หลังจากโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย นำไฮลักซ์ รีโว่ หัวเดี่ยวมาใส่แบตเตอรี่ ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้า ตีคอกหลังคาทำเป็นสองแถววิ่งเก็บข้อมูลแถวพัทยา เมื่อสองปีก่อน และเป็นนัยว่าโฉมใหม่ของปิกอัพไฮลักซ์ จะมีขุมพลังอีวีทำตลาดแน่นอน
จนกระทั่งเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โตโยต้าไฮลักซ์ ทราโว่ (Toyota Hilux travo) ที่เปิดตัวรวม 17 รุ่นย่อย นอกเหนือจากรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 1GD 2.8 ลิตรแล้ว ปิกอัพพลังงานไฟฟ้า 100% ก็มาตามนัดจริงๆ
จากรีโว่ ซิงเกิ้ลแค็บ มอเตอร์เดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลัง แต่พอเป็นรุ่นใหม่ขายจริงจัง Toyota Hilux travo e มากับตัวถังดับเบิลแค็บ มอเตอร์คู่ ขับเคลื่อนสี่ล้อ
รีวิว Toyota Hilux travo e ผลิตที่โรงงานโตโยต้า บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ราคา 1,491,000 บาท ตั้งเป้าการผลิต 5,000 คันต่อปี ในจำนวนนี้จะขายในประเทศแค่ 500 คัน ที่เหลือส่งออก
จากยอดผลิตที่ตั้งไว้ กับราคาขายเกือบ 1.5 ล้านบาท โตโยต้าเขาไม่ได้หวังขายในไทยเยอะครับ แต่เป็นภารกิจที่ต้องทำให้สอดคล้องกับกฎระเบียบโลกใหม่ ที่มุ่งไปทาง Net Zero และ Carbon Neutral การสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอน ที่แต่ละองค์กรจำเป็นต้องใส่ใจกับสภาพแวดล้อม ลดการใช้พลังงาน ลดการปล่อยก๊าซ CO2 ในทุกกระบวนการดำเนินธุรกิจ
ปิกอัพแบบบอดี้ออนเฟรม ที่ถอดเครื่องยนต์ ชุดเกียร์ และเพลากลางออกไป แล้วยัดชุดแพกแบตเตอรี่แรงดันสูงแทรกเข้าไปในแชสซีส์ แถมต้องมีเคส มีวัสดุปกป้องอีกหลายชั้น (ผ่านมาตรฐาน IP67 แช่น้ำได้ 1 เมตร ไม่เกิน 30 นาที) เฉพาะแบตเตอรี่ NMC ความจุ 59.2 kWh อย่างเดียวน้ำหนัก 521 กิโลกรัมเข้าไปแล้ว ส่งผลให้ตัวรถมีน้ำหนักรวม 2.4 ตันกว่าๆ
ผมมีโอกาสได้ลองขับ Toyota Hilux Travo e จากกรุงเทพไป จ.ชลบุรี ต้องยอมรับว่า ความคาดหวังจากองค์ประกอบโดยรวมของการเป็นรถยนต์ไฟฟ้า และสมรรถนะการขับขี่ ไม่ได้โดดเด่นเมื่อเทียบกับค่าตัวเกือบ 1.5 ล้านบาท
ปิกอัพขับเคลื่อนสี่ล้อตลอดเวลา จากมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว กำลังรวม 196 แรงม้า โดยพลังจะส่งไปที่เพลาหลัง มากกว่าด้านหน้า ซึ่งการขับขี่ทั่วไปอัตราส่วนจะอยู่ที่ 60:40 (หลัง:หน้า) และแปรผันตามสภาพการขับที่ อาจจะเป็น 50:50 หรือ 70:30 ได้ครับ
มอเตอร์ไฟฟ้าด้านหลังให้แรงบิดสูงสุด 269 นิวตันเมตร ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าหน้า 205 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ประมาณ 10 วินาที ล็อกความเร็วสูงสุดไว้ 140 กม./ชม.
Toyota Hilux Travo e ยึดแชสซีส์เดิมเป็นพื้นฐาน แต่นำมาต่อยอดใหม่ ทั้งเพิ่มคานขวาง ปรับปรุงจุดยึดช่วงล่าง ค่าสปริงแข็งกว่าไฮลักซ์ ทราโว่ เครื่องยนต์ดีเซล เช่นเดียวกับแหนบ 4 ชั้นใต้เพลา ที่ยาวและหนากว่า
โตโยต้า ย้ำว่าเซ็ตรถมาเผื่อการบรรทุก ดังนั้นเราจะรับรู้แรงสะเทือนจากพื้นถนน สัมผัสอาการดีดเด้งได้มากกว่าไฮลักซ์ ทราโว่ รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ แต่ก็ยังดีที่ได้พวงมาลัยผ่อนแรงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า EPS มาช่วยลดการสะท้าน และให้การควบคุมรถง่ายขึ้น
รถคันที่ผมทดสอบ เห็นข้อมูลตอนแบตเตอรี่เต็ม 100% แสดงผลว่า Toyota Hilux Travo e จะวิ่งได้ระยะทาง 189 กม. (ข้อมูล Eco Sticker ตามมาตรฐาน NEDC วิ่งได้ระยะทาง 315 กม.)
ส่วนอัตราบริโภคพลังงานระหว่างการขับขี่บนมอเตอร์เวย์ M7 ตัวรถคำนวณว่า 1 kWh วิ่งได้ระยะทาง 4 กม. (ใช้ความเร็วตามกฎหมายกำหนด) ถ้าเอา 4 คูณ ความจุแบตเตอรี่ 59 kWh ก็จะได้ระยะทางเกือบๆ 240 กม.จากการชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้ง ซึ่งถือว่าน้อยไปนิด
รวบรัดตัความ… รีวิว Toyota Hilux Travo e สมรรถนะรวมๆไม่ถึงกับโดดเด่น อัตราเร่งไม่จัดจ้านมาก ช่วงล่างหนึบแข็ง ความเร็วปลายขับสบาย ถือเป็นปิกอัพเฉพาะกิจ ทำมาขายลูกค้าเฉพาะกลุ่มจริงๆ และสะท้อนวิสัยทัศน์มัลติพาร์ทเวย์ของโตโยต้า พร้อมรองรับกฎระเบียบโลกใหม่คือ “ความเป็นกลางทางคาร์บอน” ขณะเดียวกันยังต้องผลิตเพื่อชดเชยกับการนำเข้า bZ4X มาจากญี่ปุ่นตามโครงการ EV3.5 เรียกว่า ปิกอัพพลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นนี้ ยอดขายอาจจะไม่เยอะครับ แต่เกิดมาเพื่อทำภารกิจที่ยิ่งใหญ่
รีวิว Toyota Hilux Travo e : กรกิต กสิคุณ