CV โชว์ผลงานไตรมาส 3/64 กำไรพุ่ง 252.90%

10 พ.ย. 2564 | 11:59 น.

บมจ. โคลเวอร์ เพาเวอร์ หรือ CV เผยผลการดำเนินไตรมาส 3/64 ทำกำไรสุทธิ 58.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 252.90% จากไตรมาส 2/64 มากกว่ากำไรสุทธิในครึ่งปีแรกของปีนี้ หลังกำไรขั้นต้นกลุ่มธุรกิจ EPC Turnkey โดดเด่น และธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าทำรายได้เติบโตที่ดี

นายเศรษฐศิริ ศักดิ์สิทธิเสรีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โคลเวอร์ เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CV เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2564 (กรกฎาคม-กันยายน) บริษัทฯมีกำไรสุทธิ 58.17 ล้านบาท เติบโต 252.90% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนที่ทำได้ 16.48 ล้านบาท และสูงกว่ากำไรสุทธิในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2564 โดยมีปัจจัยมาจากการรับรู้รายได้จากธุรกิจด้านงานวิศวกรรม (Valued EPC) ที่ทยอยรับรู้รายได้จากการขายเครื่องจักรและให้บริการวิศวกรรมออกแบบและก่อสร้างโครงการเข้ามาอย่างต่อเนื่อง 

นายเศรษฐศิริ ศักดิ์สิทธิเสรีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โคลเวอร์ เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน)

 

ทั้งจากโครงการที่ทำอยู่เดิมและงานโครงการใหม่ ๆ ตาม backlog ที่วางแผนไว้รวมไปถึงการรับรู้รายได้จากธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า ของโรงไฟฟ้าของ CV เองจำนวน 4 โรงที่สามารถสร้างรายได้จากการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าได้เต็มประสิทธิภาพ ส่งผลให้ภาพรวมผลการดำเนินงานของ CV ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้มีรายได้รวม 1,068.53 ล้านบาทแลกำไรสุทธิ 101.37 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนรายได้จากกลุ่มธุรกิจ EPC Turkey 59.30% และมีรายได้จากกลุ่มธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า 36.33%

ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2564 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง โดยในไตรมาส3/64  มีงานในมือ (Backlog) งานวิศวกรรม (Valued EPC) มากกว่า 500 ล้านบาท เช่น งานซื้อขายเครื่องจักร ออกแบบและติดตั้งระบบผลิตเชื้อเพลิง BioFusion, งานซื้อขายพร้อมติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) และงานโครงการติดตั้งระบบบริหารจัดการพลังงานรวม 3 โครงการ

 

ช่วงที่เหลือของปีนี้ ยังมีงานที่เกี่ยวข้องกับทางด้านทั้งการออกแบบและก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่รับงานอยู่เดิม  และงานบริการเดินเครื่องและบำรุงรักษา จะทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับรายได้ที่สม่ำเสมอจากการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าในกลุ่ม ผลักดันรายได้ปีนี้ขยายตัวได้ตามเป้าหมาย 

“เรามุ่งมั่นสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องตามแผนงานที่ได้ประกาศไว้ เพื่อให้นักลงทุนได้มั่นใจว่าการลงทุนในหุ้น CV จะได้รับผลตอบแทนอย่างยั่งยืน และมั่นคงในระยะยาว สะท้อนมาจากผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา"นายเศรษฐศิริ กล่าว

 

อย่างไรก็ตาม เพื่อขยายธุรกิจสร้างการเติบโตจากทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจ ล่าสุดบริษัทฯได้เข้าซื้อกิจการโรงไฟฟ้าแบบพลังงานความร้อนร่วมที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงหลัก ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 7.36 เมกะวัตต์เรียบร้อยแล้ว รวมถึงได้ชนะประมูลโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก(โครงการนำร่อง) ประเภทเชื้อเพลิงชีวมวล 3 โครงการ กำลังผลิตติดตั้ง 19.8 เมกะวัตต์ ซึ่งเตรียมเซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับกฟภ. เร็วๆนี้

 

ทั้งนี้ตั้งแต่ไตรมาส 4/64 จะเห็นการขยายตัวในส่วนของธุรกิจเชื้อเพลิงเพิ่มมากขึ้น ซึ่งกลุ่มบริษัทฯจะเริ่มรับรู้รายได้จากการแปรรูปและขายเชื้อเพลิงขยะ (RDF) เข้ามา ตอกย้ำถึงศักยภาพและความพร้อมในฐานะผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน และมีความเชี่ยวชาญในการให้บริการด้านงานวิศวกรรมแบบครบวงจร ทำให้ CV มีความพร้อมในทุกด้านการลงทุนเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน