Play
ก่อนวันพิพากษา 6# GtoG ลวงโลก...?
Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่
วันนี้ (11 ส.ค. 60) - นายทิฆัมพร ศรีจันทร์ บรรณาธิการบริหาร หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ได้โพสต์เฟสบุ๊คส่วนตัว กรณีคดีจำนำข้าว และขายข้าวแบบจีทูจี ในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่ใกล้จะถึงวันตัดสิน 25 สิงหาคมที่จะถึงนี้ ณ ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง
โดยมีใจความว่า "ใกล้ถึงวันพิพากษาเข้ามาทุกที สำหรับคดีจำนำข้าวและคดีจีทูจีเก๊ เรียกว่าระทึกใจยิ่งนัก โดยในส่วนของข้าวจีทูจีเก๊นั้น ปปช.กล่าวหานายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ นายภูมิ สาระผล อดีตรมช.พาณิชย์ นายแพทย์ วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ ผู้ช่วยเลขารมว.พาณิชย์ นายมนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ นายฑิฆัมพร นาทวรทัต นายอัครพงศ์ ทีปวัชระ ในข้อหากระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือทุจริตต่อหน้าที่ตามกฎหมาย ขณะที่ภาคเอกชนถูกฟ้องพ่วงเป็นจำเลย เช่น Guangdong stationery &sporting good imp.&exp.corp ,Hainan grain and oil industrial trading company, รัฐนิธ โสนะกุล, สมคิด เอื้อนสุภา, ลิตร พอใจ, อภิชาติ จันทร์สกุลพร, สยามอินดิก้า และเอกชนอีกเพียบ คราวแรกฟ้องรวม 111 ราย ก่อนจะกันเป็นพยานในภายหลัง
รัฐบาลประกาศจำนำข้าวหมื่นห้าพันบาทต่อตัน เพื่อสร้างความมั่นคงทางรายได้ให้เกษตรกร นายบุญทรง ต้องมีตำแหน่งหน้าที่ทำให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ปี 2550 มาตรา 48 รัฐต้องดำเนินการสนับสนุนระบบเศรษฐกิจเสรีและเป็นธรรม โดยอาศัยกลไกตลาดและพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน แต่กาลกลับกลายเป็นว่า โครงการรับจำนำที่ดำเนินการโดยเนื้อแท้แล้วคือโครงการซื้อขายข้าว เพราะจำนำสูงกว่าตลาดมากบิดเบือนระบบเศรษฐกิจเสรี ทั้งที่มีการโต้แย้งทัดทานจากหลายฝ่าย จึงเป็นการกระทำมิชอบด้วยกฎหมาย
รัฐบาลโดยนายบุญทรง กล่าวอ้างว่าได้ขายข้าวรัฐต่อรัฐ 7.32 ล้านตัน ดำเนินการไปแล้ว 1.46 ล้านตัน ได้รับเงิน 4.2 หมื่นล้านบาท
