พ.ร.ป.พรรคการเมืองวาระ 2-3 เข้าสนช.15 มิ.ย.นี้

12 มิ.ย. 2560 | 04:41 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

“หมอเจตน์” แจงสนช.เร่งพิจารณาพ.ร.ป.พรรคการเมืองวาระ2-3วันที่ 15 มิ.ย.นี้ เพื่อให้พรรคการเมืองมีเวลาเตรียมตัวรับกฎกติกาใหม่

ประชุมสนช.

นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิป สนช.) โพสต์เฟสบุ๊คส่วนตัว ชี้แจงลำดับการพิจารณาพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.)ที่จะนำเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)ในวาระ 2-3 หลังจากที่พรป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ผ่านการพิจารณาของ สนช.ในวาระ 3 เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ที่ผ่านมา โดยมีข้อความดังนี้

“พรป.กกต.เป็นพรป.ฉบับแรกจาก10 ฉบับที่ผ่านการพิจารณาของสภาฯ ถัดไปในวันที่ 15 มิถุนายน จะมีร่างพรป.พรรคการเมืองตามมาในวาระ2-3 อีกหนึ่งฉบับ คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ส่งสองฉบับนี้มาก่อนเพื่อให้การเมืองเคลื่อนได้ โดยเฉพาะพ.ร.ป.พรรคการเมืองที่ต้องเร่งออกมาเพื่อให้พรรคการเมืองต่างๆมีเวลาเตรียมตัวเพื่อปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ที่ออกใหม่ จากนั้นจะตามมาด้วยพรป.ที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งอีกสองฉบับ ฉบับสุดท้ายน่าจะเป็นพรป.เลือกตั้งสส.เพราะเมื่อประกาศราชกิจจามีผลใช้บังคับครบ 4 ฉบับแล้ว การเลือกตั้งสส.จะต้องเกิดใน 150วัน
พรป.กกต.มีประเด็นที่สังคมให้ความสนใจมาก คือ

1.บทเฉพาะกาล ได้ข้อสรุปจากวาระสามว่า กกต.ทั้งห้าท่านให้พ้นไปนับแต่วันที่กฎหมายมีผลใช้บังคับ แต่ให้อยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่ากกต.ชุดใหม่จะเข้ารับหน้าที่

2.ไม่มีกกต.จังหวัด แต่ให้มีผู้ตรวจการเลือกตั้งจำนวน 5-8คนขึ้นมาแทน โดยจัดทำเป็นบัญชีรายชื่อไว้ล่วงหน้าห้าปี โดยให้ผู้มีภูมิลำเนาในจังหวัดสองคน ที่เหลือให้มาจากจังหวัดอื่น มีอายุงานชั่วคราวโดยให้เริ่มแต่งตั้งให้แล้วเสร็จหลังมีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งมีผลใช้บังคับในเวลาไม่ช้ากว่าสิบวัน และพ้นไปเมื่อประกาศผลการเลือกตั้งหรือภายหลังจากนั้นไม่เกินหกสิบวันตามภารกิจ

3.กกต.ในรัฐธรรมนูญนี้มีจำนวน7คน มีอายุงาน7ปี มีอำนาจหน้าที่เพิ่ม กกต.มีอำนาจจัดการเลือกตั้งสส.,สว.,การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นและการออกเสียงประชามติ โดยกกต.แต่ละคนอาจได้รับมอบหมายจากกกต.ให้สืบสวนหรือไต่สวนเป็นตัวบุคคลหรือคณะบุคคลก็ได้ มีอำนาจสั่งให้เจ้าพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจชั้นผู้ใหญ้ดำเนินการตามอำนาจและหน้าที่ หรือสั่งให้ระงับหรือยับยั้งการดำเนินการเลือกตั้งในบางหน่วยหรือทุกหน่วยในเขตเลือกตั้งแต่ต้องรายงานกกต.ให้ทราบโดยเร็ว

4.กรรมการสรรหากกต.มีประธานศาลฎีกาเป็นประธาน โดยการสรรหาจะต้องมีการปรึกษาหารือกันในระหว่างกรรมการ ใช้วิธีลงคะแนนเปิดเผยและบันทึกเหตุผลของกรรมการสรรหาแต่ละคนเป็นหลักฐานไว้ด้วย ใช้เกณฑ์คะแนนเสียง 2 ใน 3 ถ้าไม่ได้ในสามรอบให้เปิดรับสมัครใหม่

เหตุผลที่ เซ็ตซีโร่ ตามข้อแถลงของกรธ.ยกเอาคำปรารภตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เพื่อแก้ไขปัญหาของประเทศชาติ และเพื่อให้เกิดการปฏิรูปการเมือง อำนาจหน้าที่ใหม่ของกกต.เพิ่มขึ้นมาก โครงสร้างและจำนวนของกกต.เปลี่ยนไป มีกกต.บางคนมีคุณสมบัติไม่ครบตามรัฐธรรมนูญใหม่ บางคนก็จวนจะหมดอายุลง และต้องสรรหากกต.ใหม่ให้ครบเจ็ดคน แม้จะมีผู้สงวนคำแปรญัตติและอภิปรายค้านในสภา แต่สุดท้ายก็ผ่านวาระ2-3 ไปเรียบร้อย รอให้สภาส่งร่างฉบับสมบูรณ์ที่ผ่านวาระสามไปให้กรธ.และกกต. ไม่ทราบว่ากกต.จะตีความไม่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ ถ้าไม่เห็นด้วยอาจจบลงที่ตั้งคกก.ร่วมสามฝ่าย
แต่คงไม่มีผลเปลี่ยนแปลงเพราะกกต.มีเพียงเสียงเดียว