โรงงานดูคาติ จ.ระยอง ดันผลิตเพิ่ม 18,000 คันต่อปี ส่งออกเกิน 90%

06 ต.ค. 2564 | 05:59 น.

โรงงานดูคาติ มอเตอร์ จ.ระยอง เล็งเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 18,000 คันต่อปี หลังยอดขายต่างประเทศมีแนวโน้มเติบโต ส่วนดิสทริบิวเตอร์รายใหม่ “โมโตเร อิตาเลียโน” ประกาศเปิดสาขาในกรุงเทพฯ ตามโชว์รูมอาวดี้ทั้ง 3 แห่ง นอกจากโชว์รูม-ศูนย์บริการใหญ่ ที่สุวรรณภูมิ

“โมโตเร อิตาเลียโน” ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายดูคาติ รายใหม่ เครื่องฟิตสตาร์ทติดง่าย เริ่มขายมา 3 เดือน เปิดตัวรถใหม่แล้ว 3 รุ่น หนึ่งในนั้นคือโมเดลยอดฮิตอย่าง Ducati Monster โฉมใหม่เจเนอเรชันที่ 4

 

สำหรับ บริษัท โมโตเร อิตาเลียโน จำกัด เป็นกลุ่มทุนเดียวกับไมซ์สเตอร์ เทคนิค ผู้ดูแลตลาดอาวดี้ ในไทย ซึ่งแบรนด์รถยนต์หรูจากเยอรมนีและบิ๊กไบค์สัญชาติอิตาลี ต่างอยู่ในร่มคันใหญ่ของโฟล์คสวาเกน กรุ๊ป

โรงงานดูคาติ จ.ระยอง ดันผลิตเพิ่ม 18,000 คันต่อปี ส่งออกเกิน 90%

นายกฤษณะกร เศวตนันทน์ ประธานกรรมการบริหาร (ขวา) มร. มาร์โค บิออนดิ รองประธานฝ่ายขายและการตลาดของดูคาติประจำตลาดเอเชียแปซิฟิก (กลาง) นายดอม เหตระกูล กรรมการผู้จัดการ (ซ้าย)

 

แม้ตลาดบิ๊กไบค์เมืองไทย สถานการณ์ค่อนข้างทรงตัวด้วยผู้เล่นหลายราย ทั้งฝั่งอเมริกา ยุโรป และญี่ปุ่น ขณะที่ดูคาติ ยอดขายไม่ได้สูงเกินหลักพันคันมาหลายปีแล้ว แต่ โมโตเร อิตาเลียโน พร้อมรับภารกิจใหม่จากบริษัทแม่อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการสร้างเครือข่ายผู้จำหน่าย และการลบภาพจำของเหล่าไบค์เกอร์ว่า เป็นรถซ่อมแพง ราคาอะไหล่โหด

 

ด้านโรงงานผลิต ดูคาติ มอเตอร์ประเทศไทย ในจังหวัดระยอง ที่เป็น การลงทุนจากดูคาติ อิตาลีโดยตรง ยังโกยรายได้ปีละกว่า 3,000 ล้านบาทซึ่งปี 2561 มีกำไรสุทธิหลังหักภาษี 229 ล้านบาท และปี 2562 กำไร 283 ล้านบาท ส่วนปี 2563 กำไรลดลง 11% เหลือ 252 ล้านบาท ปัจจุบันผลิตรถได้ 10,000 คันต่อปี ในจำนวนนี้เป็น การส่งออกมากกว่า 90%

 

นายมาร์โค บิออนดิ รอง ประธานฝ่ายขายและการตลาดของดูคาติประจำตลาดเอเชียแปซิฟิก เปิดเผยว่า ไทยเปรียบเสมือนบ้านหลังที่สองของดูคาติ เพราะเป็นโรงงานผลิตแห่งแรกนอกประเทศอิตาลี ซึ่งในโลกนี้เรามีเพียง 2 โรงงาน

สำหรับโรงงานดูคาติที่โบโลญญ่ามีกำลังผลิต 50,000 คันต่อปี ส่วนโรงงาน ดูคาติ มอเตอร์ ประเทศไทยมีแผนปรับกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 18,000 คันภายใน 3 ปีนี้ (จากกำลังการผลิตเต็มที่ในปัจจุบัน 12,000 คันต่อปี) เพื่อรองรับตลาดส่งออกที่เติบ โตอย่างต่อเนื่อง ทั้ง จีน และอาเซียนซึ่งการขยายตลาดได้ ส่วนหนึ่งเพราะเราพยายามทำรถให้ราคาเข้าถึงง่าย เพิ่มฐานผู้ขับขี่เป็นคนรุ่นใหม่ รวมถึงผู้หญิงก็สามารถขี่ได้

 

สำหรับโรงงานผลิตดูคาติ มอเตอร์ จ.ระยอง เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2554 ด้วยรถโมเดลแรกคือ Ducati Monster ปัจจุบันรถรุ่นนี้มียอดขายในไทยกว่า 6,000 คัน ล่าสุดเปิดตัวโฉมใหม่ เจเนอเรชันที่ 4

Ducati Monster

Ducati Monster

Ducati Monster

 

ด้วยยอดขายทั่วโลกกว่า 350,000 คัน ภายใน 28 ปี (เปิดตัวเจเนอเรชันแรกในปี 1993) นับเป็นรถที่สร้างความภูมิใจ และบันทึกประวัติศาสตร์ความสำเร็จครั้งสำคัญของดูคาติ สำหรับรุ่นล่าสุด All New Ducati Monster ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งคัน ให้มีความโดดเด่นและเยี่ยมยอดในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะความสปอร์ต นํ้าหนักเบาลง ใช้งานง่ายขึ้น และให้ความสนุกสนานในการขับขี่

 

นายกฤษณะกร เศวตนันทน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โมโตเร อิตาเลียโน จำกัด เปิดเผยว่า โดยปกติ Ducati Monster จะมียอดขายเป็นสัดส่วน 40% ของรถดูคาติในไทย ซึ่งการเปิดตัวรุ่นใหม่ คาดว่าจะได้การตอบรับดี และยังคงสัดส่วนใกล้เคียงกับที่ผ่านมา ส่วนยอดขายรวมทุกรุ่นในปีนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายไว้ 200-300 คัน แม้สถานการณ์ตลาดในไตรมาสที่ 3 ค่อนข้างเงียบ แต่เชื่อมั่นว่า เดือนตุลาคมและปลายปีนี้จะกลับมาฟื้นตัวโดยมี All New Ducati Monster เป็นตัวสร้างยอดขายที่สำคัญ

 

Ducati Monster ใหม่มีให้เลือก 2 สี คือ MONSTER RED ราคา 449,000 บาท และ MONSTER Aviator Grey ราคา 453,000 บาท สามารถจองได้ที่โชว์รูมดูคาติทุกแห่ง หรือจองพิเศษผ่านช่องทาง Lazada ในราคา 5,000 บาท เริ่มตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน ถึง 15 ตุลาคม นี้

นอกจากนี้ ยังมีแคมเปญผ่อนดอกเบี้ย 0% นาน 4 ปี ฟรีค่าจดทะเบียนและพรบ. หรือเลือกผ่อน เดือนละ 7,016 บาท พร้อมรับประกันตัวรถ 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชม. ฟรีค่าบำรุงรักษา 2 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตรให้ประกันภัยชั้นหนึ่งฟรี 1 ปีและฟรีค่าจดทะเบียนและพรบ.

โรงงานดูคาติ จ.ระยอง ดันผลิตเพิ่ม 18,000 คันต่อปี ส่งออกเกิน 90%

โรงงานดูคาติ จ.ระยอง ดันผลิตเพิ่ม 18,000 คันต่อปี ส่งออกเกิน 90%

นายกฤษณะกร ยังกล่าวถึง แผนการขยายโชว์รูม-ศูนย์บริการ ว่า ปลายปีนี้ดูคาติ ประเทศไทย จะเปิดให้บริการโชว์รูมแห่งใหม่สาขาราชพฤกษ์เพิ่มเติมจากศูนย์ใหญ่ที่สุวรรณภูมิ และประดิษฐ์มนูธรรม (โชว์รูมอาวดี้)

 

จากนั้นในปี 2565 เตรียมเปิดอีก 4-5 แห่ง ในกรุงเทพที่ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ (โชว์รูมอาวดี้) ส่วนต่างจังหวัดเป็นการลงทุนของดีลเลอร์ ซึ่งจะมีที่ พัทยา หาดใหญ่ เชียงใหม่ ส่วนภาคอีสานเลือกอยู่ระหว่าง ขอนแก่น หรืออุดรธานี