ลงทุนอีสานล่างวูบ 78.8% ครึ่งปีขอบีโอไอ17โครงการ ‘โคราช’ ยังแชมป์

17 ก.ย. 2564 | 06:18 น.

“บีโอไอ” สรุปผลการลงทุนครึ่งแรกปี 2564 อีสานล่าง รับอนุมัติ 17 โครงการ มูลค่า 1,277 ล้านบาท ลด ลง 78.83% โคราชแชมป์ลงทุน 13 โครงการ มูลค่า 1,199 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนมาก เผยอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนมาแรง คาดครึ่งปีหลังยังไม่ฟื้นตัว เหตุโควิด-19 กระทบต่อความเชื่อมั่นนักลงทุน

นางสาวทยาภรณ์ สีสังข์ ผู้อำนวยการศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 2 (นครราชสีมา) หรือ “บีโอไอ โคราช” เปิดเผยว่า ภาพรวมการส่งเสริมการลงทุนใน 6 เดือนแรก (ม.ค.- มิ.ย.) ปี 2546 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ในพื้นที่รับผิดชอบ 8 จังหวัด ประกอบด้วย ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี และ ศรีสะเกษ ชะลอตัวลง
  นางสาวทยาภรณ์ สีสังข์ ผู้อำนวยการศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 2 (นครราชสีมา)    

โดยมีโครงการที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุน 17 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 1,277 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2563 ทั้งจำนวนโครงการและมูลค่าการลงทุน ซึ่งมีโครงการได้รับอนุมัติ 26 โครงการ ลดลง 34.6 % มูลค่าการลงทุน 6,032 ล้านบาท หรือลดลงถึง 78.83 %

และเมื่อเทียบกับการอนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนช่วงเดียวกันในภาพรวมทั้งประเทศ ที่มีจำนวนโครงการที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมลงทุน 801 โครงการ ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 2 % แต่มีมูลค่าเงินลงทุน 263,840 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 24%
    

เมื่อแยกเป็นรายพื้นที่ จังหวัดนครราชสีมามี 13 โครงการ มูลค่า 1,199 ล้านบาท เกิดการจ้างงานคนไทย 351 คน อุบลราชธานี 2 โครงการ มูลค่า 7 ล้านบาท เกิดการจ้างงาน 16 คน บุรีรัมย์ 1 โครงการ มูลค่า 59 ล้านบาท เกิดการจ้างงาน 13 คน และสุรินทร์ 1 โครงการ 12 ล้านบาท เกิดการจ้างงาน 1 คน

 

ลงทุนอีสานล่างวูบ 78.8% ครึ่งปีขอบีโอไอ17โครงการ ‘โคราช’ ยังแชมป์

ในขณะที่การกระจายสัดส่วนผู้ถือหุ้น พบว่าเป็นโครงการคนไทยถือหุ้นทั้งสิ้น 10 โครงการ คิดเป็น 59% ของจำนวนโครงการที่ได้รับ อนุมัติส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่อีสานตอนล่าง และมีเงินลงทุน 293 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 22% ของเงินลงทุนในพื้นที่อีสานตอนล่าง

ส่วนโครงการต่างชาติถือหุ้นทั้งสิ้น มี 5 โครงการ คิดเป็น 29% ด้านเงินลงทุน 278 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 22% ของเงินลงทุนในพื้นที่อีสานตอนล่าง ส่วนโครงการร่วมลงทุนไทยและต่างชาติ มี 2 โครงการ คิดเป็น 12% โดยมีเงินลงทุน 706 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 55% ของเงินลงทุนในพื้นที่อีสานตอนล่าง
    

สำหรับการอนุมัติส่งเสริมการลงทุนตามมาตรการพิเศษในพื้นที่ภาคอีสานตอนล่าง 8 จังหวัด แยกเป็นโครงการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนตามมาตรการพิเศษ
    

1) มาตรการส่งเสริมการลงทุนปรับปรุงประสิทธิภาพ

หกเดือนแรกปีนี้มีโครงการที่อนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุน 4 โครงการ เงินลงทุน 48 ล้านบาท เป็นโครงการที่ได้รับอนุมัติให้การส่งเสริม ตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพเพื่อใช้พลังงานทดแทนโดยการติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อผลิตไฟฟ้าไว้ใช้เองในโครงการ 1 โครงการ ในจังหวัดอุบลราชธานี

และตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพ ด้านปรับเปลี่ยนเครื่องจักรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการผลิต และการนำระบบอัตโนมัติ หรือหุ่นยนต์มาใช้ในการผลิต จำนวน 3โครงการ ในจังหวัดนครราชสีมา

2) มาตรการส่งเสริม SMEs

ครึ่งแรกปี 2564 มีโครงการที่อนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุน 2 โครงการเงินลงทุน 73 ล้านบาท อยู่ในจังหวัดนครราชสีมา 1 โครงการ เป็นกิจการผลิตเกลือบริสุทธิ์ และอยู่ในจังหวัดอุบลราชธานี 1 โครงการ เป็นกิจการผลิตเครื่องจักรอัตโนมัติ ที่มีขั้นตอนการออกแบบระบบอัตโนมัติ และ ระบบควบคุมการปฏิบัติงานด้วย สมองกลเอง


  ลงทุนอีสานล่างวูบ 78.8% ครึ่งปีขอบีโอไอ17โครงการ ‘โคราช’ ยังแชมป์    

ส่วนโครงการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่เป้าหมาย 20 จังหวัด ที่มีรายได้ต่อหัวตํ่า ซึ่งจะได้รับสิทธิและประโยชน์เพิ่มเติม เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายการกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาคของรัฐบาล โดยในพื้นที่อีสานตอนล่างมีโครงการที่อนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุน จำนวน 2 โครงการ เงินลงทุน 71 ล้านบาท

อยู่ในจังหวัดบุรีรัมย์ 1 โครงการเป็นกิจการการออกแบบทางอิเล็กทรอนิกส์และผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องจากการออกแบบทางอิเล็กทรอนิกส์ และอยู่ในจังหวัดสุรินทร์ 1 โครงการ เป็นกิจการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์
  

นางสาวทยาภรณ์ กล่าวในตอนท้ายว่า การส่งเสริมการลงทุนครึ่งปี 2564 ภาวะเศรษฐกิจยังคง ชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ตัวเลขการลงทุนลดลง แต่อย่างไรก็ตามมีกิจการที่ยังคงได้รับความสนใจที่นักลงทุนเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่อง คือกิจการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน ไม่ว่าจะเป็นกิจการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา กิจการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ เป็นต้น
    

ทั้งนี้ อาจเนื่องมาจากสำนักงานได้มีนโยบายปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต ส่งเสริมผู้ประกอบการทั้งเก่าและใหม่ ลงทุนต่อยอดกิจการที่มีอยู่เดิมแต่หมดสิทธิประโยชน์ไปแล้วโดยจะได้รับทั้งสิทธิประโยชน์ด้านเครื่องจักร และยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มเติม
    

สำหรับแนวโน้มการลงทุนในไตรมาส 3 คาดว่าภาวะเศรษฐกิจยังคงไม่ฟื้นตัว เนื่องจากประเทศไทยประสบกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ยังไม่คลี่คลาย ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน ที่ยังชะลอการลงทุนออกไปก่อน ประกอบกับประชาชนขาดรายได้ ส่งผลให้การจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศลดลง 

ฉัตรสุรางค์ กองภา/รายงาน

หน้า 10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 ฉบับที่ 3,715 วันที่ 19-22 กันยายน พ.ศ.2564