดีตนายกฯ ที่ทำเรื่องขอเลื่อนมา แต่ศาลไม่ให้เลื่อนและออกหมายจับ รัฐบาลทำได้เพียงกำชับฝ่ายความมั่นคงให้ติดตามว่าป่วยจริงหรือไม่และขณะนี้อยู่ที่ไหน ตอนนี้ยังไม่ได้รับรายงานเพิ่มเติม โดยให้ติดตามเส้นทางเข้าออก ทั้งช่องทางธรรมชาติและปกติ

ส่วนจะมีผลกระทบต่อการปรองดองหรือไม่นั้นก็ขึ้นกับประชาชน หากนางสาวยิ่งลักษณ์ ไม่อยู่แล้วไปไหน ไม่ได้ขึ้นอยู่กับรัฐบาล แต่เป็นเรื่องกฎหมาย หากไม่อยู่แล้วกฎหมายว่าอย่างไร มีหมายเรียก หมายจับอะไรหรือไม่ แล้วภายใน 1 เดือนที่ต้องมีการพิจารณาใหม่หรือไม่ ต้องมา หากไม่มาก็ยิ่งไปกันใหญ่ เป็นเรื่องใหญ่โต ในเมื่อมั่นใจทำไมไม่เข้ามาอยู่ในระบบ

**บิ๊กป้อมปัดขยิบตาให้หนี
ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกระแสข่าว นางสาวยิ่งลักษณ์ หลบหนี ไปตั้งแต่คืนวันที่ 23 สิงหาคม โดยมีรถของราชการระดับสูง พาไปตามเส้นทางเกาะช้าง เข้าประเทศกัมพูชา โดยมีปลายทางอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ ว่า ได้แต่ติดตามจากสื่อออนไลน์ว่าอดีตนายกฯหนีไปแล้ว ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าหนีไปแล้วจริง ๆ เพราะมีเส้นทางการหลบหนีหลายเส้นทาง

ก่อนหน้านี้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ยืนยันผ่านสื่อมาโดยตลอดว่าจะไม่หลบหนี ซึ่งฝ่ายความมั่นคงก็ไม่ได้คาดคิดว่าจะหลบหนี พร้อมยืนยันว่าฝ่ายความมั่นคงไม่ได้รู้เห็นเป็นใจ หรือเปิดช่องทางให้มีการหลบหนี

TP2-3291-1 **หมอวรงค์ชี้หนีตั้งหลัก
ด้านน.พ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า ที่ไม่มาศาลคิดว่าเขาคงไม่มั่นใจผลการต่อสู้ในคดีที่ผ่านมา เหมือนคนทำข้อสอบรู้ตัวเองว่าทำได้ดีหรือไม่ และที่สำคัญเขาคงอยากฟังคดีนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ ก่อนด้วยว่าจะเป็นอย่างไร จะได้ประเมินคดีของตนเองได้ถูก เนื่องจากคดีมีความเกี่ยวพันกัน และอัยการได้นำคดีของนายบุญทรงอยู่ชุดเดียวกับคดีนางสาวยิ่งลักษณ์ด้วย อย่างไรก็ตาม การไม่มาศาลของนางสาวยิ่งลักษณ์ ถือว่าทุกอย่างจบแล้ว

ขณะที่นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชา ธิปัตย์ กล่าวว่า เมื่อศาลฎีกาฯ วินิจฉัยว่านางสาวยิ่งลักษณ์หลบหนี เจ้าหน้าที่รัฐต้องทำหน้าที่ดำเนินการจับกุมตามหมายจับ ต้องไปตามจับที่บ้าน ไปตามจับที่โรงพยาบาลที่เขาอ้างว่าไปรักษาอาการป่วยอยู่ ถ้าตามไปแล้วไม่เจอตัว ตรงนี้จะยืนยันข้อเท็จจริงได้เลยว่า เขาหนีไปแล้ว

“ผมว่าคสช.ต้องเป็นจำเลยด้วย เพราะปล่อยให้เขาหลบหนีไปทางไหน อย่างไร เข้าใจว่าวันสองวันที่ผ่านมานั้น เขายังอยู่ในประเทศ แต่หากอยู่ในประเทศก็ควรจับกุมตัวได้ไม่เกิน 24 ชั่วโมงนี้ ถ้าหากจับกุมตัวไม่ได้ คสช.ก็คงจะมีปัญหา”

**ชี้บทเรียนนักการเมือง
ส่วนมุมมองของนักวิชาการ นายสมพร อิศวิลานนท์ นักวิชาการอาวุโส สถาบันคลังสมองของชาติ กล่าวว่า การอ้างป่วยไม่มาฟังคำพิพากษานั้น มองเป็นการป่วยทางการเมืองเพื่อยื้อเวลา ใช้แท็กติกส์ตามกระบวนการทางกฎหมายที่เปิดช่องไว้ อย่างไรก็ดีคาดจะหนีความผิดฐานปล่อยปละละเลยไม่พ้น

