หลังไปด่อมๆ มองๆ ลองจับและขับเล็กน้อย ที่ประเทศมาเลเซีย เมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา มาสด้าไม่ทิ้งระยะเวลาให้สงสัยนานครับ โดยรีบจัดทริปทดสอบ “ซีเอ็กซ์-5 โฉมใหม่” ทันที หรือหลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเมืองไทยเพียง 1สัปดาห์
คราวนี้เล่นใหญ่เหมือนเดิม เริ่มต้นขับกันที่จังหวัดเชียงราย เลี้ยวซ้ายเข้าภาคอีสาน เลาะตะเข็บชายแดนไทยมาเรื่อยจนมาจบที่กรุงเทพ มหานคร รวมระยะทางกว่า 2,000 กม.
ผมถูกมอบหมายให้ขับสเตจแรก จากเชียงรายลงมาถึงอุดรธานี ระยะทางประมาณ 900 กม. สลับคนขับและลองครบทั้งรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน ดีเซล ตลอดระยะเวลา 3 วัน
โดยทั้ง 2 เครื่องยนต์เป็นบล็อกเดิมที่ให้ประสิทธิผลเท่ากับโฉมเก่า แบ่งการทำตลาดเป็น 5 รุ่นย่อย คือเบนซิน 2.0C ราคา 1.29 ล้านบาท 2.0S 1.4 ล้านบาท และ 2.0SP 1.53 ล้านบาท ส่วนดีเซล XD ราคา 1.56 ล้านบาท และ XDL ราคา 1.77 ล้านบาท
เห็นราคา “ซีเอ็กซ์-5” ตัวท็อปขยับขึ้นน่าตกใจนะครับ เพราะเดิมคอมแพ็กต์ เอสยูวีระดับนี้ ยังไม่มีใครกล้าทำราคาเกิน 1.7ล้านบาท ทว่ามาสด้า เซลส์ ประเทศ ไทย กินดีหมีหัวใจเสือมาจากไหนไม่ทราบ อัพราคาขึ้นไปเกือบ 1.8 ล้านบาท (ฮอนด้า ซีอาร์-วี ดีเซล ตัวท็อป DT EL 4WD ราคา 1.699 ล้านบาท)
การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพและออพชันที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นเดิม ไล่ตั้งแต่ หลังคาซันรูฟ ประตูหลังเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า ช่องแอร์หลัง เปลี่ยนตำแหน่งจอแสดงผล 7 นิ้วให้ขึ้นไปตั้งอยู่บนแดชบอร์ดหน้า เพิ่มเฮดอัพดิสเพลย์ ชุดเครื่องเสียง BOSE ลำโพง 9 ตัว บวกซับวูฟเฟอร์อีก 1 ตัว
ส่วนความยาวตัวถังเพิ่มอีก 10 มม. (แต่ระยะฐานล้อเท่าเดิมที่ 2,700 มม.) ความสูงและระยะตํ่าสุดจากพื้นลดลงเมื่อเทียบกับรุ่นเดิม
เห็นว่าพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังเพิ่มความจุจาก 500 ลิตร เป็น 505 ลิตร ซึ่งแทบไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลง ส่วนพื้นที่ของผู้โดยสารด้านหลังถ้าเทียบกับฮอนด้า ซีอาร์-วีและนิสสัน เอ็กซ์-เทรลแล้ว ซีเอ็กซ์-5 ยังดูขยับขยายได้น้อยกว่า แต่ทั้งนี้มาสด้ายังออกแบบเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลัง ให้ปรับเอนองศาได้อีก 1 ระดับ
ออพชันที่จำเป็น และกลายเป็นปัจจัยพื้นฐาน อย่างช่องต่อยูเอสบีเพื่อชาร์จไฟให้สมาร์ทโฟนหรือใช้เป็นไฟล์เปิดเพลง ในรุ่นนี้มาสด้าจัดเต็มถึง 4 จุด คือในกล่องเก็บของตรงคอนโซลกลาง 2 ช่อง และที่พักแขน-วางแก้วนํ้าสำหรับผู้โดยสารด้านหลังอีก 2 ช่อง(ใช้ชาร์จไฟอย่างเดียว) อย่างทริปนี้โดยสารกันไป 3 คน(สลับกันขับ) ก็ไม่ต้องแย่งกันเสียบชาร์จไฟให้หมองใจกัน
สำหรับมาสด้า มองคู่แข่งเปรียบเทียบไปที่ฮอนด้า ซีอาร์-วี กับ นิสสัน เอ็กซ์-เทรล เป็นหลัก และเหมือนจะชอบใจที่รายแรกวางเครื่องยนต์ดีเซลเหมือนกัน แต่ขนาดแค่ 1.6 ลิตร(ประกบเกียร์ 9 สปีด) ซึ่งมาสด้าแน่ใจว่าบล็อก 2.2 ลิตรของตนเองสมรรถนะการขับขี่ดีกว่า (แม้จะกินนํ้ามันมากกว่าก็ตาม)
