มินิ คันทรีแมน ให้คน‘แมน แมน’ขับกัน

02 มิ.ย. 2560 | 12:00 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

ตัวถังล่าสุดของ “มินิ โฉมใหม่” และเป็นรุ่นยอดนิยมที่สร้างยอดขายอย่างเป็นกอบเป็นกำ เพราะเจเนอเรชันแรก(R60) บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทยตัดสินใจนำเอสยูวีรุ่นนี้มาประกอบที่โรงงานจังหวัดระยอง

[caption id="attachment_155373" align="aligncenter" width="503"] มินิ คันทรีแมน ให้คน‘แมน แมน’ขับกัน มินิ คันทรีแมน ให้คน‘แมน แมน’ขับกัน[/caption]

จาก “มินิ” ค่าตัว 2-3 ล้านบาท(หมายถึงตัวถังอื่นๆด้วย) แต่พอ “คันทรีแมน” มีรุ่นประกอบในประเทศ (เริ่มปี 2556) ราคาขายเริ่มต้นแค่ 1.84 ล้านบาท ยิ่งดันให้ยอดขายรวมของมินิเติบโตเท่าตัวครับ หรือแตะระดับ 1,000 คันต่อปี(และมิลเลนเนียมออโต้ ไม่ได้เป็นดีลเลอร์ที่ขายมินิเพียงเจ้าเดียวอีกแล้ว)

mp37-3266-6 มินิ คันทรีแมน เจเนอเรชันที่ 2 รหัสตัวถัง F60 เปิดตัวในเมืองไทยอย่างเป็นทางการที่งานบางกอก มอเตอร์โชว์2017 โดยแบ่งการขาย 3 รุ่นย่อยคือ “คูเปอร์” 2.339 ล้านบาท “คูเปอร์ เอส” 2.699 ล้านบาท และ “คูเปอร์ เอส ไฮทริม” 2.999 ล้านบาท

mp37-3266-5 สำหรับการเปลี่ยนแปลง เห็นเป็นเรื่องออพชันที่ทันสมัยเหมือนกับตัวถังอื่นๆที่เปิดตัวมาก่อนหน้านี้เช่นระบบเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต แสงสีภายในห้องโดยสารที่เลือกได้หน้าจอแสดงผลหลังพวงมาลัย (Head Up Display) และหน้าจอกลมโตขนาด8.8 นิ้วแบบทัชสกรีน(แต่ยังมีปุ่มคล้ายๆไอ-ไดรฟ์ควบคุมการสั่งงานอยู่ด้วย)

mp37-3266-8 ตลอดจนออพชันที่ติดตั้งมาให้เป็นครั้งแรกในรถยนต์มินิคือ ระบบควบคุมการเปิด-ปิดประตูบานที่ 5 ด้วยระบบไฟฟ้า ที่นอกจากสั่งงานผ่านรีโมตและกดปุ่มที่ตัวรถแล้วยังสามารถใช้ระบบเท้าเตะเข้าไปใต้กันชนหลังสั่งงานได้เช่นกัน (เหมือนบีเอ็มดับเบิลยู)

mp37-3266-1 เมื่อผมเข้าไปในห้องโดยสาร สัมผัสถึงความเปลี่ยนแปลงอันเป็นเอกลักษณ์ที่หาตัวจับได้ยาก เช่นเดียวกับบรรดาปุ่มสั่งงานที่วางดูผิดทิศผิดทาง ต่างจากรถยนต์ยี่ห้ออื่นๆ

mp37-3266-9 ขณะเดียวกัน ภายในห้องโดยสารยังกว้างขวางมากขึ้น พร้อมหลังคาสูง ซึ่งตามข้อมูลระบุว่ารุ่นใหม่ตัวถังใหญ่กว่าเดิมครับ ทั้งเพิ่มความยาว 20 ซม. กว้าง 3 ซม.และฐานล้อบวกไปอีก 7.5 ซม.

