จับตาปี 2566 ตลาดรถยนต์มือสองขยายตัว บูมแพลตฟอร์มออนไลน์
ตลาดรถยนต์มือสอง ปี 2566 ยังมีแนวโน้มสดใส จากรถใหม่ป้ายแดงผลิตไม่ทัน แถมยังปรับราคาขึ้น ขณะที่ผู้ประกอบการพัฒนาสู่แพลตฟอร์มออนไลน์ ช่วยกระตุ้นการซื้อ-ขาย คาดขยายตัวดีกว่า ปี 2565 ที่มีตัวเลขระดับ 6-7 แสนคัน
ในช่วงที่อุตสาหกรรมยานยนต์ได้รับผลกระทบ จากการขาดแคลนชิ้นส่วนเพื่อการผลิต รถใหม่ส่งมอบไม่ทันต่อความต้องการของลูกค้า ดังนั้นผู้คนที่จำเป็นต้องใช้รถในชีวิตประจำวัน หรือนำไปทำธุรกิจแบบรอไม่ได้ ต่างหันมาเลือกซื้อรถมือสองทดแทน ขณะเดียวกัน การเติบโตของแพลตฟอร์มซื้อ-ขายรถมือสอง ต่างผุดขึ้นเป็น ดอกเห็ด และโหมโปรโมทกันอย่างบ้าคลั่ง ไม่รวมการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการดั้งเดิมที่เริ่มปรับตัว ล้วนสนับสนุนให้ธุรกิจรถมือสองมีความเปลี่ยนแปลง พร้อมกำหนดเป็นมาตรฐานใหม่
โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ว่า ยอดขายรถยนต์มือสองในปี 2565 จะขยายตัวระดับ 3-5% หรือคิดเป็นยอดขายประมาณ 6-7 แสนคัน
ในปี 2566 สถานการณ์การส่งมอบรถใหม่หลายรุ่นยังมีข้อจำกัด บวกกับราคารถใหม่ขยับตัวขึ้น ถือเป็นโอกาสดีของตลาดรถมือสอง (ทั้งคนซื้อคนขาย) เช่นเดียวกับกฎหมายใหม่ที่ควบคุมสัญญาธุรกิจเช่าซื้อรถ แม้หลายฝ่ายมองว่าสถาบันการเงินจะปล่อยสินเชื่ออยากขึ้น แต่ถ้ามองในภาพรวมอาจจะเป็นผลดีกับระบบเศรษฐกิจ (ควบคุมหนี้ครัวเรือน และลดหนี้เสีย) และเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภค
นายภิญโญ ธนวัชรภรณ์ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว เปิดเผยว่า กฎหมายใหม่นี้มีผลกระทบ น้อยมากกับตลาดรถยนต์มือสอง เพราะโดยปกติผู้ประกอบการจะปล่อยอัตราดอกเบี้ยตํ่ากว่าเพดานใหม่ที่กำหนดนี้อยู่แล้ว แต่อาจจะยกเว้นรถยนต์เก่ามากๆ หรืออายุเกิน 15 ปี อาจจะได้ระบผลกระทบบ้าง
“ตลาดรถยนต์ใหม่ และรถมือสองปีใหม่ๆ ไม่ได้รับผลกระทบจากการกำหนดอัตราดอกเบี้ยค่าเช่าซื้อในครั้งนี้ ดังนั้นใครที่อยากได้รถปีนี้ ก็ให้ ซื้อได้เลยเพราะปัจจุบันแต่ละไฟแนนซ์มีการแข่งขันกันสูง พร้อมกดอัตราดอกเบี้ยตํ่า แต่ถ้าขยับไปเป็นปี 2566 โดยพิจารณาจากสถานการณ์ต่างๆ เชื่อว่ามีแนวโน้มที่สถาบันการเงินจะปรับอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้น” นายภิญโญ กล่าว
นายศิวภูมิ เลิศสรรค์ศรัญย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คาร์ซัม (ประเทศไทย) จำกัด แพลตฟอร์มซื้อขายรถยนต์มือสองรายใหญ่ เปิดเผยว่า ตลาดรถยนต์มือสองออนไลน์จะยังคงเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในปี 2566 ซึ่งเห็นได้ชัดจากยอดการทำธุรกรรมซื้อรถยนต์มือสองผ่านช่อง ทางออนไลน์ที่เพิ่มสูงขึ้น โดย 1 ใน 3 ของลูกค้า CARSOME โดยเฉพาะลูกค้าที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด เลือกทำธุรกรรมซื้อรถยนต์ผ่านช่องทางออนไลน์แบบ 100%
“เรามองเห็นโอกาสการเติบโตของอุตสาหกรรมรถยนต์มือสองอย่างต่อเนื่อง และคาดการณ์ว่าจะได้เห็นแนวโน้มเดียวกันนี้ในปีถัดๆ ไป โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัดปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อรถยนต์มือสองมาเป็นการทำธุรกรรมทางออนไลน์ โดยไม่ต้องการมาทดลอง ขับหรือตรวจสอบสภาพรถยนต์จริงก่อนซื้อ” นายศิวภูมิ กล่าว
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย วิเคราะห์ว่า ตลาดรถมือสองกลับมาคึกคักจากที่คนยังมีความจำเป็นที่จะต้องใช้รถ และด้วยเศรษฐกิจในปัจจุบัน ตัวเลือกที่เป็นรถมือสองราคาจะจับต้องได้มากกว่า
ขณะเดียวกัน พฤติกรรมของผู้บริโภคเกี่ยวกับการหาข้อมูล และซื้อรถมือสองได้เปลี่ยนแปลงไปจากในอดีต โดยผู้บริโภคมีความมั่นใจสูงขึ้นในการเลือกซื้อรถยนต์มือสองผ่านช่องทางออนไลน์ หรือโซเชียลมีเดียต่างๆ ซึ่งในอดีตการที่จะหาซื้อรถมือสอง ต้องไปตามเต็นท์รถหรือจากการแนะนำบอกต่อ
ดังนั้น อุตสาหกรรมรถยนต์มือสอง จึงจำเป็นต้องสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด