หุ้นไอพีโอปี 64 คึกคัก ดันมาร์เก็ตแคปเพิ่ม 4 แสนล้านบาท

03 พ.ย. 2564 | 08:01 น.

บจ.เริ่มทยอยเสนอขายหุ้นไอพีโอ หลังสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 คลี่คลาย พบตั้งแต่ต้นปีถึงพ.ย. 64 เทรดวันแรกแล้ว 30 ราย ระดมทุนรวม 77,439.64 ล้านบาท มาร์เก็ตแคป ณ ราคาไอพีโอ รวมอยู่ที่ 398,202.43 ล้านบาท

หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ทำให้หลายกิจกรรมได้ปลดล็อกกลับมาดำเนินต่อได้อีกครั้ง โดยเฉพาะตลาดทุนที่บริษัทจดทะเบียน (บจ.) หลายแห่งเริ่มมีการเข้าจดทะเบียน และเสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) ส่งผลให้การซื้อขายหุ้นไอพีโอกลับมาคึกคักอีกครั้ง จากในปีที่ผ่านมาหลายบจ.ต้องชะลอเพื่อทำตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม และทำกิจกรรมตามขั้นตอนการเสนอขายไม่ได้

 

รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปีถึงวันที่ 3 พฤศจิกายน2564 มีบจ.ที่เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายแล้วจำนวน 30 ราย มูลค่าระดมทุนรวม 77,439.64 ล้านบาทมูลค่าหลักทรัพย์ (มาร์เก็ตแคป) ณ ราคาไอพีโอ รวมอยู่ที่ 398,202.43 ล้านบาท แบ่งเป็น SET จำนวน15 ราย มูลค่าระดมทุน 71,758.18 ล้านบาท มาร์เก็ตแคป ณ ราคาไอพีโอ ที่ 375,207.77 ล้านบาท และmai จำนวน 15 ราย มูลค่าระดมทุน 5,681.46 ล้านบาท มาร์เก็ตแคป ณ ราคาไอพีโอ ที่ 22,994.66 ล้านบาท 

 

ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับปี 2563 ที่เริ่มมีการระบาดของไวรัสโควิด -19 มีบจ.เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายจำนวน 26 ราย มูลค่าระดมทุนรวม 130,793.88 ล้านบาท มาร์เก็ตแคป ณ ราคาไอพีโอ รวมที่550,049.12 ล้านบาท ส่วนปี 2562 ที่ยังไม่มีการระบาดของไวรัสโควิด -19 มีบจ.เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายจำนวน 28 ราย มูลค่าระดมทุนรวม 73,693.92 ล้านบาท มาร์เก็ตแคป ณ ราคาไอพีโอ รวมที่362,860.21 ล้านบาท

หุ้นไอพีโอปี 64 คึกคัก ดันมาร์เก็ตแคปเพิ่ม 4 แสนล้านบาท

อย่างไรก็ตาม พบว่าถึงแม้ในปี 2563 จะมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่มีบจ.ที่มีขนาดใหญ่เข้าระดมทุนถึง 4 ราย คือ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (CRC) ระดมทุน 55,902.00 ล้านบาท มาร์เก็ตแคป ณ ราคาไอพีโอที่ 253,302.00 ล้านบาท, บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด(มหาชน) (SCGP) ระดมทุน 39,464.25 ล้านบาท มาร์เก็ตแคป ณ ราคาไอพีโอที่ 148,874.25 ล้านบาท, บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (KEX) ระดมทุน 8,400.00 ล้านบาท มาร์เก็ตแคปณ ราคาไอพีโอที่ 48,720.00 ล้านบาท และบริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (STGT) ระดมทุน 14,904.92 ล้านบาท มาร์เก็ตแคป ณ ราคาไอพีโอที่ 48,578.52 ล้านบาท

 

ขณะที่ ในปี 2564 มีบจ.ขนาดใหญ่เพียง 2 ราย คือ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR) ระดมทุน 46,980.00 ล้านบาท มาร์เก็ตแคป ณ ราคาไอพีโอที่ 208,980.00 ล้านบาท และบริษัทเงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) (TIDLOR) ระดมทุน 7,694.81 ล้านบาท มาร์เก็ตแคป ณ ราคาไอพีโอที่84,642.94 ล้านบาท

สำหรับบจ.ที่อยู่ระหว่างดำเนินการขอเข้าจดทะเบียนอยู่ที่ 24 ราย แบ่งเป็น SET จำนวน 16 ราย ส่วน mai จำนวน 8 ราย ซึ่งบริษัทที่จะเข้าซื้อขายเร็วๆ นี้ที่น่าสนใจ คือ บริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด(มหาชน) (ONEE) ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ลงทุนในธุรกิจหลักได้แก่ ธุรกิจผลิตเนื้อหา (Content Provider) ประเภทละคร ซีรีส์ รายการวาไรตี้ ช่อง ONE31 และบริหารจัดการช่อง GMM25 รวมถึงแพลตฟอร์มต่างๆ ทางออนไลน์, ธุรกิจผลิตรายการวิทยุ EFM GREENWAVE และ Chill Online และธุรกิจเกี่ยวเนื่อง เช่น บริหารจัดการศิลปิน จัดคอนเสิร์ต / อีเว้นท์ บริการให้เช่าสตูดิโอ

 

ทั้งนี้ ONEE จะขายหุ้นไอพีโอรวม 496,252,500 หุ้น คิดเป็นมูลค่าเสนอขายรวม 4,218 ล้านบาท นับว่าเป็นหุ้นไอพีโอในหมวดธุรกิจสื่อและสิ่งพิมพ์ที่มีมูลค่าเสนอขายสูงที่สุดในประเทศไทย โดยหุ้น ONEE จะมีมาร์เก็ตแคป ณ ราคาไอพีโอ ที่ประมาณ 20,241 ล้านบาท คาดว่าจะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ SET เป็นวันแรกในที่ 5 พฤศจิกายน 2564