การเข้าออกประตูหน้า-หลังสะดวกสบาย ตำแหน่งเบาะนั่งสูงขึ้นให้อารมณ์ต่างจากมินิตัวถังอื่นๆ แถมยังช่วยให้ขับสบายเพราะมองเห็นได้ไกล คาดสถานการณ์ล่วงหน้าได้ ซึ่งจะเรียกคันทรีแมนว่าเป็นเอสยูวีหรือครอสโอเวอร์ก็สุดแล้วแต่ แต่ที่แน่ๆเหมาะกับการขับลุยนํ้าท่วมในกรุงเทพฯได้เป็นอย่างดี

แม้มินิไม่ได้ชูความสามารถในการลุยนํ้าท่วมเป็นจุดขาย แต่ด้วยโครงสร้างที่ยกสูงเล็กน้อยพร้อมความอเนกประสงค์ และสมรรถนะการขับขี่ที่หนึบแน่น ดังนั้นซื้อคันนี้ไป ก็ตอบโจทย์การใช้ในทุกภัยพิบัติครับ

mp37-3266-7 อย่างไรก็ตาม การเซตช่วงล่างผมว่าค่อนข้างประณีประนอมกับพื้นถนนมากขึ้นกล่าวคือนุ่มนวลกว่าโฉมเก่า แม้จะเพียงเล็กน้อยก็ตาม (ส่วนหนึ่งเพราะใช้ยางรันเฟลตด้วย) เพราะคันทรีแมนรุ่นเก่า ขับไปก็คล้ายๆ ขี่ม้าครับด้วยความแรงพร้อมพุ่งกระโจน แต่การรองรับออกแนวแข็งโดดเด้ง ใช้ทางไกลๆ ไม่ค่อยสบายตัวนัก

ขณะเดียวกัน นํ้าหนักพวงมาลัยยังเบาลงเล็กน้อย เมื่อขับความเร็วตํ่าหรือวิ่งในเมืองไม่ต้องใช้แรงเอี้ยวเลี้ยวมาก เช่นเดียวกับแป้นเบรกที่สัมผัสนุ่มนวล การตอบสนองของจังหวะเบรกลดอาการหน้าทิ่มหัวจิกไปพอสมควร

ในรุ่นคูเปอร์ เอส ที่ผมได้ลองขับใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบขนาด 2.0 ลิตร 192แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ซึ่งเกียร์ชุดนี้ส่งให้บุคลิกของคันทรีแมนมีความสุขุมมากขึ้น ขับในเมืองใช้ในชีวิตประจำวันไม่ถึงกับพุ่งกระชากจนเวียนหัว ทว่าวันว่างใช้ทางไกลต่างจังหวัด ก็พร้อมปลดปล่อยพละกำลังอย่างเต็มที่ยิ่งเติมคันเร่ง ยิ่งขับสนุกครับ

mp37-3266-10 สำหรับอัตราบริโภคนํ้ามัน วิ่งเฉลี่ยตัวเลขหน้าจอแสดงผลไว้ 6.9 ลิตรต่อ 100 กม. หรือประมาณ 14 กม./ลิตร

รวบรัดตัดความ… เป็นความอเนกประสงค์ที่เพิ่มออพชันอำนวยความสะดวก และเทคโนโลยีทันสมัย พร้อมเซตช่วงล่าง การควบคุม เบรกนุ่มนวลกว่าตัวเก่าเล็กน้อย แม้ไม่ถึงกับสมบูรณ์แบบในด้านสมรรถนะ แต่เสน่ห์ของ “คันทรีแมน”ที่แสดงถึงรสนิยมของผู้เป็นเจ้าของ ซึ่งจะเป็นแมนหรือไม่แมน ก็เปลี่ยนความหลงใหลให้กลายเป็นการครอบครองมานักต่อนักแล้ว

[caption id="attachment_155366" align="aligncenter" width="503"] มินิ คันทรีแมน ให้คน‘แมน แมน’ขับกัน มินิ คันทรีแมน ให้คน‘แมน แมน’ขับกัน[/caption]

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,266 วันที่ 1- 3 มิถุนายน พ.ศ. 2560