ดาวโจนส์ปิดร่วง 652 จุด หลังพาวเวลส่งสัญญาณยุติ QE เร็วกว่าคาด

30 พ.ย. 2564 | 23:55 น.

ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลง 652 จุดเมื่อคืนนี้ (30 พ.ย.) หลังจาก"เจอโรม พาวเวล" ประธานเฟด ส่งสัญญาณยุติโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เร็วกว่าที่คาดไว้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,483.72 จุด ลดลง 652.22 จุด หรือ -1.86%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,567.00 จุด ลดลง 88.27 จุด หรือ -1.90% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,537.69 จุด ลดลง 245.14 จุด หรือ -1.55%
          

นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)แถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาเมื่อคืนนี้ว่า เฟดอาจปรับลดวงเงินในโครงการ QE มากกว่า 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน โดยเฟดจะหารือกันในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 14-15 ธ.ค.

"ขณะนี้เศรษฐกิจมีความแข็งแกร่งมาก และแรงกดดันจากเงินเฟ้อได้เพิ่มสูงขึ้น ผมจึงเห็นว่าถึงเวลาเหมาะสมแล้วที่เฟดจะพิจารณายุติโครงการซื้อพันธบัตรให้เร็วขึ้นกว่าเดิมหลายเดือน โดยเราจะหารือกันในการประชุมครั้งต่อไป" นายพาวเวลกล่าว
         

ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน

ดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและการสื่อสารร่วงลงหนักสุดในบรรดาหุ้น 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 โดยปรับตัวลง 3% 

 

ดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานดิ่งลง 2.5% หลังจากราคาน้ำมัน WTI ทรุดตัวลงกว่า 5% เมื่อคืนนี้
 
หุ้นกลุ่มโรงแรม, กลุ่มเรือสำราญ และกลุ่มธุรกิจบริการด้านการเดินทาง ต่างก็ร่วงลงเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน  หุ้นกลุ่มเวชภัณฑ์ร่วงลงเช่นกัน 


ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ เอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์เปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐเพิ่มขึ้น 19.5% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายปี แต่ต่ำกว่าระดับ 19.8% ในเดือนส.ค. และเป็นครั้งแรกที่ราคาบ้านได้ชะลอตัวลงเมื่อเทียบรายปีนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2563
          
          
นักลงทุนจับตาสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนพ.ย.ในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะพุ่งขึ้น 581,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 531,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค.