สังคมยกระดับถ้าปรับคนให้เป็นมนุษย์ (6)

02 มิ.ย. 2566 | 23:30 น.

สังคมยกระดับถ้าปรับคนให้เป็นมนุษย์ (6) : คอลัมน์เปิดมุกปลุกหมอง โดย...ดร.สุรวงศ์ วัฒนกูล หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3893

ผมเป็นคนบ้าหนังจีน เพราะมีวาทกรรม คติพจน์กินได้ ลูกเล่นในการต่อสู้ ชั้นเชิงทั้งในการรุกและรับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งลีลาการพากย์หนังที่คงไว้ซึ่งต้นฉบับ แต่กล้ายกระดับสำบัดสำนวนสะดุดหัวใจของคอหนังคนสงขลา รุ่นผมมีวาสนาได้ฟัง “มนต์ฟ้า” พากย์หนังจีนด้วยถ้อยคำสัมผัสจัดว่าลวดลายเหนือชั้นสุดที่จะหาใครมาเปรียบ 

ขอยกตัวอย่างสัมผัสนอกสัมผัสในสไตล์ร่ายยาวสักชอท จอมยุทธ์นั่งเจี๊ยะกับแกล้มแจมเหล้าให จอมมารวางอำนาจบาตรใหญ่เดินส่ายเข้ามากวนชวนหาเรื่อง พูดจาตะคอกว่า “มองหน้าทำไม ไม่พอใจอะไรรึ ไอ้กระจอก” จอมยุทธ์ ก็ตอบไปว่า “ถ้าข้องใจเชิญในตรอก เดี๋ยวข้าจะบอกให้เอ็งทราบ” (ฮา)  ก็เอาเป็นว่า ถ้าฉุกใจจะหาตัวอย่างเกี่ยวกับความต่างระหว่าง คน กับ มนุษย์ ผมปักหมุดยืนยันให้ดูหนังจีนแล้วจะถึงบางอ้อ

หนังจีน ฤทธิ์ดาบวงพระจันทร์ เวอร์ชั่นดั้งเดิม ของ ชอว์บราเดอร์ แตกต่างกับ เวอร์ชั่นล่าสุด หลายซีนเท่าที่ผมจำได้ เต็งพ้ง ซึ่งเป็น ดาวโด่งในยุทธภพ เป็น สุดยอดจอมกระบี่ ที่ไม่เคยแพ้ใคร ครั้นแล้วก็เผลอแพ้จอมยุทธ์ผู้หนึ่งที่เห็นช่องโหว่ของ กระบวนท่ากระบี่ดาวตก 

เต็งพ้ง หลบมุมเข้าป่าหลบหน้าไม่พบใคร ในที่สุดก็ต้องใจกับ นางปีศาจจิ้งจอกแชแช ถึงกระนั้นก็ตาม เต็งพ้ง ก็แพ้ใจไร้ความสุข เธอปลุกปลอบจนจับจุดอ่อนได้ว่า องค์เซ็ง ลง เต็งพ้ง เพราะเขายังปลงไม่ตก เธอจึงเปิดอก ยกกล่อง “ดาบโค้งวงพระจันทร์” มอบให้ เต็งพ้ง เอาไปร่วมวงฟาดฟันให้หายเฉา “เมียเว้า” กับ “ดาบโค้ง” ลองเดาสิว่า เต็งพ้ง จะขึ้นตรงกับอะไร (ฮา)

เต็งพ้ง เริ่มออกลายเมามันกับอาณุภาพดาบ มัวแต่หมกมุ่นที่จะกำหราบผู้ที่จะลองของ ไม่กลับไปดูแลสตรีผู้ที่หนุนหลังให้มาแจ้งเกิด เมื่อ เต็งพ้ง เผชิญหน้า กับ อี้จับซา นายที่สามของตึกกระบี่เทพเจ้า ก็ปะทะกันไม่กี่กระบวนท่า เต็งพ้ง ก็โดน อี้จับซา ริบดาบโค้งวงพระจันทร์ แล้วประมือกันต่อ

ปรากฏว่า เต็งพ้ง หมดฤทธิ์สิ้นเดช สู้ด้วยมือเปล่าแล้วเอาไม่อยู่ โค้ช อี้จับซา จึงติว ศิษย์ เต็งพ้ง ว่า “จอมยุทธ์ที่แท้ ต้องไม่ลำพองใจ และ ไม่ทิ้งครอบครัว” อี้จับซา คงจะไม่รู้ว่า เต็งพ้ง ชอบ เสพเฮาส์ (โรงเตี๊ยมVIP) มากกว่า บ้าน (ฮา)

ตีความสมญานาม “เต็งพ้ง” ตามถ้อยคำได้ว่า เต็ง คือ แซ่ หรือ ตระกูล “พ้ง” แปลว่า “อินทรี!” อันว่า ไลฟ์สไตล์นกอินทรี จะจับคู่เพียงตัวเดียวตลอดชีวิต ตัวผู้ เกี้ยวพาราสีตัวเมียโดยการโอ้อวดท่วงท่าการบิน นำอาหารไปให้ตัวเมีย สร้างรังจากกิ่งไม้เล็กๆ ตามต้นไม้หรือโพรงหน้าผา ตัวเมียออกไข่ครั้งละ 1-7 ฟอง ตัวเมียจะทำหน้าที่ฟักไข่เพียงอย่างเดียว ตัวผู้ ก็จะทำหน้าที่หาอาหาร ลูกนกจะบินได้เมื่ออายุ 1 เดือน ขึ้นไป