การดำเนินการขายข้าวรัฐต่อรัฐ การจ่ายค่าข้าวต้องจ่ายผ่านธนาคารโดยการเปิด L/C ไปให้กรมการค้าต่างประเทศผู้ขาย แต่ปรากฎข้อเท็จจริงว่าการจ่ายเงินค่าข้าวเข้าชื่อบัญชีกรมการค้าต่างประเทศ ธนาคารกรุงไทย โดยเป็นแคชเชียร์เช็คธนาคารกสิกรไทย กรุงเทพ กรุงไทย ไทยพาณิชย์ โดยเป็นแคชเชียร์เช็คที่ซื้อมาจากสมคิด เอื้อนสุภา มีความเกี่ยวข้องกับสยามอินดิก้ารวมทั้งแคชเชียร์เช็คจากผู้ที่เกี่ยวข้องรายอื่นมาจาก โจ นิมล รักดี, สยามอินดิก้า, สุธี เชื่อมสง, เจียเม้ง จำกัด จำนวน 1,519 ฉบับ รวมเงินกว่า 7.7 หมื่นล้านบาท ทั้งที่บริษัทนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับรัฐต่างประเทศ จึงเป็นการหลีกเลี่ยงการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ (ฮั้ว)
ในการทำจีทูจีนั้นจะต้องทำกับตัวแทนทางการรัฐต่างประเทศที่ได้รับมอบอำนาจมาโดยตรง เช่น บูล็อก อินโดนีเซีย, เอ็นเอฟเอ ฟิลิปปินส์, GTC อิหร่าน, เกรนบอร์ด อิรัก, กระทรวงอาหาร บังกลาเทศ, กระทรวงเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงพาณิชย์ ไอวอรี่โคสต์และกรมการค้าต่างประเทศ อคส.ของไทย นี่เป็นหน่วยงานทางการที่ทำจีทูจี ผิดไปจากนี้ไม่ถือเป็นตัวแทนรัฐที่มาเจรจาซื้อ-ขายข้าวกับไทย
นายบุญทรงและพวกอ้างว่าได้ทำสัญญาจีทูจีกับกวางดง- ไห่หนาน บริษัทที่ซื้อขายอุปกรณ์กีฬาและฃื้อขายพันธ์พืช ไม่เกี่ยวข้องกับข้าวแต่อย่างใด หรือพูดได้ว่าเป็นนอมินีหรือตัวแทนเชิดขึ้นมาซื้อข้าวจากรัฐบาลไทย
Guangdong ฯ - Hainan grain อุปโลกน์ GtoG โดยรัฐทำสัญญาจีทูจีกับGuangdong ฯ 4.8 ล้านตัน รับมอบข้าวปี 55 สิ้นสุดม.ค.56 รัฐทำสัญญาจีทูจีกับ,Hainan grain ฯ , 6.1 หมื่นตัน รับมอบข้าวสิ้นสุด ก.ย. 55
แต่จาก สถิติส่งออกข้าวไปจีน ปี54 ปริมาณ 9.2 หมื่นตัน ปี55 ปริมาณ 1.76 แสนตัน ปี56 ปริมาณ 1.06 แสนตัน รวม 3 ปี ปริมาณ 3.75 แสนตัน นั่นแสดงให้เห็นว่าไม่ได้มีการส่งออกจริง และข้าวที่ถูกอ้างว่าขายจีทูจีนั้นได้ถูกวนกลับมาในประเทศ หรือข้าวไม่ได้ถูกขนออกไปที่ท่าเรือเลยแต่อย่างใด
ขณะที่ สยามอินดิก้า ที่เป็นตัวละครสำคัญนั้น ได้อ้างซื้อข้าวจากบริษัทสิงคโปร์ ซึ่งทราบข้อมูลว่าเป็นคู่สัญญาซื้อข้าวของ GSSG หรือกวางด่ง ที่เป็นคู่สัญญาซื้อข้าวจากกรมการค้าต่างประเทศนั้นได้ออกแคชเชียร์เช็คสั่งจ่ายให้กรมการค้าต่างประเทศแล้วนำมอบตัวแทนผู้ขายคือสมคิด เอื้อนสุภาและรัฐนิธ ซึ่งทราบว่าเป็นตัวแทนผู้ขาย โดยถ้าเป็นข้าวดีปรับปรุงส่งออกและข้าวคุณภาพต่ำให้นำไปขาย
ตัวแทนเอกชนผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ของไทย ทั้งจากแคปปิตัลไรซ์ เอเชียโกเดนไรซ์ ไชยพร ไรซ์ไปให้การกับปปช.ว่าได้ไปพบกับพ.ต.วีระวุฒิหรือหมอโด่งที่กระทรวงพาณิชย์ โดยหมอโด่งแจ้งว่าหากทั้ง 3 ราย ต้องการซื้อข้าวให้ติดต่อหมอโด่งโดยตรงส่วนการจ่ายเงินค่าข้าวให้สั่งจ่ายเช็คกรมการค้าต่างประเทศ แล้วนำไปมอบให้หน้าห้อง สารวัตรเหยินที่เป็นผู้อำนวยการอคส.ในขณะนั้น หรือไปติดต่อกับคนหมอโด่ง คือ นายโจ หรือลูกน้องนายโจ แล้วจะมีคนนำหลักฐานเบิกข้าวจากคลังสินค้า ไปมอบให้ โดยไม่จำเป็นต้องทำสัญญาซื้อขายข้าว หรือประมูลกับกรมการค้าต่างประเทศ พฤติกรรมอย่างที่ว่าเห็นภาพกันหรือยัง ว่าเขาทำจีทูจีแบบไหนกัน"