ขณะที่รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน มาสด้ายิ่งย่ามใจ เพราะคิดว่า 2.4 ลิตรของซีอาร์-วี กินนํ้ามันกว่า 2.0 ลิตร เทคโนโลยีสกายแอคทีฟของตนเองแน่ๆ แถมสมรรถนะสู้ได้สบาย
ผมเริ่มลองขับ“ซีเอ็กซ์-5 โฉมใหม่” รุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร 175 แรงม้า ที่เพิ่มประสิทธิภาพการหายใจด้วยเทอร์โบแบบ 2 ขั้น ถือว่าแรงดีขับขี่สบายครับ แรงบิด 420 นิวตัน-เมตร ช่วยให้การขึ้นเขาสูงชันเป็นเรื่องง่าย พละกำลังมาเนียนๆตามแรงกดของเท้าขวาได้อย่างใจคิด พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา ที่การขับทางเรียบปกติจะกระจายนํ้าหนักไปยังล้อหน้า 75% หลัง 25% และแปรผันตามสภาพการขับขี่ แต่จะแบ่งไปล้อหลังเต็มที่ไม่เกิน 50% บวกกับระบบการควบคุมแบบไฟฟ้าต่างๆก็ช่วยให้ทุกเส้นทางขับรถได้มั่นใจ
โดยการทรงตัวและการควบคุมนุ่มนวลกว่าโฉมเก่า พอสมควรพวงมาลัยนํ้าหนักเบาลงระยะตํ่าสุดจากพื้นเตี้ยกว่าเดิม ยังช่วยให้การควบคุมมั่นคงเมื่อใช้ความเร็วสูง
สำหรับรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร 165 แรงม้า ขับเคลื่อน 2 ล้อ ในเส้นทางทดสอบลักษณะเดียวกัน ถือว่าไม่ขี้เหร่ แม้ต้องเข่น ต้องเร่งมากกว่ารุ่นดีเซล ขณะที่เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด สมองกลฉลาดสั่งการแม่นยำคอยปรับตํ่าแหน่งเกียร์ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ พร้อมส่งเสริมให้รถพุ่งทะยานไปข้างหน้า หรือช่วยให้รถมีเอนจินเบรกเมื่อจำเป็น
เมื่อเส้นทางแบบนี้ยังวิ่งสบาย ดังนั้นการใช้ในชีวิตประจำวัน วิ่งในเมืองบนทางราบ หรือเส้นทางหลวงระหว่างเมือง เครื่องยนต์และเกียร์ชุดนี้ เพียงพอต่อการใช้งานแล้วละครับ
ส่วนระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ GVC (G-Vectoring Control) ที่ถูกใส่มาในมาสด้า 3 ไมเนอร์เชนจ์ เป็นครั้งแรก พอมาอยู่ในตัวถังเอสยูวี ผมยิ่งรู้สึกถึงความช่วยเหลือได้มากขึ้น
ชัดเจนจากเส้นทางในทริปนี้ นอกจากจะรักษาเสถียรภาพการทรงตัวสูงสุด ยังช่วยลดอาการวิงเวียน เวียนหัว(เพราะตัวและหัวของคนนั่งจะโยกคลอนน้อยลง) ด้วยการนำค่าจากการควบคุมพวงมาลัย การเดินคันเร่งและเบรก และการยึดเกาะของล้อทั้ง 4 จากนั้นจะนำข้อมูลมาประมวลผล เพื่อควบคุมแรงบิดที่ถ่ายเทลงสู่ล้อคู่หน้าให้เหมาะสม ช่วยลดอาการโยนตัวของตัวถังได้พอสมควร
ด้านอัตราบริโภคนํ้ามันจากเส้นทางนี้ที่ค่อนข้างโหด เครื่องยนต์ลากรอบสูงๆ และใช้ความเร็วสูงในหลายๆโอกาส รุ่นเครื่องยนต์ดีเซลยังเห็นตัวเลขประมาณ 14 กม./ลิตร ส่วนเบนซินอยู่ระดับ 10-11 กม./ลิตร
รวบรัดตัดความ....บุคลิกการขับขี่นุ่มลงในภาพรวมเพิ่มออพชันเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกและความ ปลอดภัย “มาสด้า ซีเอ็กซ์-5 โฉมใหม่” ยังรักษามาตรฐานของการเป็นเอสยูวีชั้นดี และมีภาพลักษณ์ที่ชัดเจนในแนวทางของตนเอง หรือใครซื้อรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตรไป ก็ขับมันระเบิดเถิดเทิงแล้วละครับ
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,317 วันที่ 26 - 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560