                      สังคมยกระดับถ้าปรับคนให้เป็นมนุษย์ (6)

เรื่องนี้จงใจจะชี้ว่า “อยากโชว์ก็โชว์ไปแต่อย่าลืมใส่ใจคู่ชีวิต” จ๊อบนี้ “เต็งพ้ง” ลืมคิดว่าเขาเป็น “อินทรี” เข้าข่ายทำตัวไม่สมชื่อ ไม่ครองตนตามธรรมเนียมปฏิบัติ “อินทรียี่ห้อเต็ง” กลายเป็นสามีที่ปล่อยให้ภรรยาจ่ายค่าน้ำค่าไฟอยู่ตามลำพัง (ฮา)

เต็งพ้ง ทำตัวเป็น ผัวทิพย์ ผู้ชุบมือเปิบ! อยู่หลาย ปฏิทินแม้ว ฆ่าคนจนสาแก่ใจแล้วจึงวางมือเพราะเมื่อย (ฮา) หวนกลับมารับขวัญเจ้าของดาบ

เว็บไซต์ SANOOK เล่าข่าวเรื่องส่วนตัวว่า มีสองครอบครัวสร้างประวัติศาสตร์ถล่มงานวันวิวาห์ กันต่อหน้าแขกเหรื่อ เรื่องของเรื่องก็มีอยู่ว่า เจ้าสาวเธอตั้งครรภ์ แต่ครอบครัวเจ้าบ่าวไม่ยอมตกลงเรื่องงานแต่ง ครอบครัวเจ้าสาวจำใจจัดงานทุกอย่างเอง ทั้งๆ ที่ยากจน 

ภูเขาไฟปะทุบนเวทีกลางงานแต่ง เมื่อเจ้าบ่าวส่งไวน์ให้พ่อกล่าวอวยพร พ่อก็ปฏิเสธแถมพูดจาดูแคลนพ่อและครอบครัวของเจ้าสาวว่า ไม่รู้จักสอนลูก ผมคาดว่าคงจะสอนเรื่องการรักนวลสงวนตัว เจ้าบ่าวฉุนขาดจึงสาดไวน์ และขว้างแก้วลงกับพื้น ก่อนหันมาเตะแก้วทั้งแผงที่ตั้งโชว์อยู่บนโต๊ะ แขกช็อกเพราะเจอลูกหลง ยังดีที่ฝ่ายเจ้าสาวไม่ได้สั่งล็อคอาหารจานโปรด (ฮา) 

ปัญหาสามัญประจำประเทศแบบนี้ ไม่ใช่สงครามโลกก็จริงอยู่ ถึงกระนั้นก็ควรจะรู้ว่าอะไรคืออะไร กรณีนี้ทั้งพ่อและลูกชายได้ลอกคราบความเป็น มนุษย์ หวนกลับมาเป็น คน เพราะว่า สติหย่อนสมรรถภาพ จิตจึงไม่แข็งพอ (ฮา)

เว็บไซต์ South China Morning Post รายงานข่าวอลเวงว่า เมื่อ วันที่ 7 พ.ค. 2566 มีเหตุพิเศษเกิดขึ้น ที่เมืองหวยอัน มณฑลเจียงซู เจ้าบ่าวตัดใจทิ้งเจ้าสาวไว้กลางงานวิวาห์ รีบวิ่งเผ่นไปช่วยชีวิตคน เพราะว่า เฟิง ได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือจากโถงจัดเลี้ยงซึ่งกำลังจัดงานแต่ง ระยะทางอยู่กันไม่ใกล้ไม่ไกล 

หลังจากมีคนตะโกนว่า “มีคนล้มลง ที่นี่มีหมอหรือพยาบาลไหม” เจ้าสาวก็หูไวได้ยินเสียงเรียกจึงตะโกนบอก เฟิง โดยไม่ลังเลว่า “ไปช่วยชีวิตคนก่อน ฉันจะรอคุณ” เฟิง ทำงานประจำฝ่ายพยาบาลแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลประจำท้องถิ่น เฟิง รีบวิ่งไปดูอาการ ชายที่ล้มลงมีอาการชักและหมดสติ เขาขอให้แขกในงานแต่งช่วยโทรเรียกบริการฉุกเฉิน 

ในขณะที่ เฟิง ก็พยายามงัดปากเพื่อวางผ้าไว้ในปากของผู้ป่วย ป้องกันไม่ให้เขากัดลิ้น เฟิง บอกกับ Huaian TV ว่า “ในฐานะที่ทำงานทางการแพทย์ ผมต้องทำงานเงื่อนไขแบบนี้ให้ได้” คลิปนี้กระหึ่มใน Weibo ดึงดูด กฐินสปิริท กดไลค์นับล้าน ปาดหน้า ทัวร์สปีดฤทธิ์ (ฮา) เจ้าบ่าว กับ เจ้าสาว อิ่มใจกว่าอะไรอื่นที่ได้รู้ว่า เจ้าบ่าว กับ เจ้าสาว คือ มนุษย์สายพันธุ์เดียวกัน

คติธรรมชี้ว่า “สิ่งที่เหมือนกันย่อมดึงดูดกัน” อมตะเสมอ ถ้าไม่เชื่อก็ลองโทรไปถาม กกต. ดูสิ (ฮา)