คาร์โร เปิดตัวบริการตรวจสภาพรถก่อนขายทุก 7 วัน

02 ต.ค. 2565 | 10:28 น.

คาร์โร เดินหน้าลุยตลาดรถยนต์มือสอง เปิดบริการตรวจสภาพรถก่อนขาย Pre-Delivery Inspection: PDI ทุก 7 วัน พร้อมเผยผลประกอบการปี 2021-2022 เติบโตสองเท่า

คาร์โร ผู้ให้บริการซื้อ-ขายรถยนต์มือสองบนแพลตฟอร์มออนไลน์ กางแผนตลาดครึ่งปีหลัง ล่าสุด นางสาว วรรษิตรี รุ่งเรืองเนาวรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท คาร์โร (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ได้เปิดตัวบริการตรวจสภาพรถยนต์ก่อนขายแบบละเอียด หรือ Pre-Delivery Inspection (PDI) กับรถทุกคันทุก 7 วัน ทั้งรถที่อยู่ภายในออโตมอลล์และคลังที่จอดรถของคาร์โรโดยทีมผู้เชี่ยวชาญ

 

คาร์โร เปิดตัวบริการตรวจสภาพรถก่อนขายทุก 7 วัน

“บริการตรวจสภาพรถก่อนขายแบบละเอียดทุก 7 วันถือเป็นการปฏิวัติวงการซื้อขายรถยนต์มือสองเนื่องจากปกติแล้วผู้ขายรถยนต์จะให้บริการตรวจสภาพรถในมาตรฐานนี้เฉพาะเวลาก่อนส่งมอบรถยนต์ให้กับผู้ซื้อเท่านั้น แต่คาร์โรอยากสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าจึงเพิ่มบริการในส่วนนี้ขึ้น โดยคาร์โรได้ทดลองระบบให้พร้อมเป็นเวลา 3 เดือนและเริ่มดำเนินการตรวจสภาพรถยนต์ก่อนขายแบบละเอียด (PDI) ตั้งแต่เดือนกันยายนนี้เป็นต้นไป"
 

คาร์โร เปิดตัวบริการตรวจสภาพรถก่อนขายทุก 7 วัน

สำหรับการตรวจสภาพรถก่อนขายแบบละเอียด หรือ Pre-Delivery Inspection (PDI) ทุก 7 วันนั้น มีมาตรฐานและระบบจัดการเพื่อเป็นการตรวจสภาพรถโดยทีมผู้เชี่ยวชาญที่อ้างอิงจากการตรวจมาตรฐาน 160 จุด ครอบคลุมตั้งแต่ระบบเครื่องยนต์ ระบบเกียร์ ระบบไฟฟ้า สภาพช่วงล่างและยาง เป็นต้น 

 

ทั้งการตรวจระดับพื้นฐาน 9 รายการ การตรวจภายนอกระดับพื้นฐาน 26 รายการ การตรวจภายในห้องโดยสาร 32 รายการ การตรวจช่วงล่างและใต้ท้องรถ 4 รายการ และการตรวจด้านความสะอาดตามมาตรฐานทั้งภายนอกและภายในรถอีก 31 รายการ 

 

"คาร์โรยังทำการสุ่มตรวจผลการตรวจสภาพรถทุก2 สัปดาห์ เพื่อให้มั่นใจได้ว่ารถทุกคันของคาร์โรจะอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์พร้อมให้ลูกค้าของคาร์โรขับขี่ได้อย่างไร้ปัญหาในทันทีที่รับรถ"
 

นางสาว วรรษิตรี รุ่งเรืองเนาวรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท คาร์โร (ประเทศไทย) จำกัด

 

นอกเหนือจากแผนการตลาดที่เตรียมไว้ นาย อรรณพ เกษตระทัต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คาร์โร (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า คาร์โร ประเทศไทยมีการพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการขยายศูนย์บริการลูกค้า (Carro Customer Experience Center) และ คาร์โร ออโตมอลล์ (Carro Automall) ไปยังต่างจังหวัด 

 

ในปีนี้ บริษัทฯ ได้เปิดออโตมอลล์เพิ่มอีกหนึ่งสาขา คือ คาร์โร ออโตมอลล์ สาขาชลบุรี(บางแสน) ปัจจุบัน คาร์โรมีศูนย์บริการลูกค้า คาร์โร ออโตมอลล์ และคลังจัดเก็บรถยนต์มือสองขนาดใหญ่รวมกว่า 11 แห่งทั่วประเทศ โดยคาร์โรวางแผนขยายสาขาให้ครอบคลุมทุกจุดยุทธศาสตร์ ครอบคลุมพื้นที่ที่สำคัญของตลาดรถยนต์มือสองทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑลและหัวเมืองใหญ่สำคัญของประเทศไทย

 

 

นาย อรรณพ เกษตระทัต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คาร์โร (ประเทศไทย) จำกัด
สำหรับคาร์โร ดำเนินกิจการใน 4 ประเทศได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และไทย ในช่วงที่ผ่านมา ผลประกอบการเติบโต โดยนายแอรอน แทน ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทคาร์โร เปิดเผยว่า ธุรกิจของคาร์โรในตลาดทั้ง 4 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และไทย มีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง โดยประเทศไทยสร้างการซื้อ-ขายกว่า 35,000 คันต่อปี ขณะที่อินโดนีเซียมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ต่อปีกว่า 28.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ 

 

บริษัทฯ คาดการณ์รายได้จากธุรกิจค้าปลีกออนไลน์และธุรกิจเสริมของทั้งกลุ่มจะเพิ่มขึ้นเป็น 357.2 ล้านดอลลาร์ ในปีงบการเงิน ปี 2023 นี้ หรือระหว่างเดือนเมษายน ปี 2022 ถึงเดือนมีนาคม ปี 2023 นี้

 

“ผลประกอบการที่ดีเป็นผลมากจากการโฟกัสการขายปลีกผ่านช่องทางออนไลน์และการนำเทคโนโลยี Machine Learning เข้ามาใช้ นอกจากนี้Genie Financial Services บริษัทด้านบริการและเทคโนโลยีการเงิน (Fintech) ในเครือ ยังมีอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-performing loan) ในระดับต่ำมากที่ 0.1% และมีอัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Return on Equity: ROE) สูงมาก ประมาณ 30% ขณะที่มีมูลค่าสินเชื่อคงค้างเพิ่มขึ้นเป็น 285.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น  2 เท่าจากปีที่ผ่านมา” 

 

อนึ่งการระดมทุนตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา คาร์โรได้รับเงินทุนรวมทั้งหมดประมาณ 142.9ล้านเหรียญสหรัฐฯ จาก 9 สถาบันการเงิน ล่าสุดคาร์โรได้ขยายธุรกิจเปิดสาขาไปยังประเทศไต้หวันและญี่ปุ่นอีกด้วย