‘บ๊อช’มั่นใจอุตฯยานยนต์ไทย เดินหน้าลงทุนชิ้นส่วนต่อเนื่อง

23 มิ.ย. 2559 | 09:00 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

บ๊อช ยักษ์ชิ้นส่วน เชื่อมั่นอุตฯยานยนต์ไทยเติบโต เตรียมตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาแห่งแรกของบ๊อชในเมืองไทย พร้อมทุ่มกว่า 1,000 ล้านสร้างโรงงานผลิตระบบหัวฉีดเชื้อเพลิงป้อนตลาดทั้งในและต่างประเทศ คาดแล้วเสร็จกลางปี 60

นายโจเซฟ ฮง กรรมการผู้จัดการบ๊อช ประเทศไทย ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์รายใหญ่ เปิดเผยว่า ประเทศไทยยังคงเป็นตลาดที่สำคัญสำหรับบ๊อช โดยบริษัทคาดการณ์ว่าความต้องการผลิตภัณฑ์และการบริการต่างๆ จากบ๊อชจะเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายต่างๆ ของรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงโครงการพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐานต่างๆ

จากแนวโน้มดังกล่าวทำให้บริษัทประกาศแผนงานก่อสร้างโรงงานผลิตระบบหัวฉีดเชื้อเพลิง (gasoline injection system) ซึ่งถือเป็นแห่งแรกในไทยและในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยใช้เม็ดเงินลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 26 ล้านยูโร ปัจจุบันบ๊อชมีโรงงานผลิตระบบหัวฉีดเชื้อเพลิง 7 แห่งทั่วโลก โดยมี 3 แห่งตั้งอยู่ในทวีปเอเชีย ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น และไทย สำหรับโรงงานแห่งใหม่นี้เมื่อแล้วเสร็จจะช่วยให้บริษัทผลิตหัวฉีดเชื้อเพลิงได้ถึง 1 ล้านเครื่องต่อปี โดยจะเริ่มการผลิตได้ในช่วงกลางปี 2560

"ปัจจุบันบ๊อชมีพนักงานในประเทศไทยกว่า 1,100 พันคน เพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพราะเรามีการขยายธุรกิจออกไปอีก โดยเราประเมินว่าการพัฒนาธุรกิจครั้งนี้ จะสร้างงานได้มากกว่า 800 ตำแหน่งภายในสิ้นปีหน้า ไม่เพียงเท่านั้นโรงงานแห่งใหม่นี้จะช่วยตอบสนองอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นของลูกค้าในภูมิภาคนี้ และจะช่วยสร้างอาชีพให้กับคนไทยอีกด้วย"

นอกจากการก่อสร้างโรงงานผลิตระบบหัวฉีดเชื้อเพลิงแห่งแรกในไทยแล้ว บ๊อชยังได้วางแผนจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาในไทย ทั้งนี้เพื่อพัฒนาและส่งเสริมธุรกิจด้านยานยนต์และโมบิลิตีโซลูชันของบริษัทให้รุดหน้า

"บ๊อชเชื่อมั่นในภาพรวมของตลาดไทยว่าจะยังเป็นศูนย์กลางด้านยานยนต์ต่อไป ดังนั้นเราจึงมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องทั้งโรงงานผลิตหัวฉีดเชื้อเพลิงและศูนย์วิจัยและพัฒนาแห่งแรกของบ๊อชในไทย ซึ่งศูนย์ดังกล่าว จะดึงเอาวิศวกรที่มีความสามารถจากหลากหลายแขนง โดยเฉพาะสาขาวิศวกรรมยานยนต์และเครื่องกลให้เข้ามาร่วมงานกับเรา จากแผนงานลงทุนและพัฒนาดังกล่าวจึงถือเป็นการตอกย้ำถึงความสำคัญของประเทศไทยต่อกลุ่มบริษัทบ๊อชฯ"

นายฮง กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้านผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา สามารถปิดงบการเงินปี 2558 ด้วยยอดขายรวมในประเทศไทยมูลค่า 1.08 หมื่นล้านบาท หรือ 285 ล้านยูโร คิดเป็นอัตราการเติบโต 22% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดย ผลผลิตจากภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในปี 2558 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เป็นผลมาจากการเติบโตของตลาดส่งออก แม้ว่ายอดขายในประเทศจะลดลงก็ตาม

อย่างไรก็ดี ธุรกิจโซลูชันแห่งการขับเคลื่อน (Mobility Solutions) ของบ๊อชในไทยมียอดขายเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยส่วนใหญ่มาจากยอดขายของแผนกระบบแชสซีส์ (Chassis Systems) ขณะที่ธุรกิจเทคโนโลยีอุตสาหกรรมมีการขยายงานด้านระบบไฮดรอลิกและโซลูชันบรรจุภัณฑ์สำหรับอุตสาหกรรมในปี 2558 ทำให้คาดว่าจะมีแนวโน้มของผลการดำเนินงานในทางบวกในปีนี้ ส่วนยอดขายจากกลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในประเทศในปีที่ผ่านมา แต่กลุ่มธุรกิจด้านพลังงานและเทคโนโลยีการก่อสร้างของบริษัทมีทิศทางที่ดี เป็นผลมาจากการที่รัฐบาลได้อนุมัติโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานสำคัญๆ ในช่วงครึ่งปีหลังของปี

ด้านนายโวคมาร์ เดนเนอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบ๊อช กล่าวว่า ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก กลุ่มบริษัทบ๊อชฯ มียอดขายเพิ่มขึ้นในปีที่ผ่านมา โดยมีมูลค่ารวม 7.3 แสนล้านบาท หรือ 1.92 พันล้านยูโร คิดเป็นอัตราการเติบโต 17% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ทั้งนี้ ยอดขายรวมของภูมิภาคคิดเป็น 27% จากยอดขายทั่วโลก ซึ่งยังคงเป็นสัดส่วนที่สูงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

ขณะที่ภาพรวมธุรกิจของกลุ่มบริษัทบ๊อชฯทั่วโลกในปี 2559 เชื่อว่ายังคงมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่ายอดขายทั่วโลกในปีนี้ จะเพิ่มขึ้นในอัตรา 3-5% หลังปรับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนแล้ว

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,167 วันที่ 19 - 22 มิถุนายน พ.ศ. 2559