ด้านนายสมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์และการเมือง กล่าวว่า คดีข้าวจีทูจีที่ศาลตัดสินแล้ว และคดีจำนำข้าวของนางสาวยิ่งลักษณ์ ที่ยังไม่ตัดสิน จะเป็นคดีตัวอย่างและเป็นอุทาหรณ์ให้นักการเมืองในอนาคต

P1-3291-a **วงการข้าวช็อกโทษรุนแรง
ด้านปฏิกิริยาวงการค้าข้าว นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า รู้สึกช็อกที่ศาลกำหนดโทษคดีข้าวจีทูจีที่ค่อนข้างสูงและรุนแรงถือเป็นประวัติศาสตร์ครั้งแรกของคดีข้าวที่ต้องจารึกไว้ อย่างไรก็ดีในส่วนของจำเลยที่เป็นผู้ประกอบการค้าข้าวและโรงสีเอกชน(จำเลยที่ 22-28) ที่ถูกยกฟ้อง ตรงนี้ไม่ทราบรายละเอียดว่าศาลพิจารณาอย่างไร มองว่าคงให้การเป็นพยาน

นายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ไม่คิดว่าจะลงโทษรุนแรงขนาดนี้ เพราะคดีฆาตกรรมยังลงโทษแค่ 5 ปี 10 ปี แต่คดีข้าวจีทูจีในครั้งนี้ลงโทษรุนแรง อาจเป็นเพราะหลายคนมีหลายคดีต่างกรรมต่างวาระ เมื่อนำมารวมกันแล้วจึงถูกลงโทษค่อนข้างหนัก ถือเป็นอุทาหรณ์นักการเมืองและเอกชนว่า หากจะคิดหรือทำอะไรที่สร้างความเสียหายกับประเทศชาติก็ไม่ควรทำ

เช่นเดียวกันนายเกรียงศักดิ์ ตาปนานนท์ นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย กล่าวว่าผลตัดสินที่โทษค่อนข้างรุนแรงในครั้งนี้อาจจากมูลเหตุที่สร้างความเสียหายค่อนข้างมากหลายแสนล้านบาท ส่วนจำเลยที่ศาลยกฟ้องซึ่งเป็นผู้ประกอบการค้าข้าวและโรงสี ศาลอาจมองว่ามีเจตนาบริสุทธิ์ เมื่อไม่มีข้าวขายแต่มีคนมาขายข้าวให้ก็ต้องซื้อเพื่อการค้าทำกำไร อย่างไรก็ดีผลตัดสินครั้งนี้จะทำให้ทุกฝ่ายได้ตระหนักถึงการกระทำที่มีเจตนาไม่บริสุทธิ์จะต้องไม่ทำ ไม่เช่นนั้นอาจถูกลงโทษ

**เตรียมขอลี้ภัยอังกฤษ
หน่วยงานด้านความมั่นคงของรัฐบาล ได้แกะรอยเส้นทางหลบหนีออกนอกประเทศทราบว่า หลังจากที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์เดินทางไปทำบุญกราบไหว้สมเด็จโตที่วัดระฆังโฆสิตารามฯ เมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา ในคืนวันเดียวกันได้เดินทางไปพักที่เกาะช้าง จ.ตราด และนั่งรถยนต์ เข้าประเทศกัมพูชา จากนั้นในวันรุ่งขึ้น 24 ส.ค. 2560 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้นั่งเครื่องบินส่วนตัวไปพัก ที่สิงคโปร์ คาดว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาพบน้องสาว

หน่วยงานด้านความมั่นคง ยังได้รับรายงานว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ติดต่อสถานทูตประเทศอังกฤษ เพื่อที่จะขอลี้ภัยการเมือง รัฐบาลอังกฤษยึดถือเรื่องการรับผู้ลี้ภัยจากต่างแดน ตามหลักการที่ระบุไว้ในอนุสัญญาว่าด้วยสถานะผู้ลี้ภัยของสหประชาชาติ พ.ศ. 2494 ที่ว่าคนที่จะถือว่าเป็นผู้ลี้ภัยได้คือคนที่ต้องหลบหนีออกจากประเทศของตนเองและไม่สามารถเดินทางกลับไปได้โดยมีเหตุที่เชื่อได้ว่า ถ้าเดินทางกลับไปแล้ว จะถูกกระทำทารุณ หรือถูกก่อกรรมทำเข็ญหรือลอบสังหาร ที่สำคัญรัฐบาลอังกฤษยังยึดถือตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิมนุษยชนของยุโรปได้ว่า จะไม่ส่งตัวบุคคลใดไปยังประเทศไหนๆ ในโลก หากว่า มีความเสี่ยงสูงว่าบุคคลนั้นจะถูกกระทำทารุณ หรือถูกลงโทษ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,291 วันที่ 27 - 30 สิงหาคม พ.ศ. 2560