โควิดทำคนหยุดออม กอช.เผยสมาชิกหยุดส่งเงินกว่า 1 ล้านคน

17 ม.ค. 2565 | 12:03 น.

กอช. เผยโควิดกระทบหนัก ทำสมาชิกหยุดส่งเงินสะสมฯ 1 ล้านคน ขณะที่ปี 65 เตรียมร่วมมือหน่วยงานท้องถิ่น ดึงคนเข้าถึงการออมมากขึ้น พร้อมเดินหน้าแก้กฎหมายขยายอายุสมาชิกเป็น 65 ปี ปลดล็อกประกันสังคม ม.40 ออมเงินกับ กอช. ได้

นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์โควิดทำให้คนมีรายได้ลดลง ซึ่งในส่วนของสมาชิก กอช. ประมาณ 2 คน พบว่ามีผู้หยุดการนำเงินสะสมเข้ากองทุน ประมาณ 1 ล้านราย หรือ 50% อย่างไรก็ดี ในปี 2564 ที่ผ่านมา กอช. ยังคงเดินหน้าให้ความรู้เกี่ยวกับการออม เพราะสามารถดึงให้คนเข้ามาเป็นสมาชิก กอช. ได้เพิ่มขึ้นประมาณ 60,000 ราย ซึ่งถือว่ามีจำนวนที่สูง หากเทียบกับช่วงโควิด

 

“ในปี 2565 กอช. ยังเดินหน้าแก้กฎหมาย เพื่อจูงใจให้สมาชิกเข้ามาออมเพิ่ม โดยหนึ่งในประเด็นสำคัญคือการเพิ่มหลักประกันให้กับผู้สูงอายุ โดยขยายอายุให้สมาชิกเข้ามาออมได้ จาก 60 ปี เป็น 65 ปี และแก้กฎหมายให้ผู้ที่อยู่ในระบบประกันสังคม มาตรา 40 สามารถเข้ามาเป็นสมาชิก กอช. ได้ เพื่อให้คนไทยเข้าถึงการออมได้มากขึ้น รองรับสังคมสูงวัยด้วย โดยขณะนี้ได้ผ่านความเห็นชอบจากบอร์ดแล้ว อยู่ระหว่างนำเสนอกระทรวงการคลังเป็นลำดับถัดไป” นางสาวจารุลักษณ์ กล่าว

จารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ กอช.

นางสาวจารุลักษณ์ กล่าวด้วยว่า ในปี 65 จะมีการแก้กฎหมายให้สมาชิกที่เกษียณอายุแล้ว และเจ็บป่วยระยะสุดท้าย สามารถเลือกรับบำเหน็จได้ จากเดิมกฎหมายระบุให้รับบำนาญได้อย่างเดียว อย่างไรก็ดี จะต้องมีหลักฐาน ทางการแพทย์มายืนยัน เพื่อขอเปลี่ยนการรับเงินสะสมเป็นก้อน

 

ขณะที่การเพิ่มจำนวนสมาชิกในปี 2565 นั้น ไม่ได้ตั้งเป้าหมายอย่างชัดเจน แต่ยังคงเดินหน้าเพิ่มจำนวนสมาชิก โดยจะเน้นร่วมมือกับท้องถิ่น ในการลงพื้นที่เพื่อเข้าไปเพิ่มจำนวนสมาชิกให้เข้าถึงการออมเงินมากขึ้น โดยมองว่าเด็กวัยเรียน ควรเป็นวัยที่เริ่มต้นการออม โดยเริ่มจากการแบ่งเงินค่าขนมที่ได้ส่วนหนึ่งมาเป็นเงินเก็บออม ซึ่งกลุ่มนี้ถือเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ กอช. ต้องการส่งเสริมให้เกิดการออมมากสุด แต่เนื่องจากที่ผ่านมานักเรียนนักศึกษาต้องปรับการเรียนเป็นออนไลน์ ทำให้เกิดข้อจำกัดในการลงพื้นที่เพื่อให้ความรู้เรื่องการออม

นอกจากนี้ นางสาวจารุลักษณ์  กล่าวอีกว่า ขณะนี้ กอช. มีเงินกองทุนสะสมอยู่ที่ 10,000 ล้านบาท โดยผลตอบแทนจากการลงทุนเมื่อปี 2564 อยู่ที่ 0.80% ซึ่งเป็นจำนวนที่ไม่มาก แต่เมื่อเทียบกับสัดส่วนเงินเฟ้อ และผลตอบแทนจากดอกเบี้ยเงินฝากก็ยังสูงอยู่ เนื่องจากกฎหมายกำหนดให้ กอช. ลงทุนในทรัพย์สินที่มั่นคง ทำให้ กอช.สามารถลงทุนในหุ้นได้เพียง 7% เนื่องจากกฎหมายของ กอช. กำหนดให้มีประกันในเรื่องเงินต้น ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงให้กับสมาชิกด้วย