โดยมีใจความว่า "ใกล้ถึงวันพิพากษาเข้ามาทุกที สำหรับคดีจำนำข้าวและคดีจีทูจีเก๊ เรียกว่าระทึกใจยิ่งนัก โดยในส่วนของข้าวจีทูจีเก๊นั้น ปปช.กล่าวหานายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ นายภูมิ สาระผล อดีตรมช.พาณิชย์ นายแพทย์ วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ ผู้ช่วยเลขารมว.พาณิชย์ นายมนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ นายฑิฆัมพร นาทวรทัต นายอัครพงศ์ ทีปวัชระ ในข้อหากระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือทุจริตต่อหน้าที่ตามกฎหมาย ขณะที่ภาคเอกชนถูกฟ้องพ่วงเป็นจำเลย เช่น Guangdong stationery &sporting good imp.&exp.corp ,Hainan grain and oil industrial trading company, รัฐนิธ โสนะกุล, สมคิด เอื้อนสุภา, ลิตร พอใจ, อภิชาติ จันทร์สกุลพร, สยามอินดิก้า และเอกชนอีกเพียบ คราวแรกฟ้องรวม 111 ราย ก่อนจะกันเป็นพยานในภายหลัง
รัฐบาลประกาศจำนำข้าวหมื่นห้าพันบาทต่อตัน เพื่อสร้างความมั่นคงทางรายได้ให้เกษตรกร นายบุญทรง ต้องมีตำแหน่งหน้าที่ทำให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ปี 2550 มาตรา 48 รัฐต้องดำเนินการสนับสนุนระบบเศรษฐกิจเสรีและเป็นธรรม โดยอาศัยกลไกตลาดและพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน แต่กาลกลับกลายเป็นว่า โครงการรับจำนำที่ดำเนินการโดยเนื้อแท้แล้วคือโครงการซื้อขายข้าว เพราะจำนำสูงกว่าตลาดมากบิดเบือนระบบเศรษฐกิจเสรี ทั้งที่มีการโต้แย้งทัดทานจากหลายฝ่าย จึงเป็นการกระทำมิชอบด้วยกฎหมาย
รัฐบาลโดยนายบุญทรง กล่าวอ้างว่าได้ขายข้าวรัฐต่อรัฐ 7.32 ล้านตัน ดำเนินการไปแล้ว 1.46 ล้านตัน ได้รับเงิน 4.2 หมื่นล้านบาท
การดำเนินการขายข้าวรัฐต่อรัฐ การจ่ายค่าข้าวต้องจ่ายผ่านธนาคารโดยการเปิด L/C ไปให้กรมการค้าต่างประเทศผู้ขาย แต่ปรากฎข้อเท็จจริงว่าการจ่ายเงินค่าข้าวเข้าชื่อบัญชีกรมการค้าต่างประเทศ ธนาคารกรุงไทย โดยเป็นแคชเชียร์เช็คธนาคารกสิกรไทย กรุงเทพ กรุงไทย ไทยพาณิชย์ โดยเป็นแคชเชียร์เช็คที่ซื้อมาจากสมคิด เอื้อนสุภา มีความเกี่ยวข้องกับสยามอินดิก้ารวมทั้งแคชเชียร์เช็คจากผู้ที่เกี่ยวข้องรายอื่นมาจาก โจ นิมล รักดี, สยามอินดิก้า, สุธี เชื่อมสง, เจียเม้ง จำกัด จำนวน 1,519 ฉบับ รวมเงินกว่า 7.7 หมื่นล้านบาท ทั้งที่บริษัทนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับรัฐต่างประเทศ จึงเป็นการหลีกเลี่ยงการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ (ฮั้ว)
ในการทำจีทูจีนั้นจะต้องทำกับตัวแทนทางการรัฐต่างประเทศที่ได้รับมอบอำนาจมาโดยตรง เช่น บูล็อก อินโดนีเซีย, เอ็นเอฟเอ ฟิลิปปินส์, GTC อิหร่าน, เกรนบอร์ด อิรัก, กระทรวงอาหาร บังกลาเทศ, กระทรวงเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงพาณิชย์ ไอวอรี่โคสต์และกรมการค้าต่างประเทศ อคส.ของไทย นี่เป็นหน่วยงานทางการที่ทำจีทูจี ผิดไปจากนี้ไม่ถือเป็นตัวแทนรัฐที่มาเจรจาซื้อ-ขายข้าวกับไทย
นายบุญทรงและพวกอ้างว่าได้ทำสัญญาจีทูจีกับกวางดง- ไห่หนาน บริษัทที่ซื้อขายอุปกรณ์กีฬาและฃื้อขายพันธ์พืช ไม่เกี่ยวข้องกับข้าวแต่อย่างใด หรือพูดได้ว่าเป็นนอมินีหรือตัวแทนเชิดขึ้นมาซื้อข้าวจากรัฐบาลไทย
Guangdong ฯ - Hainan grain อุปโลกน์ GtoG โดยรัฐทำสัญญาจีทูจีกับGuangdong ฯ 4.8 ล้านตัน รับมอบข้าวปี 55 สิ้นสุดม.ค.56 รัฐทำสัญญาจีทูจีกับ,Hainan grain ฯ , 6.1 หมื่นตัน รับมอบข้าวสิ้นสุด ก.ย. 55
แต่จาก สถิติส่งออกข้าวไปจีน ปี54 ปริมาณ 9.2 หมื่นตัน ปี55 ปริมาณ 1.76 แสนตัน ปี56 ปริมาณ 1.06 แสนตัน รวม 3 ปี ปริมาณ 3.75 แสนตัน นั่นแสดงให้เห็นว่าไม่ได้มีการส่งออกจริง และข้าวที่ถูกอ้างว่าขายจีทูจีนั้นได้ถูกวนกลับมาในประเทศ หรือข้าวไม่ได้ถูกขนออกไปที่ท่าเรือเลยแต่อย่างใด
ขณะที่ สยามอินดิก้า ที่เป็นตัวละครสำคัญนั้น ได้อ้างซื้อข้าวจากบริษัทสิงคโปร์ ซึ่งทราบข้อมูลว่าเป็นคู่สัญญาซื้อข้าวของ GSSG หรือกวางด่ง ที่เป็นคู่สัญญาซื้อข้าวจากกรมการค้าต่างประเทศนั้นได้ออกแคชเชียร์เช็คสั่งจ่ายให้กรมการค้าต่างประเทศแล้วนำมอบตัวแทนผู้ขายคือสมคิด เอื้อนสุภาและรัฐนิธ ซึ่งทราบว่าเป็นตัวแทนผู้ขาย โดยถ้าเป็นข้าวดีปรับปรุงส่งออกและข้าวคุณภาพต่ำให้นำไปขาย
ตัวแทนเอกชนผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ของไทย ทั้งจากแคปปิตัลไรซ์ เอเชียโกเดนไรซ์ ไชยพร ไรซ์ไปให้การกับปปช.ว่าได้ไปพบกับพ.ต.วีระวุฒิหรือหมอโด่งที่กระทรวงพาณิชย์ โดยหมอโด่งแจ้งว่าหากทั้ง 3 ราย ต้องการซื้อข้าวให้ติดต่อหมอโด่งโดยตรงส่วนการจ่ายเงินค่าข้าวให้สั่งจ่ายเช็คกรมการค้าต่างประเทศ แล้วนำไปมอบให้หน้าห้อง สารวัตรเหยินที่เป็นผู้อำนวยการอคส.ในขณะนั้น หรือไปติดต่อกับคนหมอโด่ง คือ นายโจ หรือลูกน้องนายโจ แล้วจะมีคนนำหลักฐานเบิกข้าวจากคลังสินค้า ไปมอบให้ โดยไม่จำเป็นต้องทำสัญญาซื้อขายข้าว หรือประมูลกับกรมการค้าต่างประเทศ พฤติกรรมอย่างที่ว่าเห็นภาพกันหรือยัง ว่าเขาทำจีทูจีแบบไหนกัน"