รีวิว Toyota Hilux Travo e ปิกอัพไฟฟ้าเฉพาะกิจ เพื่อลูกค้าเฉพาะกลุ่ม

20 ธ.ค. 2568 | 04:06 น.
อัปเดตล่าสุด :20 ธ.ค. 2568 | 06:18 น.

รีวิว Toyota Hilux travo e รถปิกอัพไฟฟ้า EV ผลิตที่โรงงานโตโยต้า บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ราคา 1,491,000 บาท มากับตัวถังดับเบิลแค็บ มอเตอร์คู่ ขับเคลื่อนสี่ล้อ

หลังจากโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย นำไฮลักซ์ รีโว่ หัวเดี่ยวมาใส่แบตเตอรี่ ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้า ตีคอกหลังคาทำเป็นสองแถววิ่งเก็บข้อมูลแถวพัทยา เมื่อสองปีก่อน และเป็นนัยว่าโฉมใหม่ของปิกอัพไฮลักซ์ จะมีขุมพลังอีวีทำตลาดแน่นอน

จนกระทั่งเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โตโยต้าไฮลักซ์ ทราโว่ (Toyota Hilux travo) ที่เปิดตัวรวม 17 รุ่นย่อย นอกเหนือจากรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 1GD 2.8 ลิตรแล้ว ปิกอัพพลังงานไฟฟ้า 100% ก็มาตามนัดจริงๆ

จากรีโว่ ซิงเกิ้ลแค็บ มอเตอร์เดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลัง แต่พอเป็นรุ่นใหม่ขายจริงจัง Toyota Hilux travo e มากับตัวถังดับเบิลแค็บ มอเตอร์คู่ ขับเคลื่อนสี่ล้อ

รีวิว Toyota Hilux travo e ผลิตที่โรงงานโตโยต้า บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ราคา 1,491,000 บาท ตั้งเป้าการผลิต 5,000 คันต่อปี ในจำนวนนี้จะขายในประเทศแค่ 500 คัน ที่เหลือส่งออก

รีวิว Toyota Hilux Travo e รีวิว Toyota Hilux Travo e

จากยอดผลิตที่ตั้งไว้ กับราคาขายเกือบ 1.5 ล้านบาท โตโยต้าเขาไม่ได้หวังขายในไทยเยอะครับ แต่เป็นภารกิจที่ต้องทำให้สอดคล้องกับกฎระเบียบโลกใหม่ ที่มุ่งไปทาง Net Zero  และ Carbon Neutral การสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอน ที่แต่ละองค์กรจำเป็นต้องใส่ใจกับสภาพแวดล้อม ลดการใช้พลังงาน ลดการปล่อยก๊าซ CO2 ในทุกกระบวนการดำเนินธุรกิจ

ปิกอัพแบบบอดี้ออนเฟรม ที่ถอดเครื่องยนต์ ชุดเกียร์ และเพลากลางออกไป แล้วยัดชุดแพกแบตเตอรี่แรงดันสูงแทรกเข้าไปในแชสซีส์ แถมต้องมีเคส มีวัสดุปกป้องอีกหลายชั้น (ผ่านมาตรฐาน IP67 แช่น้ำได้ 1 เมตร ไม่เกิน 30 นาที) เฉพาะแบตเตอรี่ NMC ความจุ 59.2 kWh อย่างเดียวน้ำหนัก 521 กิโลกรัมเข้าไปแล้ว ส่งผลให้ตัวรถมีน้ำหนักรวม 2.4 ตันกว่าๆ

ผมมีโอกาสได้ลองขับ Toyota Hilux Travo e จากกรุงเทพไป จ.ชลบุรี ต้องยอมรับว่า ความคาดหวังจากองค์ประกอบโดยรวมของการเป็นรถยนต์ไฟฟ้า และสมรรถนะการขับขี่ ไม่ได้โดดเด่นเมื่อเทียบกับค่าตัวเกือบ 1.5 ล้านบาท

รีวิว Toyota Hilux Travo e

ปิกอัพขับเคลื่อนสี่ล้อตลอดเวลา จากมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว กำลังรวม 196 แรงม้า โดยพลังจะส่งไปที่เพลาหลัง มากกว่าด้านหน้า ซึ่งการขับขี่ทั่วไปอัตราส่วนจะอยู่ที่ 60:40 (หลัง:หน้า) และแปรผันตามสภาพการขับที่ อาจจะเป็น 50:50 หรือ 70:30 ได้ครับ

มอเตอร์ไฟฟ้าด้านหลังให้แรงบิดสูงสุด 269 นิวตันเมตร ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าหน้า 205 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ประมาณ 10 วินาที ล็อกความเร็วสูงสุดไว้ 140 กม./ชม.

Toyota Hilux Travo e ยึดแชสซีส์เดิมเป็นพื้นฐาน แต่นำมาต่อยอดใหม่ ทั้งเพิ่มคานขวาง ปรับปรุงจุดยึดช่วงล่าง ค่าสปริงแข็งกว่าไฮลักซ์ ทราโว่ เครื่องยนต์ดีเซล เช่นเดียวกับแหนบ 4 ชั้นใต้เพลา ที่ยาวและหนากว่า

โตโยต้า ย้ำว่าเซ็ตรถมาเผื่อการบรรทุก ดังนั้นเราจะรับรู้แรงสะเทือนจากพื้นถนน สัมผัสอาการดีดเด้งได้มากกว่าไฮลักซ์ ทราโว่ รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ แต่ก็ยังดีที่ได้พวงมาลัยผ่อนแรงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า EPS มาช่วยลดการสะท้าน และให้การควบคุมรถง่ายขึ้น

รถคันที่ผมทดสอบ เห็นข้อมูลตอนแบตเตอรี่เต็ม 100% แสดงผลว่า Toyota Hilux Travo e จะวิ่งได้ระยะทาง 189 กม. (ข้อมูล Eco Sticker ตามมาตรฐาน NEDC วิ่งได้ระยะทาง 315 กม.)

ส่วนอัตราบริโภคพลังงานระหว่างการขับขี่บนมอเตอร์เวย์ M7 ตัวรถคำนวณว่า 1 kWh วิ่งได้ระยะทาง 4 กม. (ใช้ความเร็วตามกฎหมายกำหนด) ถ้าเอา 4 คูณ ความจุแบตเตอรี่ 59 kWh ก็จะได้ระยะทางเกือบๆ 240 กม.จากการชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้ง ซึ่งถือว่าน้อยไปนิด

รีวิว Toyota Hilux Travo e

รวบรัดตัความ… รีวิว Toyota Hilux Travo e สมรรถนะรวมๆไม่ถึงกับโดดเด่น อัตราเร่งไม่จัดจ้านมาก ช่วงล่างหนึบแข็ง ความเร็วปลายขับสบาย ถือเป็นปิกอัพเฉพาะกิจ ทำมาขายลูกค้าเฉพาะกลุ่มจริงๆ และสะท้อนวิสัยทัศน์มัลติพาร์ทเวย์ของโตโยต้า พร้อมรองรับกฎระเบียบโลกใหม่คือ “ความเป็นกลางทางคาร์บอน” ขณะเดียวกันยังต้องผลิตเพื่อชดเชยกับการนำเข้า bZ4X มาจากญี่ปุ่นตามโครงการ EV3.5 เรียกว่า ปิกอัพพลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นนี้ ยอดขายอาจจะไม่เยอะครับ แต่เกิดมาเพื่อทำภารกิจที่ยิ่งใหญ่

รีวิว Toyota Hilux Travo e : กรกิต กสิคุณ