รีวิว Maserati Grecale น้องใหม่เอสยูวีตัวปั้นยอด

28 พ.ค. 2566 | 06:17 น.

รีวิว Maserati Grecale เอสยูวีน้องใหม่ ที่เปิดตัวในไทยตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว แบ่งเป็น 2 รุ่นย่อย คือ GT เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร ไมลด์ไฮบริด 48 โวลต์ ราคา 5.89 ล้านบาท และตัวแรง Trofeo ที่ใช้เครื่องยนต์ V6 เทอร์โบคู่ ราคา 8.89 ล้านบาท

รีวิว Maserati Grecale ผลิตที่โรงงาน Cassino ประเทศอิตาลี (ต่างจากมาเซราติรุ่นอื่นๆ ที่ผลิตในตูริน และโมเดนา) คู่แข่งตรงๆ ในไทยด้วยระดับการทำตลาดขุมพลัง และราคาจากการเป็นรถนำเข้าน่าจะเป็น Porsche Macan ซึ่งเอสยูวีจากเยอรมนี ที่ดูแลตลาดโดยเอเอเอส กรุ๊ป ไม่ได้เป็นรุ่นยอดนิยม เมื่อเทียบกับความคาดหวังว่านี่คือเบบี้เอสยูวีของปอร์เช่ และเป็นรุ่น Entry Level ที่ราคาเข้าถึงได้ง่ายที่สุด

รีวิว Maserati Grecale GT รีวิว Maserati Grecale GT

ทว่าการมาของ Maserati Grecale หลังจากผมได้ลองขับสัมผัสนั่ง กลับพบว่า ถ้ามาแบบนี้ราคานี้ ขายได้แน่ เพราะสู้กับเอสยูวีแบรนด์เยอรมนีได้สบาย แต่จะกลายเป็นว่าอาจจะกระทบการขายของ Ghibli ที่ระดับราคาใกล้เคียงกัน หรือลูกค้าบางส่วนไม่ต้องปีนไปถึง Levante ที่ราคาโดดไปถึง 8 ล้านบาท (คู่แข่ง Porsche Cayenne)

 

ก่อนการ รีวิว Maserati Grecale เห็นว่ามียอดจองเข้ามาพอสมควร (หลักสิบคัน) และเริ่มส่งมอบรุ่น GT (เป็นรุ่นที่ได้ลองขับ) ให้แก่ลูกค้าชาวไทยตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา จุดเด่นอยู่ที่ความทันสมัย การออกแบบสไตล์ลุ่มลึกของอิตาลี พร้อมความอเนกประสงค์พอ สมควร ทั้งการที่เป็นรถยกสูง มีพื้นที่นั่งด้านหลังและที่เก็บสัมภาระพอสมควร ซึ่งการเข้าไปนั่งจริงๆ ไม่ได้รู้สึกว่าเล็กกว่ารุ่นพี่ Levante มากมายนัก (ระยะฐานล้อต่างกัน 10 ซม.)

 

ภายในสวยเลอค่า คันเกียร์กระปุกไม่มี เกียร์มือหลังพวงมาลัยเลิกใช้ แต่ให้ไปกดปุ่ม P R N D ตรงคอนโซลหน้าแทน พร้อมคงเอกลักษณ์ด้วยแพดเดิลชิฟท์เปลี่ยนเกียร์ขนาดใหญ่ ขณะเดียวกันบนพวงมาลัยยังมีปุ่มหมุนเลือกโหมดการขับขี่ Comfort, GT, Sport และ Off-road ฝั่งขวามือ ส่วนปุ่มกลมๆ ด้านซ้ายจะเป็นการสตาร์ท-ดับเครื่องยนต์

เบาะหนังแท้ แต้มแต่งด้วยลายไม้แท้ และคาร์บอนไฟเบอร์ หน้าปัดหลังพวงมาลัยแบบ TFT ขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว บวกจอทัชสกรีนแบบคู่อยู่ตรงกลางแดชบอร์ด โดยจอบนขนาด 12.3 นิ้ว และจอล่างขนาด 8.8 นิ้ว พร้อมเครื่องเสียง Sonus Faber จากอิตาลี

รีวิว Maserati Grecale GT

การนั่งเป็นผู้ขับ รู้สึกว่าทุกอย่างฟิตพอดีตัวไปหมดหรือออกแนวแน่นๆ หน่อย แต่ปุ่มสั่งงานและหน้าจอที่กล่าวมาทั้งหมด ช่วยให้เราปรับตัวได้ง่าย เรียนรู้ระบบต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว


ด้านสมรรถนะการขับขี่เหลือกินเหลือใช้ จากเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบ ไมลด์ไฮบริด 48 โวลต์ ให้กำลังสูงสุด 300 แรงม้า ที่ 5,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร มาในรอบตํ่า 2,000 และกว้างไปถึง 5,000 รอบต่อนาที ทำให้การเข่นพละกำลังมาแบบรวดเร็วตามแรงกดของฝ่าเท้า

 

ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์คลัตช์คู่ 8 สปีด อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 5.6 วินาที (ถ้ารุ่น Trofeo 3.8 วินาที) พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ที่การออกตัวจะส่งกำลังไปล้อหน้า/หลังในสัด ส่วน 40:60 จากนั้นแปรผันตามสภาพการขับขี่ และกรณีขับนิ่งๆ ทางตรงยาวๆ สามารถส่งกำลังไปล้อหลังได้ 100% เพื่อลดอัตราบริโภคนํ้ามัน

 

แม้ Maserati Grecale GT จะไม่ได้ใช้โช้คถุงลม ซึ่งเป็นออพชันจ่ายเงินเพิ่มประมาณ 5 แสนบาท (รุ่น Trofeo จะติดตั้งมาเป็นมาตรฐาน) แต่ตัวรถทรงตัวดี ช่วงล่างนุ่มหนึบ พวงมาลัยค่อนข้างมีนํ้าหนักตามสไตล์มาเซราติ พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ยังช่วยให้การขับขี่แน่นกระชับ และแน่นอนว่าคุณสามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ ที่จะปรับการตอบสนองของระบบขับเคลื่อน และเสียงท่อไอเสียเพิ่มความเร้าใจ (แต่ไม่ได้ปรับช่วงล่าง)

รีวิว Maserati Grecale GT

ด้านอัตราบริโภคนํ้ามันเฉลี่ย 12 กม./ลิตร ส่วนรุ่น EV ของ Maserati Grecale มีแผนเปิดตัวในไทยปี 2567 พร้อมๆ กับตัว แกรนทัวริสโม

 

รวบรัดตัดความ...Maserati Grecale GT รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร ไมลด์ไฮบริด น่าจะเข้ามาเป็นตัวขายหลักของ มาเซราติ ประเทศไทยนับจากนี้ไป ด้วยสมรรถนะการขับขี่ที่เฉียบคม รองรับการใช้งานได้หลากหลาย สามารถใช้งานได้ในชีวิตประจำวัน (ทุกวัน)

 

รีวิว Maserati Grecale : กรกิต กสิคุณ

รีวิว Maserati Grecale GT