MINI Cooper SE ลองขับ EV พิสัยใกล้ แต่แรงได้ดั่งใจ

MINI Cooper SE รถพลังงานไฟฟ้า EV รุ่นแรกของ “มินิ” ส่งตรงจากโรงงานอ๊อกฟอร์ด ประเทศอังกฤษ มาเปิดตัวในไทยต้นปีที่ผ่านมา ด้วย MINI Cooper SE ราคา 2.29 ล้านบาท พร้อมอำนวยให้บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ได้ลองวิชาจองรถยนต์ออนไลน์ ซึ่งเป็นแนวทางใหม่ในการขายรถยนต์ที่ทุกค่ายกำลังศึกษา

ช่วงบ่ายสองของวันที่ 14 กุมภาพันธ์ วันวาเลนไทน์ หลังกดปุ่มเปิดระบบบนเว็บไซต์ www.mini.co.th  MINI Cooper SE ล็อตนี้ 25 คัน โดนจองเกลี้ยงทันที ซึ่งมีทั้งดีลเลอร์จัดการให้ และลูกค้าจองเข้ามาเอง

MINI Cooper SE เริ่มทยอยส่งมอบให้ลูกค้าชาวไทยตั้งแต่ช่วงกลางปีที่ผ่านมา โดยรวมโควต้านำเข้าของไทยปีนี้มีทั้งสิ้น 40 คัน ซึ่งการส่งมอบน่าจะลากยาวไปถึงปี 2564

MINI Cooper SE พัฒนาบนพื้นฐานของ มินิ แฮตช์ 3 ประตู F56 ส่วนพละกำลังใกล้เคียงกับ MINI Cooper S ที่วางเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร เทอร์โบ 192 แรงม้า ราคาขาย 2.74 ล้านบาท

MINI Cooper SE ผลิตประสิทธิผล แรงม้า และแรงบิด น้อยกว่า MINI Cooper S เล็กน้อย โดยมอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อหน้าให้กำลัง 184 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 270 นิวตัน-เมตร แต่ราคาถูกกว่ากัน 4.5 แสนบาท ส่วนหนึ่งเพราะภาษีสรรพสามิตที่เสีย 8% ตํ่าว่า MINI Cooper S ที่โดน 25% (ปล่อยไอเสีย 133 กรัม/กม.) โดยทั้งสองรุ่นนำเข้ามาจากโรงงานเดียวกันที่ อ๊อกฟอร์ด จ่ายภาษีนำเข้า 80%

ด้วยราคานี้ กับความพิเศษเฉพาะตัวของมินิ แถมเป็นขุมพลัง EV จึงไม่น่าแปลกใจครับ ที่ MINI Cooper SE จะถูกจองเกลี้ยงทันที

MINI Cooper SE เป็นรถที่โดดเด่น มีเทคโนโลยียานยนต์ทันสมัย ราคาโดนใจ แต่ต้องทำใจเรื่อง การชาร์จไฟฟ้า และระยะทางที่วิ่งได้ 150-200 กม. จากแบตเตอรี่ MINI Cooper SE  ความจุ 32.6 KWh (กิโลวัตต์ชั่วโมง) (เทียบกับแบตเตอรี่ นิสสัน ลีฟ 40 KWh หรือ MG ZS EV 44.5 KWh)

เอาละครับ ถ้าบ้านใครเตรียมการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบจริงจังเอาไว้แล้ว หรือติดตั้งวอลล์บ็อก พร้อมขอไฟ 3 เฟสกับการไฟฟ้าไว้ ระบบบริหารพลังงานยอดเยี่ยมปลอดภัย และปล่อยไฟมาประมาณ 6 KW ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง แบตเตอรี่ลิเทียมไอออนชุดนี้ก็เต็ม ยิ่งชาร์จดึกๆ (Off peak) ค่าไฟยิ่งถูก ฉะนั้นต้นทุนต่อหน่วยการวิ่งไม่ถึง 1 บาทต่อกิโลเมตรแน่นอน

แต่ก็อย่าลืมว่าระยะทางที่วิ่งได้ประมาณ 200 กม.จากการชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้ง แปรผัน (หรือผกผัน) ตามความเร็วรถ ซึ่งการจะวิ่งได้ระยะทางนี้ ผมว่าความเร็วเฉลี่ยควรอยู่แถวๆ 80-100 กม.ละครับ (ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆด้วย)

ด้วยการเป็นรถอัตราเร่งดี 0-100 กม./ชม.ใช้เวลาแค่ 7.3 วินาที พร้อมการควบคุมเฉียบคม ขับได้สนุกสนานตามสไตล์มินิ แต่คุณต้องวางแผนการเดินทาง และจุดชาร์จไฟให้ดี

ก่อนที่จะเอาเท้าขวาไปประทับบนแป้นคันเร่ง คุณต้องเล็งแล้วว่า วันนี้จะเดินทางไปที่ไหน ระหว่างทางมีที่ชาร์จไฟหรือไม่ หรือกลับมาบ้านใช้ระยะทางกี่กิโลเมตร

จริงๆ ผมว่า MINI Cooper SE ขับใช้งานในเมืองไม่น่าห่วง เพียงแต่คำนวนระยะทางให้ดี (กลับมาบ้านชาร์จได้) ขณะเดียวกันยังมีสถานีชาร์จสาธารณะ เอาไว้ให้บริการเพียบ อย่างของ Charge Now หลายแห่งตามห้างสรรพสินค้ายังไม่เสียค่าใช้จ่ายครับ แต่ถ้าเป็นของ EA เก็บแน่นอน เช่น ผมชาร์จชั่วโมงเดียว ต้องเสียค่าไฟ 5 บาท ต่อ 1 KW ซึ่งสูงกว่าการชาร์จไฟบ้านมาก

การชาร์จไฟฟ้าจนเต็มของผม กับ MINI Cooper SE ใน 3-4 ครั้งที่นำมาลองขับ พบว่ารถคำนวณระยะทางที่วิ่งได้ประมาณ 150 กม.ในโหมด Mid (เป็น Default หลังสตาร์ทรถ) แต่ถ้าคุณปรับไปที่โหมด Green จะได้ระยทางเพิ่มเป็น 154 กม. หรือ Green Plus(ตัดการทำงาน ของคอมเพรสเซอร์แอร์) จะได้ระยะทางเพิ่มขึ้นเป็น 167 กม. ซึ่งระยะทางในทุกโหมด สามารถขยับเพิ่มได้ทันที หากคุณเริ่มต้นด้วยการขับช้าๆ (รถจะคำนวณพฤติกรรมการขับขี่แบบเรียลไทม์)

MINI Cooper SE ล็อกความเร็วสูงสุดให้ทะยานได้150 กม./ชม. ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งาน อัตราเร่งดี พุ่งแรง แต่ก็ต้องเตือนใจทุกครั้งเมื่อเห็นระยะทางที่วิ่งได้ถูกสูบออกไป(เป็นความขัดแย้งด้านอารมณ์กับสมรรถนะมากๆ)

รวบรัดตัดความ... MINI Cooper SE เป็น EV พิสัยการเดินทางใกล้ ยิ่งเจออากาศร้อนในเมืองไทยเข้าไป ระยะทางที่วิ่งได้ไม่น่าจะเกิน 200 กม. (อาจจะมีก๊อกสองสำรองไว้ให้อีกเล็กน้อย) ซึ่งขึ้นอยู่กับลักษณะการขับขี่ ขณะที่ตัวรถขับดี ราคาโดนใจ เน้นใช้งานในเมือง และเชื่อว่าคนที่ตัดสินใจซื้อไป น่าจะมีรถในบ้านหลายคันอยู่แล้วละครับ

คอลัมน์เทสต์ไดร์ฟ
โดย : กรกิต กสิคุณ

หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,613 วันที่ 27 - 30 กันยายน พ.ศ